backup og meta

กะเพรา สารอาหาร และคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย Duangkamon Junnet


เขียนโดย ธนชาติ จึงแย้มปิ่น · แก้ไขล่าสุด 28/09/2022

    กะเพรา สารอาหาร และคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ

    กะเพรา เป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งที่นิยมใช้นำมาเป็นเครื่องปรุงและส่วนประกอบของอาหารในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์มาตั้งแต่โบราณ และยังเป็นแหล่งแร่ธาตุหลายชนิด ทั้งแคลเซียม วิตามิน เหล็ก แมกนีเซียม โดยมีงานวิจัยหลายชิ้นรองรับว่า กะเพราอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น บรรเทาอาการวิตกกังวล ลดระดับน้ำตาลในเลือด ยับยั้งการขยายตัวของเซลล์มะเร็ง

    คุณค่าทางโภชนาการของ กะเพรา

    ใบกะเพราประมาณ ¼ ถ้วย ให้พลังงานประมาณ 1.38 กิโลแคลอรี่ และมีสารอาหารต่าง ๆ ดังนี้

    • โปรตีน 0.189 กรัม
    • คาร์โบไฮเดรต 0.159 กรัม
    • ใยอาหาร 0.096 กรัม
    • ไขมัน 0.038 กรัม
    • น้ำตาล 0.018 กรัม

    นอกจากนี้ กะเพรายังอุดมไปด้วยแร่ธาตุ เช่น แคลเซียม วิตามินเอ วิตามินเค แมงกานีส แมกนีเซียม เหล็ก สังกะสี โพแทสเซียม

    ประโยชน์ของกะเพราต่อสุขภาพ

    กะเพรา อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยมีงานศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนคุณสมบัติในการส่งเสริมสุขภาพของกะเพรา ดังนี้

    1. อาจช่วยบรรเทาความวิตกกังวลและความเครียด

    กะเพราอาจช่วยบรรเทาอาการของโรควิตกกังวลทั่วไป (Generalized Anxiety Disorder) โดยมีงานวิจัยที่สนับสนุนว่ากะเพราอาจมีฤทธิ์ในการคลายกังวลเทียบเท่ากับยานอนหลับและยาต้านเศร้า

    งานวิจัยหนึ่งที่เผยแพร่ในวารสาร Nepal Medical College Journal ปี พ.ศ. 2551 ทำการทดลองเกี่ยวกับประโยชน์ของกะเพราในการลดความวิตกกังวล โดยให้อาสาสมัคร 35 คน (ชาย 21 คน และหญิง 14 คน) รับประทานสารสกัดจากกะเพราขนาด 500 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้งหลังอาหาร เป็นเวลา 60 วัน พบว่า กะเพราช่วยบรรเทาโรควิตกกังวลทั่วไป รวมถึงความเครียดและอาการซึมเศร้าซึ่งเกิดร่วมกันได้อย่างมีนัยยะสำคัญ

    อย่างไรก็ตาม งานวิจัยหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร The Journal of Contemporary Dental Practice ปี พ.ศ. 2555 ระบุว่า แม้กะเพราอาจช่วยคลายกังวลได้ แต่มีประสิทธิภาพต่ำกว่าสารอื่น ๆ ที่ใช้คลายกังวล เช่น ยาอัลปราโซแลม (Alprazolam) ทั้งนี้ ยังคงเป็นการทดลองในสัตว์ ควรทำการทดลองเพิ่มเติมเพื่อยืนยันประสิทธิภาพของกะเพราในการลดความเครียดและความวิตกกังวลในมนุษย์

    1. อาจป้องกันมะเร็งได้

    กะเพรา อาจช่วยป้องกันมะเร็ง โดยการศึกษาหลายชิ้นระบุว่า สารต่าง ๆ ในกะเพรา เช่น ยูจีนอล (Eugenol) กรดโรสมารินิก ( Rosmarinic acid) อะพิจีนีน (Apigenin) ลูทีโอลิน (Luteolin) เอธานอล (Ethanol) อาจป้องกันโรคมะเร็งปอด มะเร็งปาก และมะเร็งตับได้

    งานวิจัยที่เผยแพร่ในวารสาร Cancer Lett ปี พ.ศ. 2556 เกี่ยวกับประโยชน์ของกะเพรากับมะเร็งตับอ่อน รายงานว่า สารสกัดต่าง ๆ จากใบกะเพราโดยเฉพาะในส่วนของสารสกัดเอธานอลและน้ำมันหอมระเหยจากกะเพรา อาจมีสรรพคุณยับยั้งการเพิ่มจำนวนและการก่อเนื้องอก ของเซลล์มะเร็งตับอ่อน ทั้งนี้ ยังคงเป็นการทดลองในหลอดทดลองและสัตว์ทดลองเท่านั้น ควรทำการทดลองเพิ่มเติมเพื่อยืนยันประสิทธิภาพของกะเพราในการป้องกันหรือรักษามะเร็ง

  • ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด

  • กะเพรา อาจช่วยระดับน้ำตาลในเลือด อันเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคเบาหวานได้ เนื่องจากมีสารประกอบมากมาย ที่มีคุณสมบัติช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด เช่น โพลีฟีนอล (Polyphenols) กรดคาเฟอิก (Caffeic) และยูจีนอล ซึ่งเป็นสารสำคัญในการลดระดับน้ำตาลในเลือด

    ในงานวิจัยเรื่องผลกระทบของผงกะเพราที่มีต่อระดับน้ำตาลในเลือดของหนูทดลองที่เป็นเบาหวาน ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Plant Foods for Human Nutrition ปี พ.ศ. 2540 นักวิจัยได้ให้หนูทดลองกินผงซึ่งทำจากใบกะเพรา เป็นเวลา 1 เดือน เพื่อทดสอบฤทธิ์ของกะเพราต่อระดับน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหาร ผลปรากฏว่า กะเพราช่วยลดระดับน้ำในเลือดได้อย่างมีนัยยะสำคัญ ทั้งนี้ ยังคงเป็นการทดลองในสัตว์ ควรทำการทดลองเพิ่มเติมเพื่อยืนยันประสิทธิภาพของกะเพราในการลดระดับน้ำตาลในเลือดของมนุษย์

    1. อาจช่วยรักษาแผลได้

    กะเพรามีสารไซโตไคน์ (Cytokine) ที่เรียกว่า Tumor Necrosis Factor-alpha (TNF-alpha) ซึ่งเป็นสารโปรตีนขนาดเล็กช่วยต่อต้านมะเร็ง ทำหน้าที่เกี่ยวกับการส่งสัญญาณระหว่างเซลล์ และช่วยในการกำจัดเซลล์ที่เสียหายหรือเซลล์ที่ร่างกายไม่ต้องการ นอกจากนี้ การทำงานของ TNF-alpha ยังเกี่ยวเนื่องกับการฟื้นฟูบาดแผล และการต้านทานต่อการติดเชื้อ

    ในงานวิจัยเกี่ยวกับประโยชน์ของเอนไซม์ในกะเพราและการเยียวยาบาดแผล ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Indian Journal of Physiology and Pharmacology ปี พ.ศ. 2549 ระบุว่า สารสกัดจากกะเพราทำให้การหดตัวของบาดแผล รวมถึงการสร้างเยื่อบุผิวบริเวณบาดแผล เป็นไปอย่างรวดเร็วมากขึ้น เนื่องจากสารสกัดจากกะเพราโดยเฉพาะเอนไซม์ในกะเพราที่สามารถช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ สารสกัดจากกะเพราดังกล่าว ยังอาจช่วยสมานให้แผลที่ถูกกดหรือกระแทกฉีกขาดยากขึ้นด้วย

    ข้อควรระวังในการบริโภค กะเพรา

    ปัจจุบัน ยังไม่มีการวิจัยที่บ่งชี้เกี่ยวกับผลข้างเคียงของการบริโภคกะเพราในทารก เด็ก หญิงตั้งครรภ์ หรือหญิงให้นมบุตร อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตทางวิทยาศาสตร์ว่า การบริโภคกะเพราในปริมาณมาก อาจส่งผลต่อ

    • พัฒนาการของทารกในครรภ์
    • การเป็นประจำเดือน
    • การทำงานของระบบสืบพันธุ์เพศชาย และการมีบุตร

    นอกจากนี้ สารยูจีนอลในกะเพรา อาจเป็นสาเหตุของอาการคลื่นไส้ ท้องเสีย หัวใจเต้นเร็ว รวมถึงตับเสียหาย หากบริโภคกะเพราในปริมาณมากเกินไป ดังนั้น จึงควรรับประทานกะเพราด้วยความระมัดระวัง

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    Duangkamon Junnet


    เขียนโดย ธนชาติ จึงแย้มปิ่น · แก้ไขล่าสุด 28/09/2022

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา