backup og meta

ประโยชน์ของน้ำมะพร้าว และข้อควรระวังในการบริโภค

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย Duangkamon Junnet


เขียนโดย ธนชาติ จึงแย้มปิ่น · แก้ไขล่าสุด 17/11/2022

    ประโยชน์ของน้ำมะพร้าว และข้อควรระวังในการบริโภค

    น้ำมะพร้าว เป็นน้ำที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติอยู่ในผลมะพร้าวอ่อน สีใสหรือขาวขุ่น มีกลิ่นหอม ให้รสหวานนิด ๆ บางผลอาจมีรสเปรี้ยวเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับอายุของลูกมะพร้าว โดยทั่วไป นิยมดื่มน้ำมะพร้าวสดเพื่อดับกระหาย หรือปั่นกับน้ำแข็งและนมเป็นเครื่องดื่มคลายร้อน ทั้งนี้ น้ำมะพร้าวมีสารอาหาร แร่ธาตุ และวิตามินนานาชนิด เช่น วิตามินซี แมกนีเซียม โพแทสเซียม และประโยชน์ของน้ำมะพร้าวมีหลายประการ เช่น อาจช่วยลดความดันเลือด ป้องกันนิ่วในไต ช่วยให้ออกกำลังกายได้นานขึ้น

    คุณค่าทางโภชนาการของ น้ำมะพร้าว

    น้ำมะพร้าว 100 มิลลิลิตร ให้พลังงานประมาณ 18 กิโลแคลอรี่ รวมถึงสารอาหารต่าง ๆ ดังนี้

    • คาร์โบไฮเดรต 4.24 กรัม
    • โปรตีน 0.72 กรัม
    • โพแทสเซียม 165 มิลลิกรัม
    • โซเดียม 26 มิลลิกรัม
    • วิตามินซี 9.9 มิลลิกรัม
    • แคลเซียม 7 มิลลิกรัม
    • แมกนีเซียม 6 มิลลิกรัม
    • ฟอสฟอรัส 5 มิลลิกรัม

    นอกจากนี้ ในน้ำมะพร้าวยังมีแร่ธาตุอย่างทองแดง สังกะสี และแมงกานีส รวมถึงวิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 และวิตามินบี 6

    ประโยชน์ของน้ำมะพร้าว ต่อสุขภาพ

    น้ำมะพร้าว อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยมีงานศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุน ประโยชน์ของน้ำมะพร้าว ดังนี้

    อาจช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด

    หากร่างกายมีความดันเลือดสูง อาจเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง ในน้ำมะพร้าวมีธาตุอาหารโพแทสเซียมซึ่งมีคุณสมบัติลดความดันเลือดไม่ให้สูงเกินไป การบริโภคน้ำมะพร้าวจึงอาจช่วยลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดชนิดหนึ่งได้

    งานวิจัยชิ้นหนึ่ง เรื่องประโยชน์ของการได้รับโพแทสเซียมในปริมาณสูง ตีพิมพ์ในวารสาร Hypertension ปี พ.ศ. 2561 ระบุว่า การได้รับโพแทสเซียมในปริมาณสูงสัมพันธ์กับความดันเลือดที่ลดลง ทั้งนี้ หนึ่งในวิธีลดความดันเลือดสำหรับผู้ที่เป็นโรคความดันเลือดสูงหรือมีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดควรปฏิบัติตาม คือ การที่ร่างกายได้รับโพแทสเซียมวันละประมาณ 4.7 กรัม

    อาจช่วยป้องกันนิ่วในไต

    น้ำมะพร้าวมีคุณสมบัติกระตุ้นให้ร่างกายขับธาตุอาหารส่วนเกินที่สะสมอยู่ไตออกจากร่างกายผ่านทางปัสสาวะ ดังนั้น การดื่มน้ำมะพร้าวจึงอาจช่วยป้องกันนิ่วในไตได้

    งานวิจัยชิ้นหนึ่ง เรื่องน้ำมะพร้าวกับสารซิเตรด (Citrate) ในปัสสาวะ เผยแพร่ในวารสาร BioMed Research International ปี พ.ศ. 2561 นักวิจัยให้ผู้ที่ไม่เคยเป็นนิ่วในไตจำนวนหนึ่งบริโภคน้ำมะพร้าวติดต่อกันเป็นเวลา 4 วัน โดยห้ามรับประทานเครื่องดื่มอื่น ๆ ตามด้วยให้บริโภคน้ำเปล่าอีก 4 วัน ภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน และในช่วงท้ายของการทดลองแต่ละช่วง นักวิจัยจะตรวจตัวอย่างปัสสาวะของผู้เข้าร่วมการทดลอง ผลปรากฏว่า พบสารซิเตรด โพแทสเซียม และคลอไรด์ในปัสสาวะเพิ่มสูงขึ้น จึงสรุปได้ว่า น้ำมะพร้าวมีส่วนช่วยกระตุ้นให้ร่างกายระบายซิเตรด โพแทสเซียม และคลอไรด์ ผ่านทางปัสสาวะได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยไม่ส่งผลต่อความเป็นกรด-ด่างของปัสสาวะ

    อาจช่วยให้ออกกำลังกายได้นานขึ้น

    น้ำมะพร้าวมีสารอาหารกลุ่มอิเล็กโทรไลต์ (Electrolytes) อย่างโพแทสเซียมและแมกนีเซียม ซึ่งช่วยเพิ่มพลังงานและลดการสูญเสียน้ำเมื่อทำกิจกรรมออกแรงหรือออกกำลังกาย ดังนั้น การดื่มน้ำมะพร้าวจึงอาจส่งผลดีต่อความสามารถในการออกกำลังกาย เช่นเดียวกับน้ำเกลือแร่ต่าง ๆ ที่ผู้ออกกำลังกายนิยมดื่มกัน

    งานวิจัยชิ้นหนึ่ง ศึกษาเกี่ยวกับคุณสมบัติของน้ำมะพร้าวต่อประสิทธิภาพการออกกำลังกาย ตีพิมพ์ในวารสาร Motriz ปี พ.ศ. 2557 นักวิจัยให้ผู้ชาย 8 ราย ออกกำลังกายท่ามกลางอากาศร้อนทั้งหมด 3 รอบ โดยก่อนออกกำลังกายแต่ละรอบ ให้ผู้เข้าร่วมการทดลองดื่มเครื่องดื่มต่างชนิดกัน ได้แก่ น้ำเปล่า เครื่องดื่มแต่งรส และน้ำมะพร้าว

    เมื่อการทดลองสิ้นสุดลง นักวิจัยได้เปรียบเทียบผลลัพธ์จากการออกกำลังกายทั้ง 3 รอบ พบว่า น้ำมะพร้าวมีคุณสมบัติลดการขับน้ำออกจากร่างกายได้ดีกว่าน้ำเปล่าและเครื่องดื่มแต่งรส จึงช่วยให้กลุ่มตัวอย่างออกกำลังกายกลางอากาศร้อนได้นานกว่าการดื่มเครื่องดื่มทั้งสองชนิด

    อาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้

    น้ำมะพร้าว เป็นเครื่องดื่มน้ำตาลต่ำ จึงเหมาะกับผู้ป่วยเบาหวานหรือผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้สูงเกินไป

    นอกจากนี้ โพแทสเซียมในน้ำมะพร้าวยังทำงานสัมพันธ์กับฮอร์โมนอินซูลินซึ่งมีหน้าที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ดังนั้น การดื่มน้ำมะพร้าวจึงอาจช่วยป้องกันระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น

    งานวิจัยชิ้นหนึ่ง เรื่องประสิทธิภาพลดระดับน้ำตาลในเลือดของน้ำมะพร้าว ตีพิมพ์ในวารสาร Food & Function ปี พ.ศ. 2555 นักวิจัยได้ทดสอบคุณสมบัติของน้ำมะพร้าวต่อการช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดในหนูสุขภาพดีและหนูที่เป็นโรคเบาหวาน พบว่า หนูทดลองที่ได้รับการรักษาด้วยการบริโภคน้ำมะพร้าวมีระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำลงอย่างมีนัยสำคัญ จึงสรุปว่า น้ำมะพร้าวมีส่วนช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดในหนูทดลองที่เป็นโรคเบาหวานได้จริง

    นอกจากนี้ นักวิจัยยังพบว่า การดื่มน้ำมะพร้าวช่วยบรรเทาภาวะเครียดออกซิเดชัน (Oxidative Stress) ซึ่งเป็นสาเหตุของการอักเสบภายในร่างกายและการเจ็บป่วย

    อย่างไรก็ตาม ยังคงเป็นการทดลองในสัตว์ ควรมีการทดลองในมนุษย์เพิ่มเติม เพื่อยืนยันว่าการดื่มน้ำมะพร้าวมีส่วนช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดและอาจป้องกันเบาหวานได้

    ข้อควรระวังในการบริโภค น้ำมะพร้าว

    แม้ว่า ประโยชน์ของน้ำมะพร้าว จะมีหลายประการ อย่างไรก็ตาม การบริโภคน้ำมะพร้าวมีข้อควรระวังดังนี้

    • น้ำมะพร้าวมีโพแทสเซียมสูง จึงไม่เหมาะกับผู้ที่มีภาวะโพแทสเซียมในเลือดสูง (Hyperkalaemia)
    • น้ำมะพร้าวไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับไต เนื่องจากไตอาจขับโพแทสเซียมจากน้ำมะพร้าวออกทางปัสสาวะได้น้อยกว่าที่ควร ซึ่งสามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพได้
    • น้ำมะพร้าวอาจส่งผลต่อความดันเลือดและระดับน้ำตาลในเลือดระหว่างหรือหลังผ่าตัด ดังนั้น ก่อนผ่าตัดควรงดน้ำมะพร้าวอย่างน้อย 2 สัปดาห์
    • เด็ก หญิงตั้งครรภ์ และหญิงในระยะให้นมบุตร สามารถบริโภคน้ำมะพร้าวได้โดยไม่ส่งผลเสียใด ๆ ต่อร่างกาย ทั้งนี้ สำหรับหญิงตั้งครรภ์ สารอาหารในน้ำมะพร้าวอาจเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ด้วย อย่างไรก็ตาม ควรเลือกดื่มน้ำมะพร้าวสด หรือเครื่องดื่มจากน้ำมะพร้าวชนิดหวานน้อยหรือไม่เติมน้ำตาล เพื่อป้องกันระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นซึ่งอาจนำไปสู่โรคเบาหวานได้

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    Duangkamon Junnet


    เขียนโดย ธนชาติ จึงแย้มปิ่น · แก้ไขล่าสุด 17/11/2022

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา