backup og meta

5 ผลไม้สำหรับผู้ป่วยโรคหอบหืด ที่ควรรับประทานบรรเทาอาการหอบหืด

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน · แก้ไขล่าสุด 27/11/2023

    5 ผลไม้สำหรับผู้ป่วยโรคหอบหืด ที่ควรรับประทานบรรเทาอาการหอบหืด

    ถึงแม้ผลไม้แทบทุกชนิดจะให้สารอาหาร และวิตามินจากธรรมชาติที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของเรา แต่สำหรับผู้ที่เป็นโรคหอบหืดแล้วก็อาจรับประทานผลไม้ได้เพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้น วันนี้บทความของ Hello คุณหมอ จึงขอนำ ผลไม้สำหรับผู้ป่วยโรคหอบหืด ที่สามารถรับประทานได้อย่างหายกังวลใจ มาฝากกันค่ะ

    สารอาหารในผลไม้ ที่ผู้ป่วยโรคหอบหืดควรได้รับ

    ผลไม้ประกอบด้วยวิตามิน และใยอาหารมากมายที่คอยช่วงเสริมสร้างระบบภูมิคุ้ม หรือบรรเทาอาการรุนแรงในโรคหอบหืด สารอาหารต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ อาจช่วยคุณได้

    จากหลักฐานชิ้นหนึ่งพบว่าพบวิตามินดีสามารถลดความเสี่ยงของการเกิดอาการรุนแรงในโรคหอบหืดได้ และยังส่งเสริมการทำงานของปอดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมช่วยลดการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนอย่างไข้หวัดได้ ซึ่งอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินดีที่คุณหารับประทานได้ง่าย ๆ นั้น ได้แก่ ไข่แดง เห็ด ปลาแซลมอน ปลาทูน่า เป็นต้น

    • วิตามินซี

    เป็นที่ทราบกันดีว่าวิตามินซีมีส่วนช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับสารแปลกปลอมที่อาจเข้ามาทำลายเนื้อเยื่อ มากไปกว่านั้นยังช่วยปรับปรุงการทำงานของปอด และควบคุมอาการของโรคหอบหืดได้ โดยส่วนใหญ่วิตามินซีมักมาจากผลไม้รสเปรี้ยว และผัก

    •  ฟลาโวนอยด์

    ฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีบทบาทสำคัญช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของเราทำงานได้ดีขึ้น พร้อมลดปฏิกิริยาออกซิเดชันที่อาจทำลายเซลล์ต่าง ๆ ได้ ส่วนใหญ่ฟลาโวนอยด์มักอยู่ในผักผลไม้ชนิดต่าง ๆ เช่น แอปเปิ้ล ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ องุ่น รวมไปถึงชาเขียว และชาดำ

    5 ผลไม้สำหรับผู้ป่วยโรคหอบหืด มีอะไรบ้าง

    ถึงแม้ว่าจะมีอาหารบางชนิดที่ช่วยลดอาการของโรคหอบหืดได้ แต่ก็อาจได้รับไขมัน หรือสารอาหารต่าง ๆ ที่ไม่ดีต่อร่างกายจนก่อให้เกิดโรคอื่น ๆ แทรกซ้อนเข้ามาด้วย Kelly Jones  คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการการกีฬากล่าวว่า การลดอาหารแปรรูป เนื้อแดงลง เพิ่มปริมาณของผักผลไม้ในแต่ละมื้ออาจส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน และดีต่อผู้ป่วยโรคหอบหืดได้มากกว่า

    5 ผลไม้ที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคหอบหืด มีดังนี้

    1.ส้ม

    เนื่องจากส้มเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีในระดับเข้มข้น ที่ช่วยลดการอักเสบภายในปอด จากการทบทวนการศึกษาปี พ.ศ. 2560 ผลไม้รสเปรี้ยวที่รวมถึงส้มนี้ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีส่วนช่วยบรรเทาอาการหอบหืด และควรรับประทานเป็นประจำทุกวัน

    2.ทับทิม

    ทับทิมมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพซ่อมแซมความเสียหายเนื้อเยื่อปอด และทางเดินหายใจที่เกิดจากการอักเสบ คุณสามารถรับประทานทั้งแบบผลไม้สด หรือน้ำผลไม้ได้แต่ควรพิจารณาถึงสารประกอบอื่น ๆ เช่น กลูโคส ให้ดี เพราะอาจแต่งเติมรสชาติหวานจนเกิดไปเสี่ยงต่อการเกิดโรคอื่น ๆ

    3.แก้วมังกร

    แก้วมังกรประกอบไปด้วยวิตามิน C , B1 , B2 , B3 , แคลเซียม , ฟอสฟอรัส และไนอาซิน ที่เป็นแร่ธาตุสำคัญช่วยปรับปรุงการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และทางเดินหายใจ เช่น อาการไอ ไข้หวัดธรรมดา ไข้หวัดใหญ่ หรือแม้กระทั่ง โรคหอบหืด นี้ด้วย

    4.กีวี

    วิตามินซีปริมาณมากที่อยู่ในกีวี อาจช่วยกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันมีการทำงานได้ดีขึ้น พร้อมทั้งยังช่วยกำจัดอนุมูลอิสระที่เป็นตัวก่อให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน และการอักเสบ ให้คุณห่างไกลจาก โรคหอบหืด และโรคอื่น ๆ ได้

    5.แอปเปิ้ล

    แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ใกล้ตัวอีกชนิดที่คุณอาจไม่รู้เลยว่าเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์มากมาย ไม่เว้นแม้แต่การบำรุงปอด เนื่องจากแอปเปิ้ลมีฟลาโวนอยด์ ลดความเสียหายจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน ต้านอนุมูลอิสระไม่แพ้กับผลไม้ชนิดอื่น ๆ

    ถึงแม้ว่าผลไม้ทั้ง 5 ชนิดข้างต้นจะเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคหอบหืด แต่ในกรณีที่บุคคลนั้นมีประวัติแพ้ผลไม้เหล่านี้ ก็อาจจำเป็นต้องหลีกเลี่ยง และเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์เสียก่อนว่าผลไม้ชนิดใดบ้างที่เหมาะแก่ภาวะสุขภาพของคุณ เพื่อลดโอกาสการแพ้อาหารที่รุนแรง

    ปัจจัยที่ควรระวัง ป้องกัน โรคหอบหืด

    ตามคำแนะนำของ Amercian Lung Association (ALA) ผู้ป่วยที่เป็น โรคหอบหืด อาจจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงอาหาร หรือเครื่องดื่ม พร้อมปัจจัยอื่น ๆ ดังต่อไปนี้ ร่วมด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้อาการกำเริบรุนแรง หรือระบบทางเดินหายใจของคุณแย่ลง

    • อาหารที่มีซัลไฟต์ (Sulfites) เช่น แอลกอฮอล์ อาหารหมักดอง ผลไม้อบแห้ง
    • ซาลิไซเลต (Salicylates) เป็นสารประกอบที่อยู่ในอาหารรสเผ็ด กาแฟ และชา
    • มลพิษทางอากาศ
    • ไรฝุ่น เชื้อรา
    • ควันพิษจากควันบุหรี่ การเผาไหม้ของถ่าน

    ที่สำคัญหากคุณมีอาการหอบหืดที่แย่ลง เช่น หายใจไม่ออก หายใจถี่แรง และชัก โปรดเข้ารับการรักษาฉุกเฉินโรงพยาบาลใกล้แหล่งที่อยุูอาศัยของคุณในทันที ก่อนเกิดอันตรายต่อสุขภาพโดยรวม และระบบทางเดินหายใจ

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


    เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน · แก้ไขล่าสุด 27/11/2023

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา