โรคทางเดินหายใจ

ระบบทางเดินหายใจ มีส่วนสำคัญในการทำงานตามปกติของร่างกาย ดังนั้น คุณจึงควรเรียนรู้วิธีการรักษาสุขภาพของระบบทางเดินหายใจของคุณให้แข็งแรง ห่างไกลจากความเจ็บป่วย เรียนรู้เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ รวมถึง โรคทางเดินหายใจ ได้ที่นี่

เรื่องเด่นประจำหมวด

โรคทางเดินหายใจ

น้ำมูกไหลเป็นน้ำใสๆ ไม่หยุด ทำอย่างไรจึงจะหาย

น้ำมูกไหลเป็นน้ำใส ๆ ไม่หยุด เป็นอาการที่ร่างกายมีของเหลวเป็นน้ำใส ๆ ไหลออกมาทางจมูกตลอดเวลา เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น โรคภูมิแพ้อากาศ ไข้หวัด รักษาให้หายได้โดยการหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้หรือบางรายอาจต้องรับประทานยาเพื่อรักษาอาการ หาก น้ำมูกไหลเป็นน้ำใสๆ ไม่หยุด เป็นระยะเวลานาน อาจเป็นสัญญาณเตือนภาวะสุขภาพที่ต้องระวัง เช่น โรคริดสีดวงจมูก โรคไซนัสอักเสบเรื้อรัง ควรไปพบคุณหมอเพื่อรับการรักษา [embed-health-tool-bmi] น้ำมูกไหลเป็นน้ำใสๆ ไม่หยุด เกิดจากอะไร อาการน้ำมูกไหลเป็นน้ำใสๆ ไม่หยุดเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังต่อไปนี้ สาเหตุจากโรคภูมิแพ้ (Allergy) เป็นโรคที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้มากกว่าปกติ เป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ที่ทำให้เกิดอาการน้ำมูกไหลเป็นน้ำใส ๆ ไม่หยุด นอกจากนี้ ยังอาจก่อให้เกิดอาการร่วมอื่น ๆ เช่น จาม ไอเรื้อรัง คันและระคายเคืองบริเวณตาหรือคอ สาเหตุจากโรคอื่น ๆ ยกตัวอย่าง เช่น โรคไซนัสอักเสบเรื้อรัง เกิดจากการติดเชื้อต่าง ๆ เช่น แบคทีเรีย ไวรัส หรือมีอาการแพ้อย่างรุนแรง จนทำให้มีอาการปวด คัดจมูก น้ำมูกไหล หายใจติดขัด มีเสมหะข้นเหนียว ปวดใบหน้าบริเวณหน้าผาก หัวตา หู […]

สำรวจ โรคทางเดินหายใจ

โรคทางเดินหายใจ

ไอ เกิดจากอะไร และควรรักษาอย่างไร

ไอ เป็นอาการที่ร่างกายตอบสนองต่อการระคายเคืองของสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ ซึ่งอาจทำให้ทราบถึงอาการป่วยในระยะแรกและสัญญาณเตือนของโรคต่าง ๆ เช่น โรคไข้หวัดธรรมดา โรคไข้หวัดใหญ่ โรคโควิด-19 เพื่อเข้ารับการวินิจฉัยหรือรักษาได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องรอให้อาการหนักรุนแรง [embed-health-tool-bmi] ไอ คืออะไร  ไอ คือ กระบวนการตอบสนองของร่างกาย เมื่อมีสิ่งระคายเคืองหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ เช่น ฝุ่น น้ำมูก ละอองน้ำหอม เชื้อแบคทีเรีย โดยการระคายเคืองนั้นจะกระตุ้นเส้นประสาทที่ส่งไปยังสมองสั่งให้เกิดอาการไอ เพื่อช่วยขับสิ่งแปลกปลอมที่ส่งผลให้ระคายเคืองออกมา อาการไอแบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน ดังนี้ อาการไอแห้ง เป็นอาการไอที่ไม่มีเสมหะ เนื่องจากไม่มีเสมหะ หรือน้ำมูกอุดตันอยู่ในปอดหรือทางเดินหายใจ แต่อาจส่งผลให้มีอาการคอแห้ง ระคายเคืองภายในลำคอ และเจ็บคอ โดยอาการไอแห้งอาจเกิดขึ้นเมื่อเป็นกรดไหลย้อน การเจ็บป่วย สำลักอาหาร สูบบุหรี่ และผลข้างเคียไองจากยาบางชนิด  อาการไอแบบมีเสมหะ เป็นอาการไอที่มาพร้อมกับเสมหะในลำคอ มีลักษณะเป็นเมือกสีขาวใส สีขาวขุ่น สีเขียว สีเหลือง ที่อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย การติดเชื้อไวรัส เป็นสัญญาณเตือนแรกของอาการเจ็บป่วย ที่ควรเข้ารับการรักษาหรือรับประทานยาแก้ไอและลายเสมหะ เพราะหากภายในปอดมีเสมหะมากเกินไปอาจนำไปสู่การหายใจลำบากได้ อาการไอดังกล่าว อาจเกิดขึ้นได้แบบเฉียบพลันหรืออาจเรื้อรังเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ดังนั้น จึงควรสังเกตอาการอื่น ๆ ร่วม เพื่อเช็กตนเองว่ากำลังเจ็บป่วยอยู่หรือไม่ เช่น มีไข้สูง […]


ปัญหาระบบทางเดินหายใจแบบอื่น

แน่นหน้าอก หายใจลำบาก สาเหตุและการดูแลตัวเอง

แน่นหน้าอก หายใจลำบาก เป็นอาการป่วยที่มักมีสาเหตุหลักมาจากปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับหัวใจและปอด เช่น โรคกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ โรคหลอดเลือดหัวใจ วัณโรค โรคโควิด-19 ทั้งนี้ เมื่อพบอาการแน่นหน้าอก หายใจลำบาก ควรไปพบคุณหมอ เพราอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพซึ่งหากปล่อยไว้จะยิ่งแย่ลงหรืออาจเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตได้ [embed-health-tool-bmr] แน่นหน้าอก หายใจลำบากเกิดจากสาเหตุใดบ้าง แน่นหน้าอก หายใจลำบาก เป็นอาการป่วยที่มักเกิดขึ้นพร้อม ๆ กัน และมีสาเหตุหลัก ๆ มาจากปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวกับหัวใจและปอด เนื่องจากอวัยวะทั้ง 2 อย่างนี้ สัมพันธ์กับการหายใจ หรือการแลกเปลี่ยนออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ภายในร่างกาย สำหรับปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับหัวใจและปอด หมายถึงโรคต่างๆดังนี้ ปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับหัวใจ โรคกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ โรคเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน โรคหลอดเลือดหัวใจ หัวใจล้มเหลว หัวใจเต้นผิดจังหวะ ปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับปอด โรคครูป โรคซาร์คอยโดซิส โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคมะเร็งปอด เยื่อหุ้มปอดอักเสบ น้ำท่วมปอด พังผืดที่ปอด ปอดรั่ว ความดันเลือดปอดสูง วัณโรค โรคโควิด-19 นอกจากปัญหาสุขภาพข้างต้น อาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ยังอาจเกิดขึ้นจากสาเหตุอื่น ๆ ดังต่อไปนี้ โรคหอบหืด ความเครียด โรควิตกกังวล โรคอ้วน โรคกรดไหลย้อน ซี่โครงหัก […]


โรคทางเดินหายใจ

แสบจมูก เกิดจากอะไร และวิธีบรรเทาอาการแสบจมูกที่เหมาะสม

แสบจมูก เป็นอาการที่พบได้ทั่วไป เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้หรือภูมิแพ้อากาศ โรคจมูกอักเสบชนิดไม่แพ้ โรคไซนัสอักเสบ อุณหภูมิและความชื้นในอากาศเปลี่ยนแปลงกะทันหัน และการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคโควิด-19 โรคไข้หวัดใหญ่ โรคไข้หวัด ก็อาจทำให้แสบจมูกได้เช่นกัน โดยทั่วไปอาการแสบจมูกอาจบรรเทาได้ด้วยการล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ การกินยารักษาตามอาการ การใช้เครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศ การพักผ่อนให้เพียงพอ เป็นต้น แต่หากดูแลตัวเองเบื้องต้นแล้วอาการไม่ดีขึ้น หรืออาการที่เป็นอยู่กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันและการนอนหลับ ควรไปพบคุณหมอเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม [embed-health-tool-bmi] แสบจมูก เกิดได้จากสาเหตุใดบ้าง อาการ แสบจมูก อาจเกิดได้จากสาเหตุต่อไปนี้ โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ (Allergic Rhinitis) หรือภูมิแพ้อากาศ เป็นโรคที่พบได้บ่อย เกิดจากการตอบสนองที่ผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันต่อสารก่อภูมิแพ้ เช่น ฝุ่น รา ละอองเกสรดอกไม้ ขนสัตว์ หรือเมื่อสัมผัสกับการเปลี่ยนแปลงของอากาศ ความชื้นในอากาศ ทำให้เนื้อเยื่อจมูกอักเสบ ส่งผลให้มีอาการคัดจมูก แสบจมูก จมูกบวมแดง ไอ มีสารคัดหลั่งปริมาณมากสะสมอยู่ในโพรงจมูก น้ำมูกไหลลงคอ ทั้งยังทำให้คันตา ตาแดงได้ด้วย โดยผู้ที่มีคนในครอบครัวเป็นภูมิแพ้อากาศจะเสี่ยงเกิดโรคนี้ได้มากกว่าคนทั่วไป วิธีรักษา หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้หรือสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ให้ได้มากที่สุด อาจช่วยให้อาการบรรเทาได้ ใช้ยาแก้แพ้กลุ่มที่ไม่กดประสาท (Non-sedating antihistamines) เช่น เฟกโซเฟนาดีน (Fexofenadine) เลโวเซทิริซีน (Levocetirizine) […]


โรคทางเดินหายใจ

ระบบหายใจ คืออะไร มีกระบวนการทำงานอย่างไร

ระบบหายใจ หรือระบบทางเดินหายใจเป็นระบบการทำงานในร่างกายที่เกี่ยวข้องการหายใจเข้าออกเพื่อแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ในกระแสเลือด โดยประกอบไปด้วยอวัยวะต่าง ๆ ทำงานร่วมกัน เช่น จมูก ปาก หลอดลม ปอด หากเกิดความผิดปกติกับระบบทางเดินหายใจ เช่น ติดเชื้อไวรัส ติดเชื้อแบคทีเรีย ติดเชื้อรา ก็อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของร่างกายได้ ดังนั้น จึงควรสังเกตอาการผิดปกติและควรดูแลตัวเองให้ดี เพราะบางโรคอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างรุนแรงเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ [embed-health-tool-heart-rate] ระบบหายใจ คืออะไร ระบบหายใจ หรือระบบทางเดินหายใจ คือ ระบบการทำงานในร่างกายที่ช่วยแลกเปลี่ยนออกซิเจนเมื่อหายใจเข้าและปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เมื่อหายใจออก ซึ่งเมื่อออกซิเจนเข้าสู่กระแสเลือดจะถูกส่งต่อไปยังเซลล์ในร่างกายเพื่อช่วยให้อวัยวะส่วนต่าง ๆ มีประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้น อีกทั้งระบบหายใจยังช่วยให้รับรู้กลิ่นได้อีกด้วย กระบวนการทำงานของ ระบบหายใจ กระบวนการทำงานของระบบหายใจเกิดขึ้นจากการทำงานร่วมกันกับอวัยวะส่วนต่าง ๆ ได้แก่ ปาก จมูก ไซนัส คอหอย กล่องเสียง หลอดลม หลอดลมฝอย ปอด เส้นเลือดฝอย เยื่อหุ้มปอด ถุงลม ที่แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ ดังนี้ กระบวนการทำงานเมื่อหายใจเข้า กระบวนการหายใจเข้าเริ่มต้นจากกะบังลมหดตัวและเลื่อนต่ำลง ทำให้เกิดช่องว่างในปอด ให้อากาศสามารถไหลผ่านจมูกและปากเข้ามา โดยอากาศจะผ่านไซนัสที่มีส่วนช่วยควบคุมอุณหภูมิของอากาศและผ่านคอหอย กล่องเสียงที่จะนำส่งอากาศไปยังหลอดลมหลักซึ่งเชื่อมอยู่ระหว่างคอและปอด ก่อนจะลงไปยังหลอดลมฝอยที่เชื่อมกับปอดด้านซ้ายและด้านขวา จากนั้นอากาศจะเข้าสู่กระแสเลือดแล้วถูกส่งไปยังหัวใจ จากนั้นหัวใจจะทำหน้าที่ต่อด้วยการสูบฉีดเม็ดเลือดแดงที่เต็มไปด้วยออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงเนื้อเยื่อและเซลล์ของอวัยวะในร่างกาย กระบวนการทำงานเมื่อหายใจออก ในระหว่างที่สูดอากาศเพื่อนำออกซิเจนเข้า หลอดลมฝอยในถุงลมจะมีการแลกเปลี่ยนก๊าซขึ้น โดยจะนำออกซิเจนเข้าและกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ออกผ่านการหายใจออก โดยกะบังลมจะคลายตัวและช่วยดันอากาศออกผ่านทางหลอดลมที่ออกมาทางจมูกหรือปาก [embed-health-tool-heart-rate] โรคทางเดินหายใจ […]


ปัญหาระบบทางเดินหายใจแบบอื่น

มีเสมหะในคอ ควรดูแลตัวเองอย่างไรให้อาการดีขึ้น

เสมหะ เป็นสารคัดหลั่งจากปาก จมูก หรือลำคอ มีหน้าที่ ดักจับฝุ่นละออง สารก่อภูมิแพ้ หรือเชื้อโรคที่อาจเข้าสู่ร่างกายและทำให้ระบบหายใจมีปัญหา หาก มีเสมหะในคอ มากกว่าปกติ มักเป็นสัญญาณเตือนว่าร่างกายกำลังป่วย ควรดูแลตัวเองด้วยการดื่มน้ำปริมาณมาก งดการสูบบุหรี่ หรือรับประทานยาละลายเสมหะ [embed-health-tool-bmr] เสมหะ คืออะไร เสมหะหรือเสลด เป็นสารคัดหลั่งที่เหนียวและข้นซึ่งผลิตจากเยื่อเมือกบริเวณจมูก ปาก ลำคอ หรือปอด มีหน้าที่ดักจับฝุ่นละออง สารก่อภูมิแพ้ หรือเชื้อโรค ซึ่งหากเข้าสู่ร่างกายในปริมาณมากอาจทำให้ระบบหายใจแย่ลงได้ โดยทั่วไป เสมหะจะมีปริมาณน้อยและไม่ทำให้รู้สึกรำคาญ อย่างไรก็ตาม หากปริมาณของเสมหะมากขึ้นจนผิดสังเกต หรือต้องบ้วนออกบ่อย ๆ จะหมายความว่าร่างกายได้รับฝุ่นละอองหรือเชื้อโรคในระดับที่มากกว่าปกติ หรือกำลังป่วยอยู่ เช่น เป็นไข้หวัด หลอดลมอักเสบ ไซนัสอักเสบ วัณโรค มีเสมหะในคอ ควรดูแลตัวเองอย่างไรให้เสมหะลดลง เมื่อมีเสมหะในลำคอมากผิดปกติ ควรดูแลตัวเองด้วยวิธีการต่อไปนี้เพื่อบรรเทาอาการ เปิดเครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศ (Humidifier) เนื่องจากอากาศที่แห้งมักทำให้จมูกหรือลำคอระคายเคือง และส่งผลให้ร่างกายต้องผลิตเสมหะมากขึ้น ดื่มน้ำเปล่าหรือเครื่องดื่มอื่น ๆ เพื่อเจือจางเสมหะในลำคอ และทำให้เสมหะถูกขับออกจากร่างกายได้ง่ายขึ้น กลั้วคอด้วยน้ำเกลือ เป็นเวลา 30-60 วินาทีแล้วบ้วนออก สูดดมน้ำมันหอมระเหยยูคาลิปตัส เนื่องจากมีสารยูคาลิปทอล (Eucalyptol) ซึ่งมีคุณสมบัติส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน เมื่อสูดดมแล้วอาจช่วยบรรเทาอาการของโรคหวัดหรือหลอดลมอักเสบซึ่งเป็นสาเหตุให้มีเสมหะในลำคอมากขึ้นได้ […]


โรคทางเดินหายใจ

โรคเกี่ยวกับระบบหายใจ มีโรคอะไรบ้าง

โรคเกี่ยวกับระบบหายใจ คือโรคที่เกี่ยวกับสุขภาพของปอด หลอดลม กล่องเสียง หรือถุงลม เช่น โรคถุงลมปอดโป่งพอง โรคมะเร็งปอด วัณโรค มักเกิดจากการสูบบุหรี่ การอยู่ในที่ที่มีฝุ่นละอองหรือเขม่าควันเป็นประจำ การสูดดมควันบุหรี่หรือที่เรียกว่าการสูบบุหรี่มือสอง [embed-health-tool-bmi] โรคเกี่ยวกับระบบหายใจคืออะไร โรคเกี่ยวกับระบบหายใจ หมายถึง โรคต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอวัยวะในระบบหายใจ เช่น ปอด หลอดลม กล่องเสียง ถุงลม สาเหตุของโรคมักสัมพันธ์กับการติดเชื้อ การสูบบุหรี่ การสูดดมฝุ่นละออง เขม่าควัน หรือสารพิษ เข้าสู่ร่างกาย โรคเกี่ยวกับระบบหายใจ มีโรคอะไรบ้าง โรคเกี่ยวกับระบบหายใจมีหลายโรค ดังต่อไปนี้ โรคหอบหืด หอบหืด หรือบางครั้งเรียกว่าโรคหืด เป็นโรคที่มักพบในเด็ก อาการของโรค ได้แก่ หลอดลมอักเสบเรื้อรัง และไวต่อสิ่งกระตุ้นต่างๆ อย่างสารปนเปื้อนในอากาศ ควันบุหรี่ หรืออากาศที่เย็นมากกว่าปกติ โดยเมื่อร่างกายสัมผัสกับสิ่งกระตุ้นดังกล่าวแล้ว หลอดลมจะหดแคบลงและมีสารคัดหลั่งไหลออกมา ทำให้หายใจลำบาก เหนื่อยหอบ หรือแน่นหน้าอก ซึ่งอาจนำไปสู่อาการนอนไม่หลับหรือบางกรณีอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ สำหรับสาเหตุของหอบหืดนั้น ปัจจุบันยังไม่ทราบแน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เช่น โรคภูมิแพ้ พันธุกรรม การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ทั้งนี้ หอบหืดไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถควบคุมไม่ให้อาการกำเริบได้ ด้วยการรับประทานหรือสูดดมยาปฏิชีวนะ วัณโรค วัณโรค เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียไมโคแบคทีเรียม ทูเบอร์คูโลซิส […]


ไข้หวัดใหญ่

วัคซีนไข้หวัดใหญ่ คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร

โรคไข้หวัดใหญ่ คือ โรคติดเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา (Influenza) ที่เข้าสู่ระบบทางเดินหายใจผ่านสารคัดหลั่ง เช่น น้ำมูก น้ำลาย จากการไอ การจาม รวมถึงการใช้สิ่งของร่วมกัน เช่น ช้อนส้อม จาน แก้ว ผ้าเช็ดหน้า ที่อาจนำไปสู่การเจ็บป่วยระดับรุนแรง แต่สามารถป้องกันได้ด้วย วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ดังนั้น จึงควรเข้ารับการฉีด วัคซีนไข้หวัดใหญ่ เป็นประจำทุกปี เพื่อช่วยป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่หรือช่วยลดความรุนแรงของโรคไข้หวัดใหญ่ [embed-health-tool-bmi] วัคซีนไข้หวัดใหญ่ คืออะไร วัคซีนไข้หวัดใหญ่ คือ วัคซีนที่ช่วยป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ โดยอาจฉีดบริเวณต้นแขนหรือต้นขาหรือพ่นจมูก โดยวัคซีนไข้หวัดใหญ่แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิดเชื้อตาย (Live Attenuated Influenza Vaccines : LAIV) เป็นวัคซีนที่ประเทศไทยนิยมใช้ โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 3 สายพันธุ์ และวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ สามารถรับได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป และควรฉีดเป็นประจำทุกปี ปีละ 1 […]


ไข้หวัดใหญ่

โรคไข้หวัดใหญ่ คืออะไร แตกต่างจากไข้หวัดอย่างไร

โรคไข้หวัดใหญ่ คือโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ที่ส่งผลให้มีอาการเป็นไข้สูง ไอ และอ่อนเพลีย คล้ายกับอาการของโรคไข้หวัดธรรมดา แต่อาจมีอาการรุนแรงกว่า อีกทั้งยังอาจส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น ปอดบวม หลอดลมอักเสบ หายใจลำบากเฉียบพลัน ดังนั้น ควรศึกษาความแตกต่างระหว่างไข้หวัดใหญ่และไข้หวัดธรรมดา และควรเข้าพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาอย่างรวดเร็ว เมื่อรู้สึกเหมือนไม่สบายและมีไข้สูง [embed-health-tool-bmr] โรคไข้หวัดใหญ่ คืออะไร โรคไข้หวัดใหญ่ คือ โรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจที่เกิดจากไวรัสอินฟลูเอนซา (Influenza) ที่แพร่กระจายผ่านสารคัดหลั่งเช่น น้ำมูก น้ำลาย จากการไอและจาม หรือการใช้สิ่งของร่วมกัน เช่น หลอด แก้วน้ำ ช้อนส้อม ผ้าเช็ดหน้า นอกจากนี้ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ผู้ที่มีประวัติเป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ก็อาจมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ได้ง่ายกว่าปกติอีกด้วย เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่แบ่งออกเป็น 4 สายพันธุ์ ดังนี้ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ (Influenza A) เป็นสายพันธุ์ที่พบได้บ่อยและมีความรุนแรงมากที่สุด สามารถแพร่เชื้อสู่คนและสัตว์ โดยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอยังแบ่งย่อยได้อีก 2 ชนิด คือ A (H1N1) และ A (H3N2) ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์บี (Influenza […]


ไข้หวัดใหญ่

อาการไข้หวัดใหญ่ สาเหตุ และการป้องกัน

อาการไข้หวัดใหญ่ เช่น เป็นไข้สูง ปวดศีรษะ เจ็บคอ ไอ อ่อนแรง เกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่ทางเดินหายใจ ซึ่งแพร่กระจายผ่านทางน้ำลายหรือน้ำมูกขณะไอและจาม รวมถึงการใช้ช้อนส้อมหรือการดื่มน้ำจากแก้วหรือหลอดเดียวกัน โดยสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกช่วงวัย แต่อาจพบได้บ่อยในเด็ก ผู้สูงอายุ สตรีตั้งครรภ์และผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ดังนั้น จึงควรดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีเพื่อลดความเสี่ยงไม่ให้เจ็บป่วยจากโรคไข้หวัดใหญ่ [embed-health-tool-heart-rate] อาการไข้หวัดใหญ่ มีสาเหตุจากอะไร อาการไข้หวัดใหญ่ มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา (Influenza) ในระบบทางเดินหายใจ ที่แพร่กระจายผ่านสารคัดหลั่งเช่น น้ำมูก น้ำลาย จากการไอ การจาม หรือการใช้สิ่งของร่วมกัน โดยเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่แบ่งออกเป็น 4 สายพันธุ์ ดังนี้ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ (Influenza A) เป็นสายพันธุ์ที่พบได้บ่อยที่สุดและสามารถแพร่เชื้อสู่คนและสัตว์ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์บี (Influenza B) เป็นสายพันธุ์ที่แพร่เชื้อสู่คนเท่านั้น แบ่งออกเป็นอีก 2 สายพันธุ์ คือ Yamagata และ Victoria แต่อาจมีอาการรุนแรงน้อยกว่าไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ซี (Influenza C) เป็นสายพันธุ์ที่มีความรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์เอและสายพันธุ์บี แต่จะไม่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาด ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ดี (Influenza D) เป็นสายพันธุ์ที่แพร่เชื้อจากสัตว์สู่สัตว์เพียงเท่านั้น ไม่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดในคน อาการไข้หวัดใหญ่ […]


ปัญหาระบบทางเดินหายใจแบบอื่น

Hyperventilation Syndrome สาเหตุ อาการ และการรักษา

Hyperventilation Syndrome หรือกลุ่มอาการหายใจเร็วเกินไป หมายถึงการมีภาวะหายใจเร็วเกินไป โดยเป็นการหายใจถี่กว่าปกติซึ่งมักส่งผลให้ร่างกายขาดคาร์บอนไดออกไซด์ นำไปสู่อาการเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอและอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ โดยส่วนใหญ่มักมีสาเหตุมาจากความวิตกกังวล ความเครียด หรือโรคแพนิค ทั้งนี้ วิธีรักษา คุณหมอมักแนะนำให้ฝึกการหายใจรูปแบบต่าง ๆ หรือจ่ายยาสำหรับบรรเทาภาวะวิตกกังวลให้รับประทาน [embed-health-tool-bmi] คำจำกัดความ Hyperventilation Syndromeคืออะไร Hyperventilation Syndrome หรือกลุ่มอาการหายใจเร็วเกินไป เป็นความผิดปกติเกี่ยวกับการหายใจ โดยผู้ป่วยจะหายใจออกเร็วถี่และหายใจเข้าลึกกว่าปกติ มีผลให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในร่างกายเหลือน้อย และส่งผลกระทบให้เซลล์ประสาททำงานผิดปกติ รวมถึงเลือดไหลเวียนไปยังหัวใจและสมองได้ไม่สะดวก ทำให้ร่างกายมีอาการต่าง ๆ ที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ ปกติแล้ว กลุ่มอาการหายใจเร็วเกินไปมักแสดงอาการเป็นครั้งคราว โดยมักสัมพันธ์กับภาวะวิตกกังวลหรือแรงกดดัน โดยกลุ่มเสี่ยงคือ ผู้หญิงอายุระหว่าง 15-30 ปี อาการ อาการของHyperventilation Syndrome กลุ่มอาการหายใจเร็วเกินไป มักแสดงอาการดังต่อไปนี้ หายใจไม่อิ่ม หรือรู้สึกว่ายังได้รับอากาศไม่เพียงพอ หายใจหอบถี่ หัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ หน้ามืด วิงเวียน คล้ายจะเป็นลม เจ็บหรือแน่นหน้าอก มือหรือเท้าชา เกร็ง มือหงิกงอ แน่นท้อง สาเหตุ สาเหตุของ Hyperventilation Syndrome กลุ่มอาการหายใจเร็วเกินไปมักเป็นผลมาจากความวิตกกังวล ความเครียด หรือโรคแพนิค และยังอาจเกิดได้จากสาเหตุอื่น ๆ ดังต่อไปนี้ การใช้สารกระตุ้น การบริโภคยาเกินขนาด ความรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรง […]

advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม