อินซูลิน (Insulin) จะช่วยกักเก็บน้ำตาลไว้ในตับแล้วปล่อยออกมาเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดต่ำหรือเมื่อร่างกายต้องการน้ำตาลมากขึ้น
ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรวิสสุตา ชั้นประเสริฐ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group
อินซูลิน (Insulin) จะช่วยกักเก็บน้ำตาลไว้ในตับแล้วปล่อยออกมาเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดต่ำหรือเมื่อร่างกายต้องการน้ำตาลมากขึ้น
หากระดับน้ำตาลในเลือดของคุณสูงกว่าปกติ อินซูลิน (Insulin) จะช่วยกักเก็บน้ำตาลไว้ในตับแล้วปล่อยออกมาเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดของคุณต่ำหรือเมื่อร่างกายต้องการน้ำตาลมากขึ้น เช่น ระหว่างมื้ออาหารหรือขณะกำลังออกกำลังกาย ดังนั้นยาอินซูลินจะช่วยรักษาสมดุลของระดับน้ำตาลในเลือดและทำให้อยู่ในช่วงปกติ
ยาอินซูลินที่ใช้สำหรับรักษาโรคเบาหวานมีหลายประเภท ดังนี้
ฉีดยาอินซูลินเข้าใต้ผิวหนัง แพทย์หรือบุคคลากรทางการแพทย์จะเป็นผู้สอนวิธีการฉีดยาอินซูลิน บริเวณที่มักจะใช้เพื่อฉีดยาอินซูลินคือ ต้นแขน ต้นขาส่วนหน้าและส่วนข้าง รวมทั้งบริเวณช่องท้อง อย่าฉีดยาอินซูลินในบริเวณที่ใกล้กับสะดือเกินกว่า 2 นิ้ว
เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวของคุณหนาขึ้น พยายามอย่าฉีดยาอินซูลินในบริเวณเดียวกันซ้ำไปซ้ำมา ควรเปลี่ยนบริเวณที่ฉีดยา
ควรเก็บรักษายาอินซูลินให้ถูกต้องไม่เช่นนั้นยาอาจจะไม่ออกฤทธิ์
ก่อนใช้ยาอินซูลิน โปรดแจ้งให้แพทย์และเภสัชกรทราบ
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยา
ยาอินซูลินจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์ หมวด B โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ เป็นภาวะที่ระดับน้ำตาลในเลือดของคุณลดต่ำเกินไป เมื่อคุณใช้อินซูลินเป็นประจำ ระดับน้ำตาลในเลือดอาจลดต่ำเกินไปได้ในหลายกรณี เช่น เมื่อคุณออกกำลังกายมากกว่าปกติ เมื่อรับประทานอาหารไม่เพียงพอหรือเมื่อรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา รวมทั้งเมื่อคุณใช้ยาอินซูลินมากเกินไป คนส่วนใหญ่ที่ใช้ยาอินซูลินมักจะมีปฏิกิริยาอินซูลินในบางครั้ง สัญญาณของปฏิกิริยาอินซูลินและภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำมีดังต่อไปนี้
ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ อาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร
ยาอินซูลินอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่าง ๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาใด ๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ยาบางชนิดเมื่อใช้ร่วมกับยาอินซูลินอาจทำให้เกิดอาการน้ำตาลในเลือดต่ำจนอันตรายพร้อมกับอาการ เช่น วิงเวียน หิว หรือเหงื่อออก ได้แก่
ยาอินซูลินอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ยาอินซูลินอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ช่วงขนาดยาปกติคือ 0.5-1 หน่วย/กก./วัน
โรคเบาหวานประเภทที่ 1
โรคเบาหวานประเภทที่ 2
ขนาดยาเริ่มต้นที่แนะนำคือ 10 หน่วย/วัน (หรือ 0.1-0.2 หน่วย/กก./วัน)
โรคเบาหวานประเภทที่ 1
โรคเบาหวานประเภทที่ 2
โรคเบาหวานประเภทที่ 1
ขนาดยาเริ่มต้น
โรคเบาหวานประเภทที่ 2
โรคเบาหวานประเภทที่ 1
วัยรุ่น อาจต้องการยาในขนาดสูงถึง 1.5 มก./กก./วัน ในช่วงวัยเจริญเติบโต
ความต้องการอินซูลินรวมต่อวันโดยเฉลี่ยสำหรับเด็กวัยก่อนเรียนอาจจะแตกต่างจาก 0.7-1 หน่วย/กก./วัน แต่อาจต่ำกว่านี้มาก
โรคเบาหวานประเภทที่ 1
โรคเบาหวานประเภทที่ 1
ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
หากคุณจำได้ว่าต้องใช้ยาก่อนหรือไม่นานหลังจากมื้ออาหาร ให้รีบใช้ยาทันที หากผ่านไปนานแล้วหลังจากมื้ออาหาร ควรทำตามคำแนะนำของแพทย์หรือติดต่อแพทย์เพื่อรับทราบว่าคุณควรฉีดยาที่ลืมใช้ไปหรือไม่ อย่าฉีดยาสำหรับ 2 ครั้งเพื่อชดเชยยาที่ลืมใช้ไป
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย