backup og meta

โซเดียมในขนม ภัยเงียบที่พ่อแม่ต้องระวัง

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


เขียนโดย Sopista Kongchon · แก้ไขล่าสุด 12/02/2022

    โซเดียมในขนม ภัยเงียบที่พ่อแม่ต้องระวัง

    ขนมขบเคี้ยวที่เด็ก ๆ ชอบกินมักจะอุดมไปด้วยน้ำตาล แป้ง และผงชูรส พ่อแม่ส่วนใหญ่คิดว่าผงชูรสเป็นสิ่งที่ต้องระวัง เพราะไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ แต่นอกจากสิ่งเหล่านี้แล้ว ยังมีอีกสิ่งที่พ่อแม่อาจมองข้าม นั่นก็คือ โซเดียมในขนม ที่หากบริโภคมากเกินไปจะทำให้เกิดโรคไต และโรคอื่น ๆ ตามมา

    โซเดียม คืออะไร

    โซเดียมเป็นแร่ธาตุชนิดหนึ่งที่ร่างกายต้องการ โซเดียมช่วยควบคุมความสมดุลของของเหลวในร่างกาย และเกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบกล้ามเนื้อ โดยอวัยวะที่ควบคุมการทำงานของโซเดียม คือ ไต ร่างกายรับโซเดียมจากอาหารที่มีรสเค็ม และจากเครื่องปรุงชนิดต่าง ๆ เช่น เกลือ น้ำปลา กะปิ ซึ่งโซเดียมที่ร่างกายได้รับส่วนใหญ่มาจากเกลือที่ประกอบด้วยโซเดียมกับคลอไรด์

    ส่วนการขับโซเดียมออกจากร่างกาย ร่างกายอาจขับโซเดียมส่วนเกินออกทางไตในรูปแบบปัสสาวะมากที่สุด รองลงมา คือ ขับออกทางเหงื่อ วันละประมาณ 25 มิลลิโมล และขับโซเดียมออกทางอุจจาระในปริมาณน้อยประมาณ 1-2 มิลลิโมล นอกจากนี้โซเดียมอาจมีประโยชน์อื่น ๆ ดังนี้

    • เป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย
    • การขาดโซเดียมอาจทำให้เกิดโรค เช่น โรคที่เกี่ยวกับกระดูก
    • โซเดียมเป็นส่วนประกอบของน้ำย่อยอาหาร และเป็นส่วนประกอบของกระดูกและฟัน

    ผลเสียจากการได้รับโซเดียมมากเกินไป

    เนื่องจากไตเป็นอวัยวะที่ควบคุมการใช้โซเดียมในร่างกาย การที่ร่างกายได้รับปริมาณโซเดียมมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อไต โดยปริมาณโซเดียมที่ควรได้รับต่อวัน คือ ไม่ควรเกิน 2,400 มิลลิกรัม หรือถ้าเป็นในรูปของเกลือแกงไม่ควรเกิน 6 กรัม/วัน หากได้รับปริมาณโซเดียมเกินกว่าที่ร่างกายต้องการอาจทำให้ไตทำงานหนักจนเสื่อมสภาพ ซึ่งอาจนำไปสู่โรคไตหรือโรคไตวายเฉียบพลัน

    ปริมาณ โซเดียมในขนม

    วิธีการตรวจสอบปริมาณโซเดียมในขนม คือ การดูที่ฉลากข้อมูลโภชนาการ ในทุก ๆ ถุงขนมจะมีปริมาณโซเดียมบอกไว้เป็นหน่วยมิลลิกรัม แต่สิ่งที่ต้องระวัง คือ พลังงานต่อหนึ่งหน่วยบริโภค ซึ่งหมายถึงการบริโภคใน 1 ครั้ง สำหรับขนมห่อใหญ่ที่สามารถกินได้หลายวัน ฉลากข้อมูลโภชนาการอาจเขียนว่า หนึ่งหน่วยบริโภค 1/3 ซอง (30 กรัม) หมายความว่า ขนมถุงนี้กินได้ 3 ครั้ง แต่หากกินหมดภายในครั้งเดียว ทั้งพลังงานที่ได้รับและคุณค่าทางอาหารที่ได้รับก็จะต้องคูณเพิ่มเข้าไป เช่น

    ตัวอย่างของการบอกถึงคุณค่าทางโภชนาการบนฉลากขนม

    • หนึ่งหน่วยบริโภค 1/3 ซอง (30 กรัม)
    • พลังงานทั้งหมด 150 กิโลแคลอรี่
    • ไขมันทั้งหมด 8 กรัม
    • โซเดียม 130 มิลลิกรัม

    นั่นหมายความว่าหากกินขนมหมดห่อภายในครั้งเดียว ผู้บริโภคก็จะได้รับพลังงานทั้งหมด 150×3 = 450 กิโลแคลอรี่ นอกจากปริมาณแคลอรี่แล้ว สิ่งที่ต้องคูณเพิ่ม คือ คุณค่าทางโภชนาการต่อหนึ่งหน่วยบริโภค ซึ่งถ้าในฉลากระบุว่าหนึ่งหน่วยบริโภคจะได้รับไขมันทั้งหมด 8 กรัม แสดงว่ากินหมดซองจะได้รับไขมันทั้งหมด 24 กรัม รวมถึงปริมาณโซเดียม จากตัวอย่างหากกินขนมหมดซองจะได้รับปริมาณโซเดียม 130×3 = 650 มิลลิกรัม

    การดูปริมาณโซเดียมบนถุงขนมจึงอาจต้องดูหนึ่งหน่วยบริโภคด้วย เพราะโซเดียมที่เห็นว่าน้อย ความแท้จริงแล้ว อาจมีปริมาณมากกว่าที่คิด โซเดียมในขนมจึงถือเป็นภัยเงียบที่พ่อแม่ต้องระวัง และควรคอยดูแลไม่ให้เด็ก ๆ กินขนมจนเพลิน เพราะอาจทำให้ได้รับโซเดียมมากเกินไปจนเสี่ยงเป็นโรคไตได้

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


    เขียนโดย Sopista Kongchon · แก้ไขล่าสุด 12/02/2022

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา