ปีที่ผ่านมา ทำร้ายตัวเองมากไปหรือเปล่า เครียดไปไหม สุขภาพแย่ลงกว่าปีก่อนหรือไม่ เมื่อถามคำถามนี้กับตัวเองเสร็จแล้ว ก็อาจจะพบว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา ล้วนแล้วแต่มีเหตุปัจจัยที่มากจากผู้อื่นและตัวเราเอง ปัจจัยจากคนอื่นอาจจะเป็นเรื่องที่เหนือการควบคุม เข้ามาโดยที่เราไม่ทันได้เตรียมใจ แต่ปัจจัยจากตัวเองนี่สิ เป็นเรื่องที่เราควรจะควบคุมและจัดการได้
หลายคนอาจปล่อยปละละเลยตัวเอง นอนน้อย ไม่ออกกำลังกาย กินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ทำงานหนักเกินไปจนไม่พักเลย หรืออาจจะใช้จ่ายจนขาดดุล ทำให้เป็นหนี้เป็นสินตามมา เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดทั้งปัญหาสุขภาพกายและใจ บังเกิดความเครียดและความท้อแท้ไม่รู้จบสิ้น
ดังนั้น เราลองมาปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตกันใหม่ ใส่ใจตัวเองให้มากขึ้นหน่อย เช่น เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับให้มากขึ้น วางแผนการทำงานให้ลงตัวกว่าปีที่ผ่านมา ไปเสริมสวยบ้าง ทำสีผมใหม่ สปาหน้า สปาผิว หรือจะผ่อนคลายตัวเองให้มากขึ้น ด้วยการไปดูหนัง ฟังเพลง หรือไปเที่ยวบ้างก็เป็นวิธีที่ดีไม่น้อย พยายามให้ความสุขกับตัวเองบ้างเท่าที่จะทำได้ ดูแลตัวเองให้มากขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดความเครียดสะสม จนอาจจะนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงในอนาคต
3. ปล่อยวางจากโซเชียลมีเดียบ้าง
ทุกวันนี้อุปกรณ์ดิจิตอลทั้งหลายทั้งปวงอยู่กับเราแทบจะตลอดเวลา จนเกือบจะกลายเป็นอวัยวะชิ้นที่ 33 ของเราไปแล้ว จะกิน จะนอน เข้าห้องน้ำ แม้แต่ตอนดูซีรีส์ที่ควรจะจดจ่อกับตัวละครในจอโทรทัศน์หรือจอคอมพิวเตอร์ เราก็ยังหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาบ่อย ๆ จนบางทีเราก็แทบไม่รู้ตัวเองเลยว่าได้กลายเป็นคนเสพติดสื่อโซเชียลมีเดียไปแล้ว
ลองเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตแบบ โซเชียลมีเดีย ดีท็อกซ์ (Social Media Detox) กันดูบ้าง วางมือจากสมาร์ทโฟน แล้วหากิจกรรมอย่างอื่นทำให้มากขึ้น อาจจะเป็นการอ่านหนังสือ ไปเข้าคอร์สเรียนเต้น เวิร์คช้อปทำกิจกรรมต่าง ๆ จัดสวนหลังบ้าน หรือจะนอนงีบก็ยังได้ ขอแค่ใช้เวลาทำอย่างอื่นให้มากขึ้นบ้าง มีกิจกรรมอื่นที่ไม่ใช่นั่งจมอยู่กับจอสมาร์ทโฟนทั้งวันบ้าง บางทีกิจกรรมออฟไลน์ใกล้ตัว ก็อาจช่วยฟื้นฟูสุขภาพจิตและก่อเกิดไอเดียหรือความรู้สึกดีมากขึ้นกว่าที่คิด และยังช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายสุขภาพจิตมากขึ้นด้วย
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย