backup og meta

โรคชอบขโมยของ โรคทางจิตที่แปลกแต่จริง

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย จินดารัตน์ สิริวิจักษณ์ · แก้ไขล่าสุด 11/05/2020

    โรคชอบขโมยของ โรคทางจิตที่แปลกแต่จริง

    เคยดูข่าวแล้เกิดความสงสัยกันบ้างหมคะว่า บางคนรวยมาก มีทรัพย์สินเป็นพันล้าน บางคนเป็นถึงผู้บริหารระดับสูงๆ แต่ยังมีข่าวเรื่องการขโมยของ ซึ่งสิ่งของที่ขโมยนั้นมีมูลค่าเพียงหลักร้อยถึงหลักพันเท่านั้น เป็นเพราะว่าเขาเหล่านั้นอาจมีพฤติกรรมเสี่ยงเป็น โรคชอบขโมยของ ฟังดูชื่อโรคแล้วอาจจะไม่คุ้นหู เป็นโรคที่แปลกและมีอยู่จริง แต่จะมีลักษณะอาการเป็นอย่างไรบ้างนั้น วันนี้ Hello คุณหมอจะพาไปหาคำตอบกันค่ะ

    โรคชอบขโมยของ (Kleptomania) คืออะไร?

    โรคชอบขโมยของ (Kleptomania) คือ อาการป่วยทางจิตเป็นโรคเป็นโรคทางจิตเวชที่เกิดจากความผิดปกติทางสมอง  โดยสมองมีการหลั่งสารเซโรโทนิน (Serotonin) น้อยลง ทำให้ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ ไม่สามารถยับยั้งใจต่อแรงกระตุ้นที่จะลักขโมยได้ผู้ป่วยยังสามารถมีอาการทางจิตอื่นๆร่วมด้วยได้ เช่น โรคซึมเศร้า โรคจิตหวาดระแวง เป็นต้น

    ไขข้อข้องใจ สาเหตุอะไร ที่ทำให้เป็นโรคชอบขโมยของ

    ผู้ป่วยโรคชอบขโมยของเกิดจากความผิดปกติของการหลั่งสารเซโรโทนิน (Serotonin) ในสมอง จนอาจเสี่ยงเป็นโรคภาวะซึมเศร้า โดยมีสาเหตุดังนี้

    อาการที่บ่งบอกว่าคุณกำลังเสี่ยงเป็นโรคชอบขโมยของ

    • มีความสุขทุกครั้งที่ได้หยิบฉวยสิ่งของหรือขโมยของจากผู้อื่น
    • เวลาเครียด หรือ มีปัญหา เพียงได้ขโมยของเล็กๆน้อยๆ จะทำให้รู้สึกดีขึ้นมาทันที
    • หลังจากขโมยของไปแล้วจะมีความรู้สึกผิดทางใจ รู้สึกเสียใจทีหลังกับสิ่งที่ทำลงไป
    • ไม่สามารถห้ามใจตัวเองขณะหยิบของได้

    วิธีการรักษา

    ผู้ป่วยเป็นโรคชอบขโมยของมีวิธีการรักษา แบ่งออกเป็น 2 วิธี ดังนี้

    • การใช้ยาบำบัดร่วมกับการบำบัดทางจิตใจโดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือนักจิตวิทยาให้คำปรึกษา ใช้วิธีอธิบายถึงผลเสียของพฤติกรรมการลักขโมย ทำให้ผู้ป่วยตระหนักถึงพฤติกรรมดังกล่าวที่ส่งผลเสียต่อตนเอง
    • การใช้ยาในการบำบัดเพิ่มควบคุมการหลั่งสารเคมีในสมอง โดยสารเพิ่มเซโรโทนิน (Serotonin) ในสมองช่วยในการควบคุมอารมณ์ ความรู้สึก ลดความเสี่ยงจากภาวะเครียด ซึมเศร้า อาจเป็นการเพิ่มความรู้สึกให้ผู้ป่วยรู้ถึงผลเสียของการขโมยของ

    อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมชอบขโมยของ ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นโรคชอบขโมยของเสมอไป แต่อาจจะเป็นคนที่มีนิสัยขี้ขโมยหรือชอบต่อต้านสังคม ดังนั้น หากคุณพบว่าตัวเองมีพฤติกรรมเสี่ยงเป็นโรคชอบขโมยของ ควรรีบปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการวินิจฉัยอย่างถูกต้อง และรับการรักษาอย่างถูกวิธี เพื่อสุขภาพจิตที่ดีของเรานะคะ

    Hello Health Groupม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค และการรักษาโรคแต่อย่างใด

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    ทีม Hello คุณหมอ


    เขียนโดย จินดารัตน์ สิริวิจักษณ์ · แก้ไขล่าสุด 11/05/2020

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา