ยาคุมกำเนิดมีให้เลือกหลายชนิด เช่น ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว และยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดแบบฉุกเฉิน แต่ วิธีกินยาคุม แต่ละชนิดอาจแตกต่างกัน เนื่องจากความเข้มข้นของฮอร์โมนภายในยาแต่ละชนิดอาจไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของการคุมกำเนิด หากกินยาคุมไม่ถูกวิธีอาจทำให้ประสิทธิภาพของยาลดลงได้ ดังนั้น การทำความเข้าใจวิธีกินยาคุมแต่ละชนิดอย่างถูกต้อง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ดีขึ้นด้วย
[embed-health-tool-ovulation]
วิธีกินยาคุม แต่ละชนิด
ยาคุมกำเนิดมีด้วยกัน 3 ชนิด คือ ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว และยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดแบบฉุกเฉิน โดยมีรายละเอียดและวิธีกินยาคุมแต่ละชนิด ดังนี้
ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม (Combined Oral Contraceptive หรือ COC)
ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม อาจมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้สูงถึง 99% หากรับประทานอย่างถูกต้องและต่อเนื่อง ประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสโตเจนรวมกันในเม็ดเดียวในปริมาณที่เท่ากัน ซึ่งยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมแบ่งเป็นแบบ 21 เม็ด และ 28 เม็ด มีวิธีกินยาคุมที่คล้ายคลึงกัน ดังนี้
เริ่มต้นกินยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม
- เริ่มรับประทานยาคุมกำเนิดเม็ดแรกตั้งแต่วันแรกที่ประจำเดือนมาหรือไม่เกิน 5 วัน นับตั้งแต่วันแรกของประจำเดือน แต่หากเริ่มรับประทานยาหลังจากวันที่ 5 ของรอบประจำเดือน ควรป้องกันด้วยถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ จนกว่าจะรับประทานยาครบ 7 วัน
- สำหรับยาคุมกำเนิดแบบ 21 เม็ด ให้รับประทานวันละ 1 เม็ด ในเวลาเดียวกันอย่างสม่ำเสมอทุกวัน เป็นเวลา 21 วัน เมื่อยาหมดแผงให้หยุดรับประทาน 7 วัน และเริ่มรับประทานแผงใหม่ในวันที่ 8 เมื่อนับครบ 7 วันแล้ว
- สำหรับยาคุมกำเนิดแบบ 28 เม็ด ให้รับประทานวันละ 1 เม็ด ในเวลาเดียวกันอย่างสม่ำเสมอทุกวัน เป็นเวลา 28 วัน ซึ่งยาที่มีฮอร์โมนจะมีเพียง 21 เม็ด ส่วนอีก 7 เม็ด จะเป็นเป็นสารที่ไม่ใช่ฮอร์โมน เช่น ธาตุเหล็ก หรือแป้ง เมื่อรับประทานยาหมดแผงสามารถเริ่มแผงใหม่ได้ทันทีโดยไม่ต้องหยุดยา
ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม มีข้อดีทำให้ประจำเดือนมาปกติและอาจปวดท้องประจำเดือนน้อยลง แต่สำหรับในผู้ที่ผ่านการคลอดบุตรมาไม่นาน แท้งบุตร หรือมีรอบเดือนสั้น ควรปรึกษาคุณหมอเกี่ยวกับการรับประทานยาคุมกำเนิดก่อนเสมอ เนื่องจากอาจต้องใช้การคุมกำเนิดอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย
ผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม
ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นอาจไม่รุนแรงและอาจเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว หากรับประทานยาคุมกำเนิดอย่างต่อเนื่องผลข้างเคียงจะค่อย ๆ หายไปเอง ดังนี้
- ปวดหัว คลื่นไส้ เจ็บเต้านม และอารมณ์แปรปรวน
- ความดันโลหิตสูง
- อาจมีเลือดออกในช่วง 2-3 เดือนแรกของการรับประทานยา
- อาจทำให้เกิดภาวะสุขภาพร้ายแรง เช่น ลิ่มเลือด มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก
ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว (Progestogen-only Pills หรือ POP)
ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว อาจมีประสิทธิภาพช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้สูงถึง 99% หากรับประทานอย่างถูกต้อง ประกอบด้วยฮอร์โมนโปรเจสโตเจน (Progestogen) เพียงชนิดเดียว ใน 1 แผงจะมีทั้งหมด 28 เม็ด มีวิธีกินยาคุม ดังนี้
เริ่มต้นกินยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว
- เริ่มกินยาคุมกำเนิดเม็ดแรกในวันแรกของประจำเดือนหรือไม่เกิน 5 วัน นับจากวันแรกเมื่อประจำเดือนมา หากกินยาคุมช้ากว่า 5 วัน หรือมีรอบเดือนสั้น ควรใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้งจนว่าจะกินยาครบ 2 วัน
- ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยวมี 28 เม็ด ให้เริ่มรับประทานวันละ 1 เม็ด ตรงเวลาทุกวันอย่างสม่ำเสมอ เป็นเวลา 28 วันจนหมดแผง และเริ่มแผงใหม่ได้ทันทีโดยไม่ต้องหยุดยา
ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยวเหมาะสำหรับผู้ที่มีผลข้างเคียงจากฮอร์โมนเอสโตรเจน สำหรับผู้หญิงที่ผ่านการคลอดบุตรมาไม่นาน ทำแท้งหรือแท้งบุตร ควรได้รับคำแนะนำจากคุณหมอก่อนรับประทานยาคุมกำเนิด
ผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว
ผลข้างเคียงมักเกิดขึ้นใน 2-3 เดือนแรก และหายได้เองเมื่อกินยาคุมอย่างต่อเนื่อง ดังนี้
- สิว
- คลื่นไส้ อาเจียน
- อารมณ์แปรปรวน ปวดหัวและไมเกรน
- เต้านมขยายและอาจเจ็บเต้านม
- ความต้องการทางเพศอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลง
- อาจมีซีสต์ในรังไข่ มักไม่เป็นอันตรายและหายได้เองโดยไม่ต้องรักษา
ลืมกินยาคุมกำเนิด
หากลืมรับประทานยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมและชนิดฮอร์โมนเดี่ยว ควรปฏิบัติดังนี้
- รับประทานยา 1 เม็ดทันทีเมื่อนึกขึ้นได้ และรับประทานยาเม็ดถัดไปในเวลาปกติอย่างต่อเนื่อง
- หากลืมรับประทานยานานกว่ากำหนด ให้รับประทานยา 2 เม็ด ใน 1 วัน คือ รับประทาน 1 เม็ด เมื่อนึกขึ้นได้ และอีก 1 เม็ดในเวลาปกติ
- หากลืมรับประทานยานานหลายวัน ให้หยุดยาแผงเก่าและเริ่มต้นยาแผงใหม่ในรอบเดือนถัดไป
- ป้องกันด้วยถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อลืมรับประทานยาคุมกำเนิด
ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดแบบฉุกเฉิน (Emergency Contraception Pill)
ยาคุมฉุกเฉิน อาจมีประสิทธิภาพช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 87% มักใช้ในกรณีฉุกเฉิน เช่น มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน ถุงยางแตก หรือลืมกินยาคุมแบบปกติ โดยยาคุมฉุกเฉินมีระดับความแรง 2 ประเภท คือ แบบ 0.75 มิลลิกรัม มี 2 เม็ด และแบบ 1.5 มิลลิกรัม มี 1 เม็ด วิธีกินยาคุม มีดังนี้
- ยาคุมฉุกเฉิน 0.75 มิลลิกรัม มี 2 เม็ด ให้กินยาคุมเม็ดแรกทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด หรือไม่เกิน 3 วัน หรือ 72 ชั่วโมง และเว้นไปอีก 12 ชั่วโมง เพื่อกินยาเม็ดที่ 2 หรืออีกวิธีสามารถกินยาคุมฉุกเฉินพร้อมกัน 2 เม็ดทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์
- ยาคุมฉุกเฉิน 1.5 มิลลิกรัม มี 1 เม็ด ให้กินยาคุม 1 เม็ด ทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์ หรือไม่เกิน 72 ชั่วโมง
ผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉิน
ผลข้างเคียงอาจเกิดขึ้นในระยะยาว ดังนี้
- ปวดหัว ปวดท้อง
- อาจมีเลือดออกจากช่องคลอดเล็กน้อย
- ประจำเดือนเปลี่ยนแปลง อาจมาช้าลงหรือเร็วขึ้น และอาจปวดท้องประจำเดือนมากกว่าปกติ
- หากมีความรู้สึกป่วยหลังจากกินยาคุมฉุกเฉินภายใน 2-3 ชั่วโมง ควรรีบพบคุณหมอทันที