ชากุหลาบ เป็นเครื่องดื่มที่ได้จากการต้มกลีบดอกกุหลาบแห้ง ทำให้ได้เครื่องดื่มที่มีกลิ่นหอมของดอกกุหลาบ ซึ่งอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เช่น ช่วยต้านอักเสบ ลดความเครียด รวมถึงอาจใช้ในการรักษาโรคข้ออักเสบได้ อย่างไรก็ตาม ชากุหลาบอาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน ผู้ที่มีสภาวะบางอย่าง เช่น ผู้ที่ตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ป่วยโรคหัวใจ อาจควรต้องหลีกเลี่ยงหรือปรึกษาคุณหมอก่อนที่จะดื่มชากุหลาบ
[embed-health-tool-bmr]
ชากุหลาบ บรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือนได้จริงหรือ?
ชากุหลาบ (Rose Tea) อุดมไปด้วยวิตามินซีสูง ทำหน้าที่ปกป้องเนื้อเยื่อ หรือเซลล์ที่ได้รับความเสียหายจากอนุมูลอิสระ ลดอาการข้อเข่าเสื่อมจากโรคไขข้ออักเสบ และยังสามารถบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือนได้อีกด้วย
ผลการวิจัยชิ้นหนึ่งได้ศึกษาเกี่ยวกับประโยชน์ของชากุหลาบในนักเรียนช่วงวัยรุ่นจำนวน 130 คน ของประเทศไต้หวัน ผู้เข้าร่วมการวิจัยได้ดื่มชากุหลาบในปริมาณ 2 ถ้วย เป็นเวลา 12 วัน โดยเริ่มต้นการรับประทานก่อนรอบเดือนจะมาประมาณ 1 สัปดาห์ สรุปการวิจัยได้ว่า ผู้ที่ดื่มชากุหลาบมีอาการปวดท้องน้อยลง ซึ่งทำให้การใช้ชีวิตทำกิจวัตรประจำวันต่างๆ เป็นไปราบรื่น กว่าผู้ที่ไม่ได้ดื่มชา
ประโยชน์ของชากุหลาบ
นอกจากสีของเครื่องดื่มจะมีความสวยงามแล้ว ยังนำคุณประโยชน์เหล่านี้มาให้ร่างกาย และสุขภาพแข็งแรงขึ้น
- อาจช่วยในการลดการอักเสบ งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Food Science เมื่อปี 2549 พบว่าสารต่าง ๆ เช่น ฟีนอล (phenols) แอนโทไซยานิน (anthocyanins) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถพบได้ในชากุหลาบ อาจมีคุณสมบัติช่วยต้านอักเสบได้ อย่างไรก็ตาม งานวิจัยยังไม่ทราบประสิทธิภาพที่แน่ชัดในการต้านอนุมูลอิสระของชากุหลาบ
- อาจช่วยลดความเครียด มีงานวิจัยเมื่อปีพ.ศ.2562 ที่ทำการทดลองในสัตว์ พบว่า สารสกัดที่ได้จากกุหลาบ อาจมีคุณสมบัติที่ช่วยต่อต้านความเครียดได้ อย่างไรก็ตาม ยังต้องทำการศึกษาถึงประสิทธิภาพในการช่วยลดความเครียดในมนุษย์เพิ่มเติม
- อาจช่วยบรรเทาอาการข้ออักเสบได้ มีงานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน Pubmed เมื่อปีพ.ศ. 2558 ที่ศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิภาพของสารสกัดจากกุหลาบในการรักษาข้ออักเสบ พบว่า กุหลาบอาจมีฤทธิ์ช่วยบรรเทาอาการปวดและอาการอักเสบของโรคข้ออักเสบได้ และอาจสามารถใช้เป็นทางเลือกหนึ่งในการช่วยรักษาโรคข้ออักเสบได้
ใครบ้างที่ไม่ควรดื่มชากุหลาบ
- สตรีตั้งครรภ์ และผู้ที่อยู่ระหว่างการให้นมบุตร
- โรคเบาหวาน
- นิ่วในไต
- ภาวะโลหิตจาง
- ผู้ที่มีประวัติของโรคหัวใจ เช่น หัวใจวาย , กล้ามเนื้อหัวใจวาย
- โรคเม็ดเลือดแดงรูปเคียว
- โรคหลอดเลือดในสมอง
- เส้นเลือดอุดตันที่ขา และปอด
วิธีการทำชากุหลาบด้วยตัวเอง
ส่วนประกอบ
- กลีบกุหลาบสดที่ผ่านการชำระล้างอย่างสะอาด ปราศจากยาฆ่าแมลง และสารเคมี หรือดอกกุหลาบแห้ง ปริมาณ 2 ถ้วย
- น้ำดื่มที่สะอาด ประมาณ 700 มล.
ขั้นตอนการทำชากุหลาบ
- นำน้ำดื่มสะอาดที่เตรียมไว้ข้างต้นเทใส่หม้อต้ม พร้อมกับดอกกุหลาบในปริมาณที่กำหนด
- ทิ้งไว้ประมาณ 10 – 20 นาที จนเดือด (ระยะเวลาในการต้มอาจต่างกันให้สังเกตสีของน้ำว่าเปลี่ยนไปหรือไม่ จากนั้นจึงดับไฟ)