ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group
วิตามินบี 12 (Vitamin B12) เป็นวิตามินที่ใช้เพื่อให้ทำให้ร่างกายทำงานได้อย่างปกติ วิตามินบี 12 สามารถพบได้ในอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ ปลา และผลิตภัณฑ์จากนม บางครั้งยังถูกใช้ร่วมกับวิตามินบีอื่น ๆ อีกด้วย
วิตามินบี 12 (Vitamin B12) เป็นวิตามินที่มีความสำคัญ ร่างกายต้อง การใช้วิตามินบี 12 เพื่อให้ทำให้ร่างกายทำงานได้อย่างปกติ วิตามินบี 12สามารถพบได้ในอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ ปลา และผลิตภัณฑ์จากนม และยังสามารถสังเคราะห์ได้ นอกจากนี้ยังถูกใช้ร่วมกับวิตามินบีอื่น ๆ อีกด้วย
การรับประทานวิตามินบี 12 เพื่อรักษาและป้องกันการขาดวิตามินบี 12 ซึ่งเป็นภาวะที่ระดับวิตามินบี 12 ในเลือดต่ำเกินไป นอกจากนี้ ยังรับประทานเพื่อรักษาโรคโลหิตจางรุนแรง อันเป็นโรคโลหิตจางที่รุนแรงซึ่งเป็นผลมาจากการขาดวิตามินบี 12 และพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ
วิตามินบี 12 ยังสามารถรับประทานเพื่อรักษาโรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s disease) ชะลอวัย และส่งเสริมอารมณ์ พลังงาน สมาธิ การทำงานของจิตใจ และระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ยังใช้เพื่อรักษา
สำหรับบางคนยังรับประทานวิตามินบี 12 เพื่อรักษา
การใช้วิตามินบี 12 สำหรับผิว
การใช้วิตามินบี 12 ทาลงบนผิวอย่างเดียวหรือใช้ร่วมกับน้ำมันอะโวคาโด เพื่อรักษาโรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) และโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรัง (Eczema) นอกจากนี้ ยังมีเจลทาจมูกวิตามินบี 12 เพื่อใช้สำหรับโรคโลหิตจางรุนแรง กับใช้เพื่อป้องกันและรักษาภาวะขาดวิตามินบี 12
การฉีดวิตามินบี 12
การใช้วิตามินบี 12 ฉีดเข้าสู่ร่างกาย เพื่อรักษาโรคโลหิตจางรุนแรง ป้องกันและรักษาภาวะขาดวิตามินบี 12 และเพื่อป้องกันและรักษาโรคระบบประสาท ที่เรียกว่าโรคพยาธิภาวะที่ไขสันหลัง (Myelopathy) ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้กับคนที่มีภาวะขาดวิตามินบี 12 นอกจากนี้ยังใช้รักษาอาการสั่น (Tremors) โรคอิมเมอร์ซลันด์-กราซเบ็ค (Imerslund-Grasbeck Disease) พิษไซยาไนด์ เส้นประสาทเสียหาย เนื่องจากโรคงูสวัด (Shingles) โรคเส้นประสาทเสียหายจากโรคเบาหวาน เหนื่อย หรืออ่อนล้า อาการล้าเรื้อรัง (Chronic Fatigue Syndrome) ไวรัสตับอักเสบซี ภาวะที่ร่างกายผลิตฮอร์โมนไทรอยด์มากเกินไป ตกเลือด โรคมะเร็ง โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) และโรคตับและโรคไต นอกจากนี้ ยังฉีดเข้าร่างกาย เพื่อป้องกับไม่ให้หลอดเลือดกลับมาอุดตันซ้ำหลังการผ่าตัดอีกด้วย
ยังไม่มีงานวิจัยที่มากพอเกี่ยวกับการทำงานของวิตามินบี 12 โปรดปรึกษากับแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม เป็นที่ทราบกันว่าเราจำเป็นต้องมี การใช้วิตามินบี 12 เพื่อให้สมอง เซลล์เลือด และส่วนอื่น ๆ อีกมากมายทำงานและพัฒนาการได้อย่างถูกต้อง
ปรึกษากับแพทย์ในกรณีดังต่อไปนี้
ข้อบังคับในการใช้อาหารเสริมนั้น มีเข้มงวดน้อยกว่าข้อบังคับในการใช้ยา ยังต้องการงานวิจัยอีกมากเพื่อบ่งชี้ความปลอดภัย ประโยชน์ของอาหารเสริมนี้จะต้องมีมากกว่าความเสี่ยงก่อนที่จะใช้ โปรดปรึกษากับแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
การใช้วิตามินบี 12 นั้นมีความปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่เมื่อรับประทาน ทาลงบนผิวหนัง ฉีดเข้าจมูก หรือฉีดเข้าหลอดเลือดดำ วิตามินบี 12 ได้รับการพิจารณาว่าปลอดภัย แม้จะใช้ในปริมาณมาก
ข้อควรระวังเป็นพิเศษและคำเตือน
การตั้งครรภ์และให้นมบุตร
การใช้วิตามินบี 12 มีความปลอดภัยสำหรับหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรหากรับประทานตามขนาดที่แนะนำ ขนาดที่แนะนำสำหรับหญิงตั้งครรภ์คือ 2.6 ไมโครกรัมต่อวัน สตรีที่ให้นมบุตรควรใช้ไม่เกิน 2.8 ไมโครกรัมต่อวัน ห้ามใช้ในปริมาณมาก เนื่องจากยังไม่ทราบแน่ชัดถึงความปลอดภัยหากใช้ในปริมาณที่มาก
หลังการผ่าตัดใส่ขดลวดหัวใจ
ควรหลีกเลี่ยง การใช้วิตามินบี 12 ร่วมกับโฟเลต และวิตามินบี 6 หลังจากการผ่าตัดท่อสังเคราะห์ในหลอดเลือดแดง เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการหดตัวของหลอดเลือด
การแพ้หรือรู้สึกไวต่อโคบอลต์ (Cobalt) หรือโคบาลามิน (Cobalamin)
ห้ามใช้วิตามินบี 12 หากคุณมีอาการนี้
ห้ามรับประทานวิตามินบี 12 หากคุณเป็นโรคนี้ เนื่องจากอาจจะเป็นอันตรายต่อเส้นประสาทดวงตา ซึ่งอาจทำให้ตาบอดได้
โรคโลหิตจางเนื่องจากเม็ดเลือดแดงมีขนาดใหญ่ ในบางครั้งสามารถรักษาได้ด้วยวิตามินบี 12 แต่อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงมาก อย่าลองใช้วิธีรักษาด้วยวิตามินบี 12 หากไม่มีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลอย่างใกล้ชิด
การรักษาภาวะขาดวิตามินบี 12 สามารถทำให้เกิดภาวะเม็ดเลือดแดงข้นได้
มีการรายงานว่า บุคคลหนึ่งที่ใช้น้ำมันอะโวคาโดชนิดหนึ่ง และครีมวิตามินบี 12 เพื่อรักษาโรคสะเก็ดเงินนั้นมีอาการคันเล็กน้อย
ไม่ใช่ทุกคนจะมีผลข้างเคียงเหล่านี้ และอาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใด ๆ โปรดปรึกษาหมอของคุณ
การใช้วิตามินบี 12 อาจเกิดอันตรกิริยาต่อยาหรืออาการที่คุณเป็นอยู่ ควรปรึกษากับแพทย์ก่อนใช้ สิ่งที่อาจมีปฏิกิริยาต่อวิตามินบี 12 ได้แก่
วิตามินบี 12 มีความสำคัญต่อการผลิตเซลล์เม็ดเลือดใหม่ คลอแรมเฟนิคอลอาจจะลดจำนวนเซลล์เม็ดเลือดใหม่ลงได้ การใช้คลอแรมเฟนิคอลเป็นเวลานาน อาจลดผลกระทบต่อวิตามินบี 12 ในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดใหม่ แต่คนส่วนใหญ่มักจะใช้คลอแรมเฟนิคอลเพียงแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ ดังนั้น ปฏิกิริยานี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งก่อนใช้ยานี้
ขนาดยาต่อไปนี้ได้รับการศึกษาในงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์
สำหรับผู้ใหญ่
รับประทาน
ขนาดทั่วไปของอาหารเสริมวิตามินบี 12 คือ 1-25 ไมโครกรัมต่อวัน ส่วนปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้ได้รับในแต่ละวันสำหรับวิตามินบี 12 คือ
เนื่องจาก 10-30 % ของผู้สูงอายุไม่สามารถดูดซึมวิตามินบี 12 จากอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ที่อายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป ควรรับสารอาหารให้ได้ปริมาณครบถ้วนตามที่แนะนำในแต่ละวัน ด้วยการรับประทานอาหารที่มีปริมาณของวิตามินบี 12 มาก หรือรับประทานอาหารเสริมวิตามินบี 12 มีการใช้อาหารเสริมในขนาด 25-100 ไมโครกรัมต่อวัน เพื่อรักษาระดับของวิตามินบี 12 ในผู้สูงอายุ
อาการขาดวิตามินบี 12 หรือโรคโลหิตจางรุนแรง
ใช้ ไซยาโนโคบาลามิน (Cyanocobalamin) ขนาด 300-10,000 ไมโครกรัมต่อวัน อย่างไรก็ตามมีหลักฐานบางอย่างชี้ว่า ขนาดยาที่มีประสิทธิภาพสูงสุดอยู่ระหว่าง 647-1032 ไมโครกรัมต่อวัน
สำหรับสารโฮโมซีสทีน (homocysteine) ในเลือดสูง
เคยมี การใช้วิตามินบี 12 400-500 ไมโครกรัมร่วมกับกรดโฟลิค 0.54-5 มก. และไพริดอกซีน (pyridoxine) 16.5 มก.
สำหรับการป้องกันโรคจอตาเสื่อมในผู้สูงอายุ (AMD)
เคยมี การใช้วิตามินบี 12 1 มก. กรดโฟลิก 2.5 มก. และไพริดอกซีน 50 มก.ต่อวัน เป็นเวลา 7.3 ปี
ทาบนผิว
ฉีดเข้าเส้นเลือด
ฉีดเข้าจมูก
ฉีดใต้ผิวหนัง
สำหรับเด็ก
รับประทาน
ปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้ได้รับในแต่ละวันของวิตามินบี 12 คือ
ฉีดเข้าเส้นเลือด
ขนาดยาของวิตามินบี 12 อาจแตกต่างกันตามแต่ละผู้ป่วย ขนาดที่คุณใช้นั้นขึ้นอยู่กับอายุ สุขภาพ และเงื่อนไขอื่น ๆ อาหารเสริมไม่ได้ปลอดภัยเสมอ โปรดปรึกษาแพทย์ของคุณเกี่ยวกับขนาดที่เหมาะสมกับคุณ
วิตามิน B12 สามารถพบได้จาก
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย