
วิตามินบี 12 (Vitamin B12) เป็นวิตามินที่สำคัญ หมายความว่าร่างกายต้องใช้วิตามินบี 12 เพื่อให้ร่างกายทำงานได้อย่างปกติ วิตามินบี 12 สามารถพบได้ในอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ ปลา และผลิตภัณฑ์จากนม และยังสามารถสังเคราะห์ได้ นอกจากนี้ยังถูกใช้ร่วมกับวิตามินบีอื่นๆ อีกด้วย รับประทานวิตามินบี 12 เพื่อรักษาและป้องกันการขาดวิตามินบี 12 ซึ่งเป็นภาวะที่ระดับวิตามินบี 12 ในเลือดต่ำเกินไป นอกจากนี้ยังรับประทานเพื่อรักษาโรคโลหิตจางรุนแรง อันเป็นโรคโลหิตจางที่รุนแรงซึ่งเป็นผลมาจากการขาดวิตามินบี 12 และพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ วิตามินบี 12 ยังสามารถรับประทานเพื่อรักษาโรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s disease) ชะลอวัย และส่งเสริมอารมณ์ พลังงาน สมาธิ การทำงานของจิตใจ และระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ยังใช้เพื่อรักษาโรคหัวใจ หลอดเลือดแดงอุดตัน และลดความเสี่ยงของกลับมาเป็นซ้ำของหลอดเลือดแดงอุดตันหลังการผ่าตัด ลดระดับระดับไตรกลีเซอไรด์ที่สูง (ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคหัวใจ) ภาวะมีบุตรยากสำหรับผู้ชาย โรคเบาหวาน เส้นประสาทที่มือและเท้าเสียหาย ความผิดปกติด้านการนอน ความผิดปกติทางจิต โรคจิตเภท (Schizophrenia) กระดูกอ่อนแอหรือกระดูกพรุน (osteoporosis) เอ็นกล้ามเนื้อบวม โรคเอดส์ โรคลำไส้อักเสบ ท้องร่วง โรคหอบหืด โรคภูมิแพ้ โรคผิวหนังที่เรียกว่าโรคด่างขาว (Vitiligo) และการติดเชื้อที่ผิวหนัง คนบางคนรับประทานวิตามินบี 12 เพื่อรักษาโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเอแอลเอส (amyotrophic lateral sclerosis) หรือที่เรียกว่าโรคลูเกริก (Lou Gehrig Disease) โรคเอ็มเอส (multiple sclerosis) ป้องกันโรคจอตาเสื่อมในผู้สูงอายุ (Age-related macular degeneration) อาการที่ร่างกายสร้างฮอร์โมนไทรอยด์มากเกินไป โรคไลม์ (Lyme Disease) และโรคเหงือก (Gum disease) นอกจากนี้ยังรับประทานเพื่อรักษาการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจ รักษาระดับของการเจริญพันธุ์ มีเสียงในหู ตกเลือด โรคตับและโรคไต แผลร้อนใน ป้องกันกระดูกหัก ป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง ป้องกันการเกิดลิ่มเลือด และยังช่วยป้องกันพิษและสารก่อภูมิแพ้จากควันบุหรี่ นอกจากนี้ยังรับประทานเพื่อช่วยป้องกันมะเร็ง ทั้งมะเร้งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก และมะเร็งปอดได้อีกด้วย วิตามินบี 12 ใช้ทาลงบนผิวอย่างเดียวลงบนผิว หรือใช้ร่วมกับน้ำมันอะโวคาโด เพื่อรักษาโรคสะเก็ดเงิน (psoriasis ) และโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรัง (eczema) นอกจากนี้ยังมีเจลทาจมูกวิตามินบี 12 เพื่อใช้สำหรับโรคโลหิตจางรุนแรง กับใช้เพื่อป้องกันและรักษาภาวะขาดวิตามินบี 12 วิตามินบี 12 นั้นฉีดเข้าสู่ร่างกายเพื่อรักษาโรคโลหิตจางรุนแรง ป้องกันและรักษาภาวะขาดวิตามินบี 12 และเพื่อป้องกันและรักษาโรคระบบประสาท ที่เรียกว่าโรคพยาธิภาวะที่ไขสันหลัง (myelopathy) ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้กับคนที่มีภาวะขาดวิตามินบี 12 นอกจากนี้ยังใช้รักษาอาการสั่น (tremors) โรคอิมเมอร์ซลันด์-กราซเบ็ค (Imerslund-Grasbeck disease) พิษไซยาไนด์ เส้นประสาทเสียหาย เนื่องจากโรคงูสวัด (Shingles) โรคเส้นประสาทเสียหายจากโรคเบาหวาน เหนื่อยหรืออ่อนล้า อาการล้าเรื้อรัง (chronic fatigue syndrome) ไวรัสตับอักเสบซี ภาวะที่ร่างกายผลิตฮอร์โมนไทรอยด์มากเกินไป ตกเลือด โรคมะเร็ง โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) และโรคตับและโรคไต นอกจากนี้ยังฉีดเข้าร่างกาย เพื่อป้องกับไม่ให้หลอดเลือดกลับมาอุดตันซ้ำหลังการผ่าตัดอีกด้วย ยังไม่มีงานวิจัยที่มากพอเกี่ยวกับการทำงานของวิตามินบี 12 โปรดปรึกษากับแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม เป็นที่ทราบกันว่าเราจำเป็นต้องใช้วิตามินบี 12 เพื่อให้สมอง เซลล์เลือด และส่วนอื่นๆ อีกมากมายทำงานและพัฒนาการได้อย่างถูกต้อง ปรึกษากับแพทย์ในกรณีดังต่อไปนี้ ข้อบังคับในการใช้อาหารเสริมนั้น มีเข้มงวดน้อยกว่าข้อบังคับในการใช้ยา ยังต้องการงานวิจัยอีกมากเพื่อบ่งชี้ความปลอดภัย ประโยชน์ของอาหารเสริมนี้จะต้องมีมากกว่าความเสี่ยงก่อนที่จะใช้ โปรดปรึกษากับแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม วิตามินบี 12 นั้นปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่เมื่อรับประทาน ทาลงบนผิวหนัง ฉีดเข้าจมูก ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ วิตามินบี 12 ได้รับการพิจารณาว่าปลอดภัย แม้จะใช้ในปริมาณมาก ข้อควรระวังเป็นพิเศษและคำเตือน การตั้งครรภ์และให้นมบุตร วิตามินบี 12 ปลอดภัยสำหรับหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรหากรับประทานตามขนาดที่แนะนำ ขนาดที่แนะนำสำหรับหญิงตั้งครรภ์คือ 2.6 ไมโครกรัมต่อวัน สตรีที่ให้นมบุตรควรใช้ไม่เกิน 2.8 ไมโครกรัมต่อวัน ห้ามใช้ในปริมาณมาก เนื่องจากยังไม่ทราบแน่ชัดถึงความปลอดภัยหากใช้ในปริมาณที่มาก หลังการผ่าตัดใส่ขดลวดหัวใจ ควรหลีกเลี่ยงการใช้วิตามินบี 12 ร่วมกับโฟเลต และวิตามินบี 6 หลังจากการผ่าตัดท่อสังเคราะห์ในหลอดเลือดแดง เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการหดตัวของหลอดเลือด การแพ้หรือรู้สึกไวต่อโคบอลต์ (cobalt ) หรือโคบาลามิน (cobalamin) ห้ามใช้วิตามินบี 12 หากคุณมีอาการนี้ โรคลีเบอร์ (Leber’s disease) โรคทางพันธุกรรมที่เกี่ยวกับดวงตา ห้ามรับประทานวิตามินบี 12 หากคุณเป็นโรคนี้ เนื่องจากอาจจะเป็นอันตรายต่อเส้นประสาทดวงตา ซึ่งอาจทำให้ตาบอดได้ เซลล์เม็ดเลือดแดงผิดปกติหรือโรคโลหิตจางเนื่องจากเม็ดเลือดแดงมีขนาดใหญ่ (megaloblastic anemia) โรคโลหิตจางเนื่องจากเม็ดเลือดแดงมีขนาดใหญ่ ในบางครั้งสามารถรักษาได้ด้วยวิตามินบี 12 แต่อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงมาก อย่าลองใช้วิธีรักษาด้วยวิตามินบี 12 หากไม่มีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลอย่างใกล้ชิด มีจำนวนเม็ดเลือดแดงสูงหรือภาวะเม็ดเลือดแดงข้น (polycythemia vera) การรักษาภาวะขาดวิตามินบี 12 สามารถทำให้เกิดภาวะเม็ดเลือดแดงข้นได้ มีการรายงานว่า บุคคลหนึ่งที่ใช้น้ำมันอะโวคาโดชนิดหนึ่ง และครีมวิตามินบี 12 เพื่อรักษาโรคสะเก็ดเงินนั้นมีอาการคันเล็กน้อย ไม่ใช่ทุกคนจะมีผลข้างเคียงเหล่านี้ และอาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ โปรดปรึกษาหมอของคุณ วิตามินบี 12 อาจเกิดอันตรกิริยาต่อยาหรืออาการที่คุณเป็นอยู่ ควรปรึกษากับแพทย์ก่อนใช้ สิ่งที่อาจมีปฏิกิริยาต่อวิตามินบี 12 ได้แก่ วิตามินบี 12 มีความสำคัญต่อการผลิตเซลล์เม็ดเลือดใหม่ คลอแรมเฟนิคอลอาจจะลดจำนวนเซลล์เม็ดเลือดใหม่ลงได้ การใช้คลอแรมเฟนิคอลเป็นเวลานาน อาจลดผลกระทบต่อวิตามินบี 12 ในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดใหม่ แต่คนส่วนใหญ่มักจะใช้คลอแรมเฟนิคอลเพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ดังนั้น ปฏิกิริยานี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์และเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการใช้ยานี้ ขนาดการใช้ตามที่นักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษาวิจัย สำหรับผู้ใหญ่ รับประทาน ทาบนผิว ฉีดเข้าเส้นเลือด ฉีดเข้าจมูก ฉีดใต้ผิวหนัง สำหรับเด็ก รับประทาน ปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้ได้รับในแต่ละวันของวิตามินบี 12 คือ: ทารก 0-6 เดือน 0.4 ไมโครกรัม ทารก 7-12 เดือน 0.5 ไมโครกรัม เด็ก 1-3 ปี 0.9 ไมโครกรัม เด็ก 4-8 ปี 1.2 ไมโครกรัม เด็กอายุ 9-13 ปี และ 1.8 ไมโครกรัม เด็กโต ฉีดเข้าเส้นเลือด ขนาดยาของวิตามินบี 12 อาจแตกต่างกันตามแต่ละผู้ป่วย ขนาดที่คุณใช้นั้นขึ้นอยู่กับอายุ สุขภาพ และเงื่อนไขอื่นๆ อาหารเสริมไม่ได้ปลอดภัยเสมอ โปรดปรึกษาแพทย์ของคุณเกี่ยวกับขนาดที่เหมาะสมกับคุณ วิตามิน B12 สามารถพบได้จาก Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใดข้อบ่งใช้
วิตามินบี 12 ใช้สำหรับ
การทำงานของวิตามินบี 12
ข้อควรระวังและคำเตือน
ข้อควรรู้ก่อนใช้วิตามินบี 12
ความปลอดภัยของวิตามินบี 12
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงของการใช้วิตามินบี 12
Interactions
ปฏิกิริยาต่อวิตามินบี 12
ขนาดยา
ขนาดการใช้วิตามินบี 12
รูปแบบของยา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด