จากข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (Centers for Disease Control and Prevention หรือ CDC) ให้ข้อมูลว่า การหกล้มเป็นสาเหตุหลักของการบาดเจ็บที่ไม่ร้ายแรงในเด็กที่อายุต่ำกว่า 19 ปี โดยมีเด็กประมาณ 8,000 คนที่ได้รับการรักษาจากการหกล้มทุกวันในห้องฉุกเฉิน ดังนั้น จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงควรให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างจริงจังและประเมินสถานการณ์อย่างรอบคอบ
ในกรณีส่วนใหญ่หาก ลูกน้อยหกล้ม แล้วร้องไห้ทันที ไม่มีเลือดออก และอาจไม่แสดงอาการบาดเจ็บที่ชัดเจน เมื่อจับพวกเขาให้ยืนขึ้น ก็อาจจะปลอบใจลูกน้อย ซึ่งในกรณีการหกล้มที่ไม่รุนแรงดังกล่าว จะไม่ได้รับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินเสียเท่าไรนัก แต่มีบางสถานการณ์ที่ ควรต้องพาลูกน้อยไปหาคุณหมอทันที เมื่อลูกน้อยหกลม ซึ่งสถานการณ์เหล่านั้น ได้แก่
- ลูกน้อยหมดสติ
- ลูกน้อยเริ่มอาเจียนทันที
- เลือดออกจากจมูกหรือหูของทารก
- จุดที่อ่อนแอ อย่าง กระหม่อม บนกะโหลกศีรษะเริ่มบวม
- มีร่องรอยของการแตกหักของกะโหลกศีรษะ หรือมีรอยฟกช้ำ บวมที่ศีรษะ เลือดออก มีบาดแผลที่หนังศีรษะ
- ลูกน้อยมีอาการชัก
- แขน ขา คอ หรือกระดูกสันหลังจองทารกดูไม่ตรง ผิดรูป และสงสัยว่ากระดูกหัก
- มีสัญญาณใดๆ ที่ลูกน้อยทำตัวไม่เหมือนปกติ เช่น มีอาการเซื่องซึม หรือไม่อยากอาหาร
หากมีอาการหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากลูกน้อยแสดงอาการบาดเจ็บที่คอ กระดูกสันหลัง หรือหนังศีรษะ ไม่ควรอุ้มพวกเขาขึ้นมา เพื่อปลอบใจ เพราะหากเคลื่อนย้ายลูกน้อย อาจเสี่ยงที่จะทำให้การบาดเจ็บแย่ลง ดังนั้น ควรโทรหาสถานพยาบาล เพื่อให้พวกเขาส่งรถพยาบาลมารับตัวลูกไปรักษา
หากลูกน้อยมีอาการชัก ไม่ควรอุ้มพวกเขาขึ้นมา พยายามตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าพวกเขาอยู่ในบริเวณที่ปลอดภัย เพื่อจะไม่ให้ได้รับการบาดเจ็บอีก และพยายามโทรหาสถานพยาบาลทันที
สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำ เมื่อลูกหกล้ม
หากลูกน้อยขไม่ได้ประสบกับภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์หลังจากหกล้ม คุณพ่อคุณแม่อาจสงสัยว่าควรทำอะไรเพื่อลูกน้อย และควรโทรหาหรือไปพบคุณหมอเมื่อใด
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย