backup og meta

เมื่อรู้สึกผิดต่อตัวเอง ควร ให้อภัยตัวเอง อย่างไร

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย · แก้ไขล่าสุด 11/05/2020

    เมื่อรู้สึกผิดต่อตัวเอง ควร ให้อภัยตัวเอง อย่างไร

    คนเราสามารถทำผิดกันได้เสมอ แต่เมื่อทำผิดแล้ว บางคนยังอาจจะรู้สึกผิดต่อตัวเองอยู่ตลอดเวลา บางครั้งถึงขั้นทำให้กลายเป็นโรคต่างๆ ได้ อย่างเช่น วิตกกังวล หรือซึมเศร้า ถ้าหากคุณอยากปล่อยวางความรู้สึกผิดต่อตัวเอง การ ให้อภัยตัวเอง ถือเป็นเรื่องที่ควรทำ แต่จะทำได้อย่างไรบ้าง ทาง Hello คุณหมอ มีเรื่องนี้มาฝากกัน

    การ ให้อภัยตัวเอง มีประโยชน์ด้านใดบ้าง

    ในด้านจิตวิทยา การให้อภัยนั้นถือเป็นเรื่องที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการให้อภัยตัวเองหรือผู้อื่นก็ตาม นอกจากนั้น การให้อภัยยังมีผลต่อความสุขทางจิตใจอีกด้วย จากการศึกษาในปี 2016 นักวิจัยพบว่า ความเครียด สุขภาพ และการให้อภัยนั้นมีความเชื่อมโยงกันเป็นอย่างมาก ผู้ที่มีระดับความเครียดสูงตลอดชีวิตมักจะประสบกับปัญหาสุขภาพจิตที่ไม่ดี นอกจากนั้น ผู้ที่สามารถให้อภัยผู้อื่นและตัวเองได้ มักจะมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น แม้ว่าพวกเขาจะมีระดับความเครียดที่สูงด้วยก็ตาม สำหรับประโยชน์ของการให้อภัยตัวเอง มีดังนี้

    สุขภาพจิต

    การวิจัยแสดงให้เห็นว่า การให้อภัยมีประโยชน์ทางด้านจิตวิทยาเป็นอย่างมาก ทั้งยังอาจลดอาการซึมเศร้า ความวิตกกังวล และเงื่อนไขทางจิตเวชอื่นๆ แต่ประโยชน์ที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่มาจากการปลดปล่อยความโกรธ ก็จะทำให้ความเครียดลดลงด้วย ซึ่งผู้ที่สามารถลดระดับความเครียดได้ ก็จะมีภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น รวมถึงมีพลังงานที่มากขึ้นด้วย

    สุขภาพกาย

    การที่คนรู้จักให้อภัยตัวเองอาจมีอาการทางสุขภาพร่างกายดีขึ้นและมีอัตราการตายที่ลดลง ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะความรู้สึกโกรธและความเกลียดชัง สามารถส่งผลด้านลบต่อสุขภาพได้ ในการศึกษาหนึ่งแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างความโกรธ ความเกลียดชัง และโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ แต่อย่างไรก็ตามการศึกษานี้ยังจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมต่อไป

    ความสัมพันธ์

    ความโกรธ ความผิด ความเสียใจ และความขุ่นเคืองใจนั้น สามารถสร้างความเสียหายต่อความสัมพันธ์ได้ ดังนั้น การให้อภัยจึงเป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยพัฒนาชีวิตครอบครัว และมิตรภาพของคุณได้ การวิจัยแสดงให้เห็นว่า ความสามารถในการให้อภัยนั้นเป็นองค์ประกอบสำคัญของความสันพันธ์ทางสังคม

    ดังนั้น จึงเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า การให้อภัยผู้อื่น เป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสัมพันธ์ที่ดีทางสังคม ส่วนความสามารถในการให้อภัยตัวเองนั้น สามารถทำให้คุณโต้ตอบกับผู้อื่นในชีวิตได้อย่างมีเหตุผลมากขึ้น เมื่อคุณรู้สึกขุ่นเคืองใจ ควรแยกตัวออกมาก่อนจะเป็นการดี อย่าพยายามแสดงความรู้สึกด้านลบของคุณออกไปยังคนที่ใส่ใจในตัวคุณ จะเป็นการดีที่สุด

    วิธี ให้อภัยตัวเอง ที่คุณควรรู้ไว้

    สำหรับผู้ที่ยังไม่รู้ว่าจะ ให้อภัยตัวเอง อย่างไรดี ลองทำตามขั้นตอนเหล่านี้ มันอาจจะช่วยทำให้คุณสามารถให้อภัยตัวเองได้ดีขึ้น ทั้งยังทำให้สุขภาพกายใจของคุณดีขึ้นอีกด้วย

    ลองจัดหมวดหมู่ความผิด

    โดยปกติแล้วคนส่วนใหญ่มักจะพบว่า การให้อภัยตัวเองนั้นถือเป็นเรื่องยากมาก เมื่อทำสิ่งเหล่านี้

    • คุณล้มเหลวในชีวิตบางอย่าง เช่น การแต่งงาน
    • การกระทำของคุณทำร้ายคนอื่น
    • คุณทำร้ายตัวเองทางด้านการใช้ชีวิต เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ หรือทำอย่างอื่นที่เป็นการทำลายตัวเอง
    • คุณไม่ได้ทำสิ่งที่ควรจะทำ เช่น การขัดขวางการทะเลาะกันของคนในครอบครัว

    การจัดหมวดหมู่ความผิด ถือเป็นกระบวนการเริ่มต้นของการให้อภัยตัวเอง ซึ่งวิธีนี้จำให้คุณสามารถแยกแยะสิ่งที่คุณได้ทำลงไป และเริ่มหาวิธีการแก้ไขสิ่งต่างๆ

    มุ่งเน้นไปที่อารมณ์ของคุณ

    หนึ่งในขั้นตอนในการเรียนรู้วิธีการให้อภัยตัวเอง คือ การมุ่งเน้นไปที่อารมณ์ของคุณ ก่อนที่คุณจะก้าวไปข้างหน้า คุณควรจะต้องรู้และประมวลอารมณ์ของคุณเสียก่อน เพื่อคุณจะได้สามารถรับรู้และยอมรับความรู้สึกที่อาจจะเกิดขึ้นกับคุณได้ในภายหน้า และพร้อมที่จะยินดีรับสิ่งที่เกิดขึ้น

    รู้ว่าตัวเองรู้สึกอย่างไร

    การบอกกับคนที่คุณไว้ใจสัก 2-3 คน เกี่ยวกับสิ่งที่คุณได้ทำผิดไป ถือเป็นการดี เพราะคุณจะได้รับการสนับสนุน การดูแล และคำแนะนำที่ดีๆ กลับมา การได้รับการตักเตือนเมื่อคุณทำผิดถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะส่วนใหญ่เมื่อคนเราทำผิด มักจะคิดเพียงแค่เรากำลังอยู่ตัวคนเดียว และเริ่มเกิดความทุกข์ทรมานขึ้น ซึ่งนั่นทำให้การรักษาเยียวยายากขึ้น ดังนั้นการสารภาพในสิ่งที่คุณได้ทำลงไปกับคนที่คุณไว้ใจ ยังเป็นการป้องกันไม่ให้คุณโดนปฏิเสธ หรือโดนในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้

    ทำความเข้าใจกับสิ่งที่คุณต้องการ

    คุณไม่จำเป็นต้องปะทะกับคนที่ทำให้คุณเจ็บปวด แต่คุณจำเป็นจะต้องจัดการกับความรู้สึกผิดที่เกิดขึ้นกับตัวคุณเอง โดยทำให้ตนเองสงบลงด้วยการปล่อยความความรู้สึกผิดในตัวเอง และเริ่มต้นจัดการความรู้สึกของตัวเองเสียใหม่ตั้งใจต้น

    ยอมรับควาผิดพลาด

    หากคุณทำผิดพลาด สิ่งที่คุณจำเป็นต้องทำก็คือ ยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นและเรียนรู้จากความผิดพลาดดังกล่าว คุณจำเป็นจะต้องจดจำบทเรียนจากการกระทำของตัวคุณเอง และยอมรับผลที่ตามมาให้ได้

    คิดว่าแต่ละข้อผิดพลาดคือประสบการณ์การเรียนรู้

    ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้งถือเป็นประสบการณ์การเรียนรู้ และถือว่าเป็นกุญแจก้าวสำคัญที่ทำให้คุณสามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างเร็วขึ้นและสม่ำเสมอ หมั่นเตือนตัวเองเสมอว่า เราทำทุกอย่างดีที่สุดแล้วเท่าที่จะทำได้ ไม่ว่าจะด้วยเครื่องมือหรือความรู้ที่มี นั่นคือสิ่งที่จะช่วยให้เราสามารถยกโทษให้ตัวเอง และก้าวเดินต่อไปข้างหน้า

    ลองพักความรู้สึกผิดเอาไว้ก่อน

    หากคุณทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งผิดพลาด มันถือเป็นเรื่องยากมากที่จะยิบยกเรื่องที่เกิดขึ้นออกไปจากใจได้ แต่ลองคิดว่าความผิดพลาดนั้นถูกใส่ไว้ในภาชนะต่างๆ เช่น ขวด หรือกล่อง จากนั้นบอกกับตัวเองว่า ลองวางสิ่งนี้ลงก่อน แล้วลองกลับไปหาคนที่สามารถช่วยแก้ไขสิ่งผิดพาดที่คุณทำไว้จะเป็นประโยชน์มากที่สุด

    หยุดความรู้สึกผิดนั้นไว้

    การคิดถึงสิ่งที่ทำผิดซ้ำไปซ้ำมาในหัว มันไม่ได้ช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้น มันจะยิ่งทำให้คุณรู้สึกแย่มากขึ้นไปอีก ดังนั้น ทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องการทำผิด พยายามเพ่งสมาธิไปยังความคิดหรือเรื่องราวที่เป็นบวกให้มากขึ้นจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด

    แสดงความเมตตาและเห็นอกเห็นใจ

    อีกวิธีที่จะทำให้คุณก้าวไปสู่การให้อภัยตัวเอง ก็คือการมีเมตตาและเห็นอกเห็นใจต่อตัวคุณเอง ซึ่งการทำเช่นนี้จะต้องใช้เวลา ความอดทน และต้องเตือนตัวเองอยู่เสอว่า คุณควรค่าแก่การให้อภัย

    แทนที่ความรู้สึกผิดด้วยความรู้สึกขอบคุณ

    การรู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับสิ่งที่คุณได้ทำในอดีต มันอาจกลายเป็นของขวัญที่เจ็บปวดสำหรับตัวคุณเอง ดังนั้น ในขณะที่คุณกำลังเรียนรู้ที่จะให้อภัยตัวเอง และก้าวต่อไปข้างหน้า คุณควรนำความคิดและร่างกายของคุณออกจากความรู้สึกผิดนั้น แล้วแทนที่ด้วยความรู้สึกขอบคุณต่อสิ่งต่าง ๆ รอบตัว ซึ่งตัวอย่างทำได้ง่าย ๆ มีดังนี้

    • เข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ใกล้ที่สุด และขอบคุณสำหรับอาหารที่มีเพียงพอ ไม่อดอยาก
    • ไปที่บ้านพักคนชรา หรือโรงพยาบาล และขอบคุณสำหรับสุขภาพที่ดีของคุณเอง
    • หากคุณมีคนสำคัญในชีวิต จงขอบคุณพวกเขาที่ห่วงใยคุณในทุกวัน
    • ลองสังเกตพนักงานขายในร้านที่กำลังรอคุณอยู่ และขอบคุณพวกเขาที่ช่วยเหลือคุณ
    • เมื่อคุณตื่นขึ้นมาในตอนเช้า จงขอบคุณลมหายใจและเรื่องดี ๆ ที่เป็นดั่งของขวัญแห่งชีวิตของคุณ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัย หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    ทีม Hello คุณหมอ


    เขียนโดย สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย · แก้ไขล่าสุด 11/05/2020

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา