ต่อมไขมันโต เป็นภาวะสุขภาพที่ก่อให้เกิดตุ่มนูนสีขาว คล้ายสิว บริเวณใบหน้า หน้าอก และถุงอัณฑะ ซึ่งตุ่มนูนอาจมีขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ อาจรักษาได้ด้วยการเลเซอร์ บำบัดด้วยแสง จี้ด้วยไฟฟ้า หรือการผ่าตัด แต่หากอาการต่อมไขมันโตรุนแรงจนทำให้ตุ่มนูนมีขนาดใหญ่หรือฝังรากลึกมากเกินไป อาจจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาหลายครั้งจนกว่าจะหาย
[embed-health-tool-bmi]
ต่อมไขมันโต คืออะไร
ต่อมไขมันโต (Sebaceous Hyperplasia) มีสาเหตุมาจากการที่ร่างกายผลิตไขมันไม่สม่ำเสมอ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเมื่ออายุมากขึ้น จนเกิดการสะสมของน้ำมันจำนวนมากที่เรียกว่า “ซีบัม” โดยส่วนใหญ่มักปรากฏให้เห็นบริเวณหน้าผาก แก้ม จมูก หน้าอก บริเวณใกล้หัวนม และถุงอัณฑะ บางกรณี ต่อมไขมันโตนี้ยังอาจเกิดขึ้นกับทารกได้เช่นเดียวกันในบริเวณริมฝีปากซึ่งเป็นผลจากพันธุกรรม
ถึงแม้ต่อมไขมันโตนี้จะดูคล้ายสิว แต่ไม่ควรเสี่ยงลองกด หากพบความผิดปกติเกิดขึ้นบนใบหน้า ควรไปหาคุณหมอเพื่อเข้ารับการวินิจฉัย และอาจมีการตัดชิ้นเนื้อไปตรวจเพราะในบางกรณีตุ่มนูนอาจไม่ใช่อาการต่อมไขมันโต หรือสิว แต่อาจหมายถึงเซลล์มะเร็งผิวหนังได้เช่นกัน
ต่อมไขมันโต อาการ เป็นอย่างไร
อาหารหลักของต่อมไขมันโต คือ ตุ่มนูนที่มีตั้งแต่ขนาดเล็กไปถึงขนาดใหญ่ปรากฏอยู่ตามใบหน้า โดยอาจมีรอยบุ๋มเล็กน้อย พร้อมกับมีขอบรอบตุ่มสีเหลือง หรือสีขาว หากมองด้วยตาเปล่าอาจจะคิดว่าเป็นแค่สิวขึ้นธรรมดา แต่ถ้าสังเกตดูดี ๆ สิวจะมีจุดศูนย์กลางของตุ่มที่นูนขึ้นมากว่าปกติ เช่น กรณีที่เป็นสิวหัวดำตรงกลางของตุ่มนั้นก็จะนูนขึ้น และมีจุดสีดำอย่างเห็นได้ชัด แต่หากเป็นต่อมไขมันโตบนผิวหน้า อาจมีสีขาว และเหลืองโดยรอบไม่ใช่แค่เพียงจุดกึ่งกลาง พร้อมกับมีขนาดโดยประมาณ 1-3 มิลลิเมตร หรือ 1-7 เซนติเมตร
ต่อมไขมันโต รักษาได้อย่างไร
สำหรับการรักษา บางกรณีอาจจำเป็นต้องรักษาซ้ำหลายครั้ง เนื่องจากต่อมไขมันโตรุนแรงแและฝังลึกเกินไป การรักษาภายในครั้งเดียวอาจยังไม่เพียงพอ โดยทั่วไปคุณหมออาจใช้วิธีการรักษา ดังนี้
- การเลเซอร์ คุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังอาจแนะนำให้รักษาด้วยเลเซอร์ CO2 ที่จะช่วยลดความหนาของต่อมไขมันลง ส่งผลให้ผิวเรียบเนียน ไร้รอยแผลเป็น
- บำบัดด้วยความเย็น (Cryotherapy) การรักษาต่อมไขมันโตด้วยความเย็นจะส่งผลให้ตุ่มนูนแข็งแห้ง และสามารถหลุดออกไปเองได้ แต่อาจเสี่ยงให้ผิวหนังโดยรอบอาจได้รับผลกระทบไปด้วยจากอุณหภูมิที่เย็นจัด
- บำบัดด้วยแสงโฟโตไดนามิค (Photodynamic Therapy) เป็นการรักษาด้วยแสงที่มีระดับเข้มข้น สามารถฆ่าเชื้อเซลล์ภายในได้ แต่ขณะเดียวกันก็อาจส่งผลให้ผิวหนังแพ้ง่ายหลังการรักษา จนเกิดรอยแดง ลอก
- การจี้ด้วยไฟฟ้า (Electrocautery) คุณหมออาจใช้เทคนิคนี้ เพื่อเปลี่ยนแปลงเม็ดสีผิวจนบางครั้งก็มีการตกสะเก็ดหลังการจี้ และอาจทิ้งรอยแผลเป็นไว้ได้เล็กน้อยหากไม่มีความชำนาญหรือทำผิดขั้นตอน
- ผ่าตัด บางกรณี คุณหมอจำเป็นต้องตัดเอาก้อนเนื้อออกไปทั้งหมดภายในทีเดียว เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาซ้ำ ๆ ทั้งนี้ หลังการผ่าตัด คนไข้ควรดูแลแผลตามคำแนะนำของคุณหมอ พร้อมทายาร่วมด้วย
หลังการรักษาอาการต่อมไขมันโต คนไข้อาจต้องปรับพฤติกรรมการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าใหม่ โดยควรเลือกโฟมล้างหน้า และสกินแคร์ ที่ประกอบด้วยกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) และเรตินอล (Retinol) เนื่องจากมีคุณสมบัติลดความมัน ป้องกันการอุดตันได้