backup og meta

ขนมปังโฮลวีท ประโยชน์ และข้อควรระวังในการบริโภค

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย นายแพทย์ภควัต ตั้งจาตุรนต์รัศมี · โภชนาการเพื่อสุขภาพ · โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า


เขียนโดย ธนชาติ จึงแย้มปิ่น · แก้ไขล่าสุด 30/09/2022

    ขนมปังโฮลวีท ประโยชน์ และข้อควรระวังในการบริโภค

    ขนมปังโฮลวีท เป็นขนมปังที่ทำจากแป้งข้าวสาลีเต็มเมล็ดหรือข้าวสาลีที่ยังไม่ขัดสี ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพกว่าขนมปังขัดขาว หากเลือกรับประทานถูกชนิดและรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม

    คุณค่าทางโภชนาการของ ขนมปังโฮลวีท

    ข้อมูลจากกระทรวงเกษตรแห่งสหรัฐอเมริกา (United States Department of Agriculture หรือ USDA) ระบุว่า ขนมปังโฮลวีท 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 254 กิโลแคลอรี่ รวมถึงสารอาหารต่าง ๆ ดังนี้

  • คาร์โบไฮเดรต 43.1 กรัม
  • โปรตีน 12.3 กรัม
  • ไขมัน 3.55 กรัม
  • โซเดียม 450 มิลลิกรัม
  • โพแทสเซียม 250 มิลลิกรัม
  • ฟอสฟอรัส 212 มิลลิกรัม
  • แคลเซียม 163 มิลลิกรัม
  • แมกนีเซียม 76.6 มิลลิกรัม
  • วิตามินซี 55 มิลลิกรัม
  • ฟอสฟอรัส 39 มิลลิกรัม
  • โคลีน (Choline) 27.2 มิลลิกรัม
  • ซีลีเนียม (Selenium) 25.8 ไมโครกรัม
  • นอกจากนี้ ขนมปังโฮลวีท ยังประกอบด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น แมงกานีส เหล็ก ทองแดง สังกะสี กับวิตามินต่าง ๆ เช่น วิตามินเอ วิตามินอี วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 วิตามินบี 9 อย่างไรก็ตาม ปริมาณวิตามินและแร่ธาตุในขนมปังขึ้นอยู่กับผู้ผลิต ว่าได้เสริมวิตามินและแร่ธาตุเข้าไปในระหว่างการผลิตมากน้อยเพียงใด

    ประโยชน์ของขนมปังโฮลวีทต่อสุขภาพ

    ขนมปังโฮลวีทอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยมีงานศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนคุณสมบัติในการส่งเสริมสุขภาพของขนมปังโฮลวีท ดังนี้

    1. อาจช่วยควบคุมน้ำหนัก

    งานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Plant Foods for Human Nutrition ปี พ.ศ. 2561 ศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิภาพของการบริโภคอาหารและขนมปังที่ทำจากข้าวสาลีไม่ขัดสีต่อระดับไขมันในช่องท้อง โดยนักวิจัยแบ่งผู้เข้าร่วมการทดลองชาวญี่ปุ่นจำนวน 50 ราย ซึ่งมีค่าดัชนีมวลกายเท่ากับหรือมากกว่า 23 ออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกให้บริโภคอาหารและขนมปังที่ทำจากข้าวสาลีไม่ขัดสี ส่วนอีกกลุ่มให้บริโภคอาหารและขนมปังที่ทำจากข้าวสาลีขัดสี เป็นระยะเวลา 12 สัปดาห์เท่า ๆ กัน เมื่อครบระยะเวลาทดลอง พบว่า ผู้เข้าร่วมการทดลองกลุ่มที่บริโภคอาหารและขนมปังที่ทำจากข้าวสาลีไม่ขัดสี มีระดับไขมันในช่องท้องลดลงประมาณ 4 ตารางเซนติเมตร ขณะที่อีกกลุ่มไม่พบการเปลี่ยนแปลงของระดับไขมันในช่องท้อง แต่พบว่ามีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น

    2. อาจช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด

    งานวิจัยชิ้นหนึ่งที่เผยแพร่ในวารสาร BMJ ปี พ.ศ. 2559 ศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคธัญพืชเต็มเมล็ดและความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง รวมถึงสาเหตุการเสียชีวิตอื่น ๆ โดยนักวิจัยศึกษางานวิจัยจำนวน 45 ชิ้น ผลสรุปว่า การบริโภคธัญพืชเต็มเมล็ด รวมถึงขนมปังหรือซีเรียลที่ทำจากธัญพืชเต็มเมล็ด อาจช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดได้

    3. อาจช่วยป้องกันมะเร็งบางชนิดได้

    งานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร BMJ ปี พ.ศ. 2554 ศึกษาเรื่องใยอาหาร ธัญพืชเต็มเมล็ด และความเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยนักวิจัยได้ศึกษางานวิจัยจำนวน 25 ชิ้น พบข้อสรุปว่า การบริโภคใยอาหารในปริมาณมาก โดยเฉพาะจากธัญพืชเต็มเมล็ด อาจช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ โดยการบริโภคธัญพืชเต็มเมล็ดในปริมาณ 90 กรัม/วัน อาจช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ราว ๆ 20 เปอร์เซ็นต์ และหากเพิ่มปริมาณอาจยิ่งลดความเสี่ยงได้มากขึ้น

    ข้อควรระวังในการบริโภค ขนมปังโฮลวีท

    ผู้ที่แพ้ข้าวสาลีควรหลีกเลี่ยงการบริโภคขนมปังโฮลวีท เพราะอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ หากต้องการบริโภคขนมปังธัญพืช ควรเลือกบริโภคขนมปังที่ทำจากข้าวโอ๊ตแทน

    นอกจากนี้ ผู้ป่วยโรคลำไส้แปรปรวน ยังไม่ควรบริโภคขนมปังโฮลวีท เพราะคาร์โบไฮเดรตบางชนิดในข้าวสาลี อาจเป็นสาเหตุให้อาการกำเริบได้

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

    นายแพทย์ภควัต ตั้งจาตุรนต์รัศมี

    โภชนาการเพื่อสุขภาพ · โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า


    เขียนโดย ธนชาติ จึงแย้มปิ่น · แก้ไขล่าสุด 30/09/2022

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา