backup og meta

นมวัว ประโยชน์ต่อสุขภาพและข้อควรระวังในการบริโภค

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย เนตรนภา ปะวะคัง


เขียนโดย ศุภานิช สุริโย · แก้ไขล่าสุด 20/05/2022

    นมวัว ประโยชน์ต่อสุขภาพและข้อควรระวังในการบริโภค

    นมวัว เป็นแหล่งพลังงานที่ดีต่อร่างกาย เป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีนที่ดี ทั้งยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น วิตามินดี วิตามินบี 2 วิตามินบี 12 ฟอสฟอรัส โดยเฉพาะอย่างยิ่งแคลเซียมซึ่งมีส่วนช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงและความหนาแน่นของกระดูกและฟัน ช่วยลดความดันโลหิต และบำรุงสมองได้

    คุณค่าทางโภชนาการของ นมวัว

    ข้อมูลจากกระทรวงเกษตรแห่งสหรัฐอเมริกา (United States Department of Agriculture หรือ USDA) ระบุว่า นมวัว 1 แก้ว ปริมาณ 249 กรัม มีน้ำเป็นส่วนประกอบ 219 กรัม ให้พลังงาน 152  กิโลแคลอรี่ และมีสารอาหารต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

    • โปรตีน 8.14 กรัม
    • ไขมัน 7.97 กรัม
    • โพแทสเซียม 374 มิลลิกรัม
    • แคลเซียม 306 มิลลิกรัม
    • ฟอสฟอรัส 251 มิลลิกรัม
    • โซเดียม 6 มิลลิกรัม
    • แมกนีเซียม 29.6 มิลลิกรัม

    นอกจากนี้ นมวัวยังประกอบไปด้วยวิตามินและสารประกอบอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต วิตามินบี 1 วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 โคลีน กรดไขมัน กรดอะมิโน

    ประโยชน์ต่อสุขภาพของ นมวัว

    นมวัวมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยมีงานศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนสรรพคุณของนมวัวในการส่งเสริมสุขภาพ ดังนี้

    มีส่วนช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก

    นมวัว อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพกระดูก เช่น แคลเซียมที่ช่วยเสริมสร้างความหนาแน่นของกระดูก ลดการสูญเสียมวลกระดูก มีส่วนช่วยให้กระดูกแข็งแรง โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่ง ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Proceedings of the Nutrition Society เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2546  ศึกษาเรื่อง บทบาทของแคลเซียมในอาหารต่อสุขภาพกระดูก พบว่า แคลเซียมเป็นองค์ประกอบสำคัญของร่างกาย ทำหน้าที่สำคัญในการสะสมแร่ธาตุในกระดูก และเป็นส่วนประกอบ 99% ของกระดูก ทั้งยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของโครงสร้างของกระดูกได้ด้วย มนุษย์จึงจำเป็นต้องได้รับแคลเซียมอย่างเพียงพอตลอดชีวิต ตั้งแต่วัยเด็ก วัยรุ่น ไปจนถึงวัยสูงอายุ รวมถึงในช่วงตั้งครรภ์และให้นมบุตร

    นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งตีพิมพ์วารสาร Calcified Tissue International เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2559 ศึกษาเรื่อง ผลของการบริโภคผลิตภัณฑ์นมต่อสุขภาพ พบว่า การบริโภคผลิตภัณฑ์นม 3 มื้อต่อวัน มีความปลอดภัยและอาจเป็นประโยชน์ในการรักษากระดูก อีกทั้งผลิตภัณฑ์จากนมยังไม่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยเฉพาะหากเป็นชนิดที่มีไขมันต่ำ

    มีส่วนช่วยในการลดระดับความดันโลหิตได้

    ผลิตภัณฑ์จากนมวัวมีโพแทสเซียมซึ่งอาจช่วยควบคุมระดับความดันโลหิต เนื่องจากโพแทสเซียมมีฤทธิ์ขับน้ำและโซเดียมออกจากร่างกาย ทั้งยังช่วยลดความตึงเครียดของเยื่อบุผนังหลอดเลือด จนอาจส่งผลให้ความดันโลหิตลดลงได้ จากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ ในวารสาร Journal of the American Heart Association เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2549 ศึกษาเรื่อง อิทธิพลของไขมันอิ่มตัวและกรดลิโนเลนิก (Linolenic acid) ในผลิตภัณฑ์จากนมกับระดับความดันโลหิต โดยมีกลุ่มตัวอย่างจำนวน 4,797 คน พบว่า กลุ่มที่รับประทานผลิตภัณฑ์จากนมวัว 2 มื้อ/วัน มีอัตราการเกิดภาวะความดันโลหิตสูงน้อยกว่ากลุ่มอื่น โดยเฉพาะเมื่อบริโภคผลิตภัณฑ์นมชนิดไขมันต่ำ ซึ่งอาจเป็นผลมาจากสารอาหารที่มีประโยชน์ เช่น แคลเซียม โพแทสเซียม แมกนีเซียม ที่อยู่ในผลิตภัณฑ์นมวัว

    อาจมีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง

    นมวัว มีฤทธิ์ช่วยรักษาระดับสารกลูตาไธโอน (Glutathione) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเนื้อเยื่อไม่ให้ถูกทำลายและกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย และช่วยต้านความเสื่อมของระบบประสาท  โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่ง ที่ตีพิมพ์ใน The American Journal of Clinical Nutrition เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 ศึกษาเรื่อง ความสัมพันธ์ของการบริโภคนมกับความเข้มข้นของกลูตาไธโอนในสมองของผู้สูงอายุ โดยมีกลุ่มผู้เข้าร่วมวิจัยจำนวน 60 คน อายุ 60-85 ปี และวัดค่ากลูตาไธโอนในสมองของผู้เข้าร่วมวิจัยหลังจากให้บริโภคผลิตภัณฑ์จากนมวัว เป็นเวลา 7 วัน พบว่า ความเข้มข้นของกลูตาไธโอนในสมองมีความสัมพันธ์กับการบริโภคอาหารจากนมและแคลเซียมอย่างมีนัยสำคัญ โดยผู้สูงอายุที่บริโภคผลิตภัณฑ์จากนมวัว เช่น โยเกิร์ต นม ชีส มีระดับความเข้มข้นของกลูตาไธโอนมากกว่ากลุ่มที่ไม่ได้บริโภค ซึ่งอาจเป็นผลจากการบริโภคผลิตภัณฑ์จากนมวัวที่มีส่วนประกอบของสารอาหารต่าง ๆ ช่น แคลเซียม วิตามินดี และไรโบฟลาวินหรือวิตามินบี 2

    ข้อควรระวังเมื่อบริโภคนมวัว

    แม้การรับประทานนมวัวจะมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ก็มีข้อควรระวังในการบริโภค ดังนี้

    • ผู้ที่มีอาการแพ้น้ำตาลแลคโตส (Lactose intolerance) อาจมีปัญหาในการย่อยน้ำตาลในนม หากรับประทานนมวัวอาจทำให้เกิดอาการท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน จึงควรหลีกเลี่ยงการรับประทานนมวัวเพื่อลดความเสี่ยงต่อสุขภาพ
    • ผลิตภัณฑ์จากนมวัวอาจกระตุ้นให้เกิดสิวได้ เนื่องจากนมวัวจะไปกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน ผู้ที่ปัญหาสิวควรลดการบริโภคนมวัว
    • เด็กที่อายุต่ำกว่า 1 ปีไม่ควรรับประทานนมวัว เนื่องจากระบบย่อยอาหารยังทำงานได้ไม่เต็มที่ อาจทำให้เด็กไม่สบาย เช่น ท้องเสีย อาเจียนได้
    • นมวัวมีไขมันอิ่มตัวสูง จึงควรรับประทานอย่างพอดี หากรับประทานนมวัวมากเกินไปอาจทำให้เกิดโรคอ้วนได้

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    เนตรนภา ปะวะคัง


    เขียนโดย ศุภานิช สุริโย · แก้ไขล่าสุด 20/05/2022

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา