backup og meta

เด็กละเมอ เป็นเรื่องปกติหรือไม่ และเมื่อไหร่ที่ต้องกังวล

เด็กละเมอ เป็นเรื่องปกติหรือไม่ และเมื่อไหร่ที่ต้องกังวล

การเดินละเมอเป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกเพศทุกวัย แต่จะพบบ่อยในเด็ก ตามสถิติแล้วเด็ก 1 ใน 5 จะเดินละเมออย่างน้อย 1 ครั้ง นอกจากนี้อาการละเมอ สามารถเกิดขึ้นได้จนถึงตอนที่เป็นวัยรุ่น และบางครั้งอาจเกิดขึ้นจนถึงวัยที่เป็นผู้ใหญ่ เด็กละเมอ ถือเป็นเรื่องปกติหรือไม่ และเมื่อไหร่ที่คุณพ่อคุณแม่ควรกังวล

การเดินละเมอ คืออะไร

เดินละเมอ (Sleepwalking) เป็นอาการที่เด็กจะลุกขึ้นจากที่นอน และเดินไปขณะที่กำลังหลับอยู่ ซึ่งลักษณะแบบนี้ถือเป็นอาการเดินละเมอที่พบบ่อย นอกจากนี้ยังมีอาการเดินละเมออื่นๆ ได้แก่

  • ละเมอพูด
  • ตื่นนอนยาก
  • ดูงุนงง
  • ไม่ตอบสนองเวลาพูดด้วย
  • ลุกขึ้นมานั่ง
  • เคลื่อนไหวแบบเดิมซ้ำๆ เช่น ขยี้ตา

นอกจากนี้ เด็กที่เดินละเมอสามารถลืมตาได้ แต่จะมองไม่เห็นเหมือนตอนตื่น โดยลักษณะที่พบบ่อยคือเด็กจะคิดว่าพวกเขาอยู่ในห้องที่แตกต่างจากห้องที่บ้าน หรืออยู่ในสถานที่อื่น

มากไปกว่านั้น เด็กๆ มีแนวโน้มที่จะมีอาการเดินละเมอภายใน 1-2 ชั่วโมงก่อนจะหลับ และอาจเดินไปที่ใดที่หนึ่งโดยใช้เวลาตั้งแต่ไม่กี่วินาที ถึง 30 นาที และในขณะที่พวกเขากำลังละเมอ ก็ยากที่จะปลุกให้ตื่น แต่เมื่อตื่นแล้วเด็กอาจรู้สึกงัวเงียและสับสนเป็นเวลา 1-2 นาที

ถึงแม้ว่าจะเรียกว่าการเดินละเมอ แต่ก็อาจไม่ได้เป็นเพียงแค่การเดิน เนื่องจากการเดินละเมอสามารถหมายถึงอาการอื่นๆ ได้ และไม่ว่าเด็กๆ จะมีอาการละเมอในลักษณะใด พวกเขาก็มักจะจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างตอนที่พวกเขาละเมอ ส่วนสาเหตุของการละเมอ มีดังนี้

สาเหตุของอาการเดินละเมอ

การเดินละเมอนั้นพบได้ทั่วไปในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ และถ้าพ่อแม่เคยมีอาการเดินละเมอตอนเด็ก ลูกก็มีแนวโน้มที่จะเดินละเมอด้วย ซึ่งสาเหตุของอาการเดินละเมออาจเกิดจาก

  • นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ หรืออ่อนเพลีย
  • นอนหลับไม่ตรงเวลา
  • ป่วย หรือเป็นไข้
  • ยาบางชนิด
  • ความเครียด
  • ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea)
  • ปัสสาวะรดที่นอน
  • ละเมอกรีดร้อง (Sleep terror) หมายถึงการมีอาการกรีดร้องขึ้นมาขณะหลับ

เด็กละเมอ เป็นอันตรายหรือไม่

การเดินละเมอโดยปกติไม่อันตราย แต่สามารถทำให้เกิดอันตรายได้ในบางกรณี เช่น ปลุกไม่ตื่น เดินลงบันได หรือเปิดหน้าต่าง ซึ่งการที่ไม่รู้สึกตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่อาจทำให้เกิดอันตรายได้

สำหรับเด็กแล้ว การละเมอไม่ถือว่าสัญญาณหรืออาการที่เกี่ยวกับความผิดปกติทางอารมณ์หรือทางจิตวิทยา และไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ ต่ออารมณ์

ละเมอแบบไหนที่ต้องกังวล

โดยปกติแล้วอาการเดินละเมอไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา แต่ควรปรึกษาคุณหมอ หากพบว่าเด็กมีอาการเดินละเมอในลักษณะดังต่อไปนี้

  • เดินละเมอบ่อยเกินไป
  • ทำให้เด็กนอนไม่พอในตอนกลางคืน และต้องนอนชดเชยระหว่างวัน
  • การละเมอมีความเสี่ยงที่จะทำให้เด็กได้รับบาดเจ็บหรือได้รับอันตราย

ถ้าการเดินละเมอเกิดขึ้นบ่อยอาจทำให้เกิดปัญหาได้ และถ้าอาการยังไม่หายไปเมื่อลูกเข้าสู่วัยรุ่น ควรปรึกษาแพทย์

วิธีทำให้อาการเดินละเมอดีขึ้น

อาการเดินละเมอมักจะไม่มีการรักษา และคำแนะนำเหล่านี้อาจช่วยทำให้อาการเดินละเมอดีขึ้น

  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  • เข้านอนเวลาเดียวกันทุกวัน
  • บรรยากาศห้องนอนควรมืดสนิทและเงียบ
  • ควรให้เด็กเข้าห้องน้ำก่อนนอน

ควรป้องกันเด็กไม่ให้รับอันตรายเวลาละเมอได้อย่างไร

เด็กที่มีอาการเดินละเมออาจจะสะดุดล้ม วิ่งไปชนอะไรบางอย่าง หรือเดินออกไปนอกบ้านจนได้รับอันตรายได้ จึงควรป้องกันและระวังความปลอดภัย ดังนี้

  • อย่าพยายามปลุกเด็กให้ตื่น เนื่องจากอาจทำให้เด็กกลัว โดยคุณพ่อคุณแม่ควรค่อยๆ พาลูกกลับไปนอนที่เตียงขณะที่เขากำลังเดินละเมออยู่
  • ล็อกหน้าต่างและประตูให้เรียบร้อย
  • ไม่ควรให้ลูกนอนเตียง 2 ชั้น เพื่อป้องกันการตกลงมา
  • บริเวณรอบๆ เตียงนอนไม่ควรมีของมีคม และของที่แตกง่าย รวมถึงสิ่งที่จะเป็นอันตรายต่อเด็ก

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัย หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

[embed-health-tool-vaccination-tool]

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

Sleepwalking. https://kidshealth.org/en/parents/sleepwalking.html. Accessed on January 15 2019.

Sleepwalking: When to Seek Medical Care. https://www.webmd.com/sleep-disorders/sleepwalking-when-to-seek-medical-care. Accessed on January 15 2019.

Sleepwalking. https://www.nhs.uk/conditions/sleepwalking/. Accessed on January 15 2019.

เวอร์ชันปัจจุบัน

11/05/2020

เขียนโดย Sopista Kongchon

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ

อัปเดตโดย: Sukollaban Khamfan


บทความที่เกี่ยวข้อง

วรรณกรรมเยาวชน แนะนำเล่มไหนดีที่จะช่วยปลูกฝังนิสัยรักการอ่าน

ฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ก็สำคัญสำหรับเด็ก ๆ เหมือนกันนะ!


ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย Sopista Kongchon · แก้ไขล่าสุด 11/05/2020

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา