backup og meta

ขัดผิว ประโยชน์และการดูแลผิวให้สุขภาพดี

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย แพทย์หญิงอัญชิสา กาญจโนมัย · โรคผิวหนัง · พรเกษมคลินิก


เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน · แก้ไขล่าสุด 27/03/2023

    ขัดผิว ประโยชน์และการดูแลผิวให้สุขภาพดี

    การ ขัด ผิว เป็นวิธีที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าชั้นนอกสุด โดยปกติแล้วร่างกายมีวงจรการผลัดเซลล์ผิว โดยใช้เวลาประมาณ 28 วัน แต่เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น อาจทำให้การกระบวนการผลัดเซลล์ผิวทำงานลดลง จึงจำเป็นต้องใช้วิธีการขัดผิวเข้ามาช่วยกำจัดเซลล์ผิวเก่าออก ทำให้ผิวดูกระจ่างใสและเรียบเนียน อย่างไรก็ตาม หากขัดผิวผิดวิธีก็อาจทำให้ผิวหนังได้รับความเสียหายได้ ดังนั้น จึงควรศึกษาวิธีขัดผิวอย่างถูกต้อง เพื่อช่วยลดการบาดเจ็บ ผิวถลอก และเป็นแผล

    ประโยชน์ของการ ขัด ผิว

    ประโยชน์ของการขัดผิว อาจมีดังนี้

  • ช่วยทำให้ผิวดูนุ่มขึ้น สีผิวสม่ำเสมอ และอาจช่วยลดรอยแตกลายบนผิว
  • ช่วยป้องกันรูขุมขนอุดตันจากสิ่งสกปรกและเซลล์ผิวเก่า
  • ช่วยทำให้ครีมบำรุงต่าง ๆ เช่น มอยเจอร์ไรเซอร์ โลชั่นซึมเข้าสู่ผิวได้ง่ายและทั่วถึง
  • ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของต่อมน้ำเหลือง
  • ช่วยผ่อนคลายความเครียด
  • ควรขัดผิวบ่อยแค่ไหน

    ความถี่ในการขัดผิวอาจขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล แต่โดยทั่วไปคือ ไม่ควรขัดผิวมากกว่าสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพราะการขัดผิวบ่อยเกินไปอาจทำให้ผิวแห้ง ผิวบาง และไวต่อแสง นอกจากนี้ ยังอาจทำให้ผิวได้รับสารเคมีจากผลิตภัณฑ์ขัดผิว ซึ่งอาจส่งผลให้ผิวเกิดอาการแพ้และระคายเคือง อีกทั้งหากขัดผิวแรงจนเกินไปอาจทำให้เกิดบาดแผลได้

    วิธี ขัด ผิว

    วิธีขัดผิวอาจทำได้ดังนี้

    1. อาบน้ำด้วยน้ำอุ่น
    2. ทาสครับหรือผลิตภัณฑ์สำหรับขัดผิวบนผิวในบริเวณที่ต้องการ
    3. ใช้มือหรือแปรงขัดผิวเป็นวงกลมอย่างเบามือ
    4. ล้างออกด้วยน้ำอุ่น
    5. ใช้ผ้าขนหนูซับผิวให้แห้ง และบำรุงผิวด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว

    สูตรขัดผิวที่ทำได้ด้วยตัวเอง

    สูตรขัดผิว ที่สามารถทำด้วยตัวเองได้ มีดังนี้

    สูตรที่ 1 สครับกาแฟ

    วัตถุดิบ

    • กากกาแฟ ½ ถ้วย
    • น้ำร้อน 2 ช้อนโต๊ะ
    • น้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ

    วิธีทำ

    • นำกากกาแฟผสมกับน้ำร้อนที่เตรียมไว้
    • จากนั้นใส่น้ำมันมะพร้าว ผสมให้เข้ากัน ก่อนจะนำมาขัดผิว

    สูตรที่ 2 สครับน้ำตาลและน้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์

    วัตถุดิบ

    • น้ำตาล 1 ถ้วย
    • น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันอัลมอนด์ สามารถเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ½ ถ้วย
    • วานิลลาสกัด ½ ช้อนชา
    • น้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์ 15 หยด

    วิธีทำ

    • นำส่วนผสมทั้งหมดมาผสมกันให้มีเนื้อละเอียด
    • จากนั้นนำมาขัดตัว แต่ไม่ควรขัดแรงจนเกินไปเพราะเกล็ดน้ำตาลอาจบาดผิวได้

    สูตรที่ 3 เกลือขัดผิว

    วัตถุดิบ

    • เกลือทะเล ½ ถ้วย
    • น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันมะพร้าว สามารถเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ½ ถ้วย

    วิธีทำ

    • ผสมเกลือทะเลและน้ำมันเข้าด้วยกัน
    • อาจเพิ่มน้ำมันหอมระเหยได้ตามความต้องการ
    • จากนั้นนำมาขัดตัว แต่ไม่ควรขัดแรงจนเกินไปเพราะเกล็ดของเกลือทะเลอาจบาดผิวได้

    สูตรที่ 4 สครับน้ำตาลและชาเขียว

    วัตถุดิบ

    • ชาเขียว 2 ถุง
    • น้ำร้อน ½ ถ้วยตวง
    • น้ำตาลทรายแดง 1 ถ้วยตวง
    • น้ำมันมะพร้าว ½ ถ้วย

    วิธีทำ

    • ใส่ถุงชาลงในน้ำร้อน และทิ้งไว้ให้เย็น
    • จากนั้นใส่น้ำตาลทรายแดงลงไปผสมกับน้ำมันมะพร้าวให้มีเนื้อละเอียด
    • เมื่อชาเย็นลงให้ใส่น้ำตาลทรายแดงที่ผสมกับน้ำมันมะพร้าวลงไป
    • หากเนื้อสครับเหลวหรือข้นจนเกินไปอาจใส่ส่วนผสมเพิ่มตามความเหมาะสม เช่น หากเหลวเกินไปให้ใส่น้ำตาลทรายแดงเพิ่ม หากข้นเกินไปให้ใส่น้ำร้อนเพิ่ม และนำมาขัดผิว

    สูตรที่ 5 สครับน้ำตาลและน้ำผึ้ง

    วัตถุดิบ

    • น้ำตาลทรายแดง 1/2 ถ้วย
    • น้ำมันมะพร้าว ¼ ถ้วย
    • น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ

    วิธีทำ

    • ใส่น้ำตาลทรายแดง น้ำมันมะพร้าว และน้ำผึ้งลงผสมเข้าด้วยกัน
    • หากสังเกตว่าเนื้อสครับข้นหรือเหลวจนเกินไป อาจเติมส่วนผสมเพิ่มเติมได้

    วิธีดูแลผิวหลังจากการขัดผิว

    วิธีดูแลหลังจากการขัดผิวเพื่อช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี อาจทำได้ดังนี้

    • ไม่ควรอาบน้ำด้วยน้ำร้อน แต่ควรอาบน้ำด้วยน้ำอุณหภูมือปกติ และควรจำกัดเวลาอาบน้ำไม่เกิน 10 นาที เพียงวันละ 1-2 ครั้ง เพราะการอาบน้ำบ่อยและอาบน้ำเป็นเวลานาน อาจทำให้ผิวแห้งและระคายเคือง
    • หลีกเลี่ยงการใช้สบู่ที่มีส่วนประกอบของน้ำหอม
    • เลือกผลิตภัณฑ์ขัดผิวตามธรรมชาติ และควรหลีกเลี่ยงการขัดผิวในช่วงที่ผิวบอบบางหรือมีบาดแผล อีกทั้งผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ไม่ควรขัดผิวบ่อยเกินไปในระหว่างใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของอนุพันธ์วิตามินเอ หรือเรตินอยด์ (Retinol) เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคือง
    • บำรุงผิวด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวนุ่ม และป้องกันผิวแห้ง
    • ปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยการสวมเสื้อผ้าแขนยาว หรือทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 60 ขึ้นไป และควรทาซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง หากเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดช่วงเวลา 10.00-16.00 น. เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่แดดแรง
    • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ เพราะอาจทำให้การไหลเวียนเลือดไม่ดี อีกทั้งสารเคมีในบุหรี่ยังอาจทำลายออกซิเจนในเลือดและทำลายคอลลาเจนที่เป็นเส้นใยในชั้นผิว ส่งผลให้ผิวหนังขาดความยืดหยุ่นและอาจเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

    แพทย์หญิงอัญชิสา กาญจโนมัย

    โรคผิวหนัง · พรเกษมคลินิก


    เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน · แก้ไขล่าสุด 27/03/2023

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา