สิวเป็นหนึ่งในปัญหาผิวหนังที่อาจเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย โดยสิวมีอยู่ด้วยกันหลายประเภท เชน สิวหัวหนอง สิวอักเสบ สิวหัวดำ สิวหัวช้าง ซึ่งในบางคนอาการของสิวอาจเกิดขึ้นเรื้อรังจนกลาย เป็นสิวรุนแรง ซึ่งอาจทำให้เสียความมั่นใจ ดังนั้น การรักษาสิวอย่างถูกวิธี อาจช่วยทำให้อาการสิวดีขึ้นได้
[embed-health-tool-ovulation]
เป็นสิวรุนแรง เกิดจากอะไร
ผู้ที่ เป็นสิวรุนแรง มักจะมีสิวเห่อทั่วบริเวณใบหน้า หน้าอก แผ่นหลัง นอกจากนี้ ยังอาจเกิดขึ้นที่กราม ลำคอ รวมถึงที่ก้นด้วย โดยสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทยระบุว่า สิวในระดับรุนแรงอาจมีลักษณะเป็นสิวชนิดอักเสบ เช่น สิวตุ่มหนอง สิวผื่นนูน สิวหัวช้าง หรืออาจมีสิวตุ่มใหญ่อักเสบเกิดขึ้นซ้ำ ๆ หรืออาจมีหนองไหลร่วมด้วย โดยสิวตุ่มใหญ่หรือสิวหัวช้างที่ลึกลงไปในผิวหนังอาจยิ่งทำให้มีอาการเจ็บ และอาจเกิดชแผลเป็นได้ง่ายเมื่อสิวหาย ในบางคนอาจมีสิวชนิดไม่รุนแรง เช่น สิวอุดตัน สิวหัวขาว สิวหัวดำ ร่วมด้วย
สาเหตุที่ไม่ควรปล่อยให้สิวเห่อ
การเป็นสิวรุนแรงและการปล่อยให้สิวเห่อ อาจทำให้เสียความมั่นใจ และหากปล่อยไว้นานก็อาจส่งผลทำให้สุขภาพจิตแย่ลงจนนำไปสู่โรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล หรือความภูมิใจในตัวเองต่ำ (Low self-esteem) ได้ นอกจากนี้ ปัญหาสิวรุนแรงยังส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตในสังคม หรือความสัมพันธ์กับผู้อื่นได้ เนื่องจาก ผู้ที่ เป็นสิวรุนแรง อาจไม่อยากพบปะสังสรรค์กับครอบครัวหรือเพื่อนฝูง
ดังนั้น หากเป็นสิวรุนแรงจึงควรรีบรักษาสิว เพราะการรักษาสิวนอกจากจะช่วยให้สิวหายแล้ว ยังอาจช่วยป้องกันจุดด่างดำ หลุมสิว ทั้งยังอาจช่วยพัฒนาอารมณ์และเพิ่มความนับถือตัวเองได้ด้วย
เป็นสิวรุนแรงควรดูแลและรักษาอย่างไร
สำหรับผู่ที่เป็นสิวรุนแรง อาจทำตามขั้นตอนเหล่านี้ เพื่อช่วยทำให้อาการสิวดีขึ้น
1. อาจทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน
เพื่อป้องกันผิวถูกทำร้าย หรือสิวเห่อหนักกว่าเดิม อาจทำความสะอาดผิวด้วยดังต่อไปนี้
- ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยนวันละ 2 ครั้ง คือ เช้าและก่อนนอน
- โกนขนอย่างเบามือ
- ล้างหน้าทันทีหลังจากทำกิจกรมมที่ทำให้เกิดเหงื่อมาก เช่น เล่นกีฬา หรืออาบน้ำทันที เพื่อขจัดเหงื่อและสิ่งสกปรก เพราะการเช็ดเหงื่ออย่างเดียวอาจทำให้อาการสิวแย่ลง
- เช็ดเครื่องสำอางและล้างหน้าให้สะอาดก่อนเข้านอนทุกครั้ง
2. อาจปกป้องผิวจากแสงแดด
ในผู้ที่มีผิวบอบบาง เมื่อบริเวณที่เป็นสิวรุนแรงโดนแสงแดดโดยไม่มีการป้องกันอาจทำให้สิวเห่อมากกว่าที่เป็นอยู่ ดังนั้น จึงควรปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยวิธีต่อไปนี้
- ทาครีมกันแดดทุกวันทั้งตอนอยู่ในที่ร่มและอยู่กลางแจ้ง โดยทาทิ้งไว้อย่างน้อยประมาณ 15-30 นาที จึงค่อยออกแดด และควรทาครีมกันแดดซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง
- หากต้องอยู่ในที่กลางแจ้ง นอกจากทาครีมกันแดดแล้วอาจต้องสวมหมวกปีกกว้าง เพื่อช่วยปกป้องผิวหนังบริเวณใบหน้า ลำคอ หรือบริเวณที่เป็นสิวรุนแรง
4. อาจใช้ยารักษาสิวที่หาซื้อได้ตามร้านขายยา
อาจรักษาสิวด้วยการซื้อยาหรือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยรักษาสิวจากร้านขายยา โดยต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของ เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) ซัลเฟอร์ (Sulfur) รีซอร์ซินอล (Resorcinol) ซึ่งควรล้างหน้าให้สะอาด และซับหน้าให้แห้งก่อนทาครีมรักษาสิว แต่ถ้าหากใช้แล้วสิวเห่อ หรือสิวมีอาการแย่ลง ควรหยุดใช้และรีบเข้าพบคุณหมอทันที
เป็นสิวหนัก อาจต้องรักษากับแพทย์ผิวหนัง
หากเป็นสิวหนักและมีอาการต่าง ๆ เหล่านี้อาจต้องเข้าพบคุณหมอ เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม
- รักษาด้วยยาที่ซื้อจากร้านขายยาแล้วไม่ได้ผล
- สิวเห่อหนักกว่าเดิม หรือมีอาการเจ็บปวดมาก
- ผิวเริ่มติดเชื้อ
- สิวหายแต่ทิ้งจุดด่างดำ หรือหลุมสิวเอาไว้
- เป็นสิวหนักมากจนทำให้เสียความมั่นใจ และทำให้เสียสุขภาพจิต
คุณหมออาจทำการรักษาสิวขั้นรุนแรง โดยใช้วิธีต่าง ๆ ดังนี้
- ให้กินยาปฏิชีวนะ เช่น มิโนไซคลีน (Minocycline) ดอกซีไซคลีน (Doxycycline)
- รักษาด้วยเลเซอร์ หรือบำบัดด้วยแสง
- ฉีดสิว
- สำหรับผู้หญิง คุณหมออาจให้กินยาคุมกำเนิดเพื่อรักษาสิว
นอกจากนี้ คุณหมออาจสั่งจ่ายยาไอโซเตรทติโนอิน (Isotretinoin) ซึ่งเป็นยากลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอ ที่ใช้รักษาสิวชนิดรุนแรงโดยเฉพาะ และควรทำตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัด เพราะหากใช้ผิดวิธีอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้