วิตามินซีอาจช่วยป้องกันการอักเสบของเซลล์กระดูกและยังมีส่วนช่วยในการดูดซึมสารอาหารที่จำเป็นต่อการบำรุงรักษากระดูกให้แข็งแรง โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Medical Archives เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2562 ศึกษาเกี่ยวกับวิตามินซีในการช่วยลดอาการข้อเข่าเสื่อม พบว่า วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่อาจช่วยต้านการอักเสบของเซลล์ในร่างกาย ซึ่งอาจก่อให้เกิดโรคข้อเข่าเสื่อม ทั้งยังช่วยสนับสนุนการทำงานของระบบเผาผลาญและการดูดซึมสารอาหารที่จำเป็นต่อการเสริมสร้างกระดูก นอกจากนี้ ยังอาจช่วยบรรเทาอาการปวดเข่าในผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมได้อีกด้วย โดยปริมาณวิตามินซีที่ควรได้รับในแต่ละวัน คือ 2,000 มิลลิกรัม/วัน
โดยแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซี ได้แก่ มะละกอ ฝรั่ง สับปะรด ส้ม ส้มโอ สตรอว์เบอร์รี่ กีวี่ บลูเบอร์รี่ แคนตาลูป ราสพ์เบอร์รี่ กะหล่ำดอก บร็อคโคลี่ คะน้า พริกหยวก มะเขือเทศ
-
เบต้าแคโรทีน
เบต้าแคโรทีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่อาจช่วยป้องกันการอักเสบของเซลล์กระดูกข้อต่อ จึงอาจช่วยป้องกันข้อเข่าเสื่อมได้ โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Arthritis Research & Therapy เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2550 ศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสารต้านอนุมูลอิสระและกระดูกอ่อนข้อเข่าและกระดูก พบว่า เบต้าแคโรทีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่อาจช่วยยับยั้งปฏิกิริยาออกซิเดชันที่ก่อให้เกิดการอักเสบของเซลล์ในร่างกาย จึงอาจช่วยลดความเสี่ยงเกิดโรคข้อเข่าเสื่อมได้ โดยปริมาณเบต้าแคโรทีนที่แนะนำ คือ 3,000 ไมโครกรัม/วัน
โดยแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน ได้แก่ กะหล่ำดาว ผักกาด ผักปวยเล้ง มันฝรั่งหวาน แคนตาลูป พาสลีย์ แอปริคอต มะเขือเทศ หน่อไม้ฝรั่ง ใบสะระแหน่ ผักใบเขียว
-
วิตามินดี
วิตามินดีมีส่วนช่วยในการดูดซึมแคลเซียมและสารอาหารอื่น ๆ ที่สำคัญต่อการบำรุงกระดูก เพิ่มมวลกระดูกและป้องกันการสูญเสียมวลกระดูก โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nutrients เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 ศึกษาเกี่ยวกับวิตามินดีในการป้องกันและรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม พบว่า วิตามินดีมีประโยชน์ต่อการเพิ่มมวลกระดูกและป้องกันการสูญเสียมวลกระดูก จึงอาจช่วยป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุนและกระดูกหักได้ แต่ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่า วิตามินดีสามารถช่วยป้องกันโรคข้อเข่าเสื่อม อย่างไรก็ตาม การเสริมวิตามินดีอาจช่วยบรรเทาอาการปวดในผู้ป่วยที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อมได้ ซึ่งปริมาณวิตามินดีที่ควรได้รับในแต่ละวัน คือ 100 ไมโครกรัม/วัน
โดยแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินดี ได้แก่ แซลมอน ทูน่า ปลาทะเล ปลาซาร์ดีน กุ้ง เห็ด ไข่ นม โยเกิร์ต น้ำส้ม น้ำมันตับปลา ผักใบเขียว เต้าหู้
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย