ผลการศึกษาพบว่า ผู้ป่วยโรคไตที่ได้รับจ่ายยาแบคโคลเฟนในขนาดสูง มีโอกาสมากกว่าที่จะต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล เนื่องจากมีอาการเวียนศีรษะและสับสนอย่างรุนแรง นับเป็นจำนวนสูงมากหากเทียบกับกลุ่มของผู้ป่วยโรคไตที่ไม่ได้ใช้ยาแบคโคลเฟนและต้องรับการรักษาเนื่องจากอาการสับสนและเวียนศีรษะซึ่งมีเพียง 1 ใน 500 คนเท่านั้น
ยาแบคโคลเฟนนั้นแม้ว่าโดยปกติแล้วจะไม่เป็นอันตรายใดๆ แต่ก็สามารถทำให้ผู้ป่วยมีอาการสับสนได้อย่างรุนแรง แม้แต่ผู้ป่วยที่มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ดี ก็สามารถมีอาการสับสนได้ หลังจากที่เริ่มต้นใช้ยาแบคโคลเฟนนี้
ไต มีส่วนสำคัญในการกำจัดยาที่ค้างอยู่ในร่างกายออกไป ผู้ป่วยโรคไตจึงมักจะต้องเจอกับปัญหาการตกค้างของยา โดยเฉพาะยาคลายกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดผลข้างเคียงของยาอย่างรุนแรงมากกว่าปกติ แม้แต่ยาคลายกล้ามเนื้อที่ถูกกำจัดด้วยตับอย่าง cyclobenzaprine ก็ยังส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงได้เช่นกัน
ถ้าอย่างนั้น คนเป็นโรคไต ควรจัดการกับอาการปวดได้อย่างไร
การจัดการกับอาการปวดของผู้ป่วยโรคไตที่รับการฟอกไตนั้น โดยปกติแล้วจะเลือกใช้เป็นยาแก้ปวดประเภทที่ไม่ใช่โอปิออยด์ (opioid) ได้แก่ ยาพาราเซตามอลหรือยาอะเซตามิโนเฟน และยาในกลุ่ม NSAIDs อื่นๆ เช่น ยาไอบูโพรเฟน (ibuprofen) เป็นยาทางเลือกในการรักษาอาการปวดโดยที่ไม่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงสำหรับผู้ป่วยโรคไต
นอกจากนี้ยังมียาแก้ปวดโอปิออยด์บางชนิดที่ผู้ป่วยโรคไตอาจจะสามารถใช้ได้ เช่น ยาเฟนทานิล (Fentanyl) ยาไฮโดรโคโดน (hydrocodone) และยาไฮโดรมอร์โฟน (hydromorphone) เป็นยาแก้ปวดโอปิออยด์ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับผู้ป่วยที่มีไตบกพร่องและผู้ป่วยที่ทำการฟอกไต
อาการปวดนั้นเป็นอาการที่มักจะเกิดขึ้นกับผู้ป่วยที่ต้องรับการฟอกไต การรักษาอาการปวดเหล่านี้จะต้องเป็นไปอย่างระมัดระวังและแตกต่างกันตามความต้องการของแต่ละราย เพราะไม่ใช่ว่าทุกคนจะจำเป็นต้องใช้ยาคลายกล้ามเนื้อหรือยาอื่นๆเสมอไป
ในปัจจุบันนั้นยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ยาคลายกล้ามเนื้อชนิดอื่นมากเพียงพอ ที่จะสามารถเปรียบเทียบถึงความแตกต่างของการใช้ยาคลายกล้ามเนื้อแต่ละประเภทในผู้ป่วยโรคไตได้ ดังนั้นผู้ป่วยทุกรายจะต้องได้รับคำปรึกษาแพทย์และการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพื่อหาวิธีที่เหมาะสมและป้องกันผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้น
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย