จากข้อมูลในปี 2011 พบว่า ผู้ป่วยโรคไตที่ใช้ยาคลายกล้ามเนื้อ แสดงให้เห็นถึงอาการความผิดปกติทางสติสัมปชัญญะ หกล้ม กระดูกหัก และเสียชีวิตเพิ่มขึ้นกว่าผู้ป่วยโรคไตที่ไม่ได้ใช้ยาคลายกล้ามเนื้อ
นอกจากนี้ ยังมีรายงานพบว่า 1 ใน 25 คนของผู้ป่วยโรคไตถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเนื่องจาก มีอาการสับสนอย่างรุนแรง และมีอาการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกัน หลังจากใช้ยาคลายกล้ามเนื้อที่เรียกว่า ยาแบคโคลเฟน (baclofen) เพียงไม่กี่วัน
จากรายงานของ ICES Western, Western University และ and Lawson Health Research Institute ได้ทำการเก็บข้อมูล โดยการศึกษาผู้ป่วยโรคไตกว่า 16,000 คนที่เริ่มต้นใช้ยาแบคโคลเฟนตั้งแต่ปี 2007 ไปจนถึง 2018 โดยแบ่งกลุ่มศึกษาออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ใช้ยาแบคโคลเฟนในขนาดสูง และผู้ที่ใช้ยาแบคโคลเฟนในขนาดต่ำ แล้วนำผลมาเปรียบเทียบกับผู้ป่วยโรคไตกว่า 300,000 คนที่ไม่ได้ใช้ยาคลายกล้ามเนื้อใดๆ
ผลการศึกษาพบว่า ผู้ป่วยโรคไตที่ได้รับจ่ายยาแบคโคลเฟนในขนาดสูง มีโอกาสมากกว่าที่จะต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล เนื่องจากมีอาการเวียนศีรษะและสับสนอย่างรุนแรง นับเป็นจำนวนสูงมากหากเทียบกับกลุ่มของผู้ป่วยโรคไตที่ไม่ได้ใช้ยาแบคโคลเฟนและต้องรับการรักษาเนื่องจากอาการสับสนและเวียนศีรษะซึ่งมีเพียง 1 ใน 500 คนเท่านั้น
ยาแบคโคลเฟนนั้นแม้ว่าโดยปกติแล้วจะไม่เป็นอันตรายใดๆ แต่ก็สามารถทำให้ผู้ป่วยมีอาการสับสนได้อย่างรุนแรง แม้แต่ผู้ป่วยที่มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ดี ก็สามารถมีอาการสับสนได้ หลังจากที่เริ่มต้นใช้ยาแบคโคลเฟนนี้
ไต มีส่วนสำคัญในการกำจัดยาที่ค้างอยู่ในร่างกายออกไป ผู้ป่วยโรคไตจึงมักจะต้องเจอกับปัญหาการตกค้างของยา โดยเฉพาะยาคลายกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดผลข้างเคียงของยาอย่างรุนแรงมากกว่าปกติ แม้แต่ยาคลายกล้ามเนื้อที่ถูกกำจัดด้วยตับอย่าง cyclobenzaprine ก็ยังส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงได้เช่นกัน
ถ้าอย่างนั้น คนเป็นโรคไต ควรจัดการกับอาการปวดได้อย่างไร
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย