2. เสียงหัวใจของทารก
ในช่วงไตรมาสแรก จะยังไม่สามารถแยกจำนวนทารกในครรภ์ได้ชัดเจนจากการฟังเสียงหัวใจทารกผ่านทางเครื่องดอปเพลอร์อัลตราซาวน์ เนื่อวจากในไตรมาสนี้ มดลูกยังมีขนาดเล็กมากอยู่ภายในอุ้งเชิงกราน แต่หากอายุครรภ์เพิ่มมากขึ้นเข้าสู่ไตรมาสที่ 2 อาจสามารถฟังเสียงหัวใจทารกได้ชัดเจนขึ้น และอาจได้ยินเสียงหัวใจของทารกมากกว่า1 ตำแหน่งได้ แต่ผลที่ได้อาจไม่แม่นยำนัก เนื่องจากการตรวจพบเสียงหัวใจเต้นในบริเวณที่แตกต่างกัน ก็อาจมาจากหัวใจดวงเดียวได้ หรือเสียงหัวใจที่ได้ยินอาจเป็นเสียงหัวใจของคุณแม่เองก็ได้ การจะแยกแยะว่าเสียงหัวใจเต้นที่ได้ยินเป็นเสียงของทารกว่าเป็นเสียงหัวใจของทารกมากกว่า 1 คนหรือไม่จึงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก
3. แพ้ท้องมากกว่าปกติ
ตามสถิติแล้ว คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ลูกแฝดจะมีอาการแพ้ท้องมากขึ้นได้ มีรายงานว่า คุณแม่ตั้งครรภ์ประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ ที่ตั้งครรภ์ลูกแฝดจะมีอาการแพ้ท้องมากกว่าคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ลูกคนเดียว เนื่องจากระดับฮอร์โมนการตั้งครรภ์ที่เป็นสาเหตุในการแพ้ท้องนั้น อาจจะมีระดับสูงกว่าในครรภ์แฝดดังกล่าว สัญญาณอีกอย่างของการแพ้ท้องในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ลูกแฝดก็คือ อาการคลื่นไส้อาเจียนจะเริ่มต้นขึ้นเร็วมาก และอาจเกิดขึ้นก่อนตรวจพบว่าตั้งครรภ์ด้วยซ้ำ แต่อย่างไรก็ตาม คุณแม่ท้องแฝดบางรายก็ไม่ได้มีอาการแพ้ท้องเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด ขึ้นกับปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย
4. น้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้นจนผิดสังเกต
คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ลูกแฝดอาจมีน้ำหนักขึ้นมากกว่าแม่ที่ตั้งครรภ์ลูกคนเดียวราว 4-5 กิโลกรัม แต่โดยปกติแล้ว ตัวเลขน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น จะขึ้นอยู่กับความสูง รูปร่าง และน้ำหนักก่อนตั้งครรภ์ มักไม่เกี่ยวข้องกับจำนวนทารกในครรภ์ นอกจากนี้ อาหารอาจเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์น้ำหนักขึ้น คุณแม่อาจได้รับปริมาณแคลอรีมากกว่าที่ร่างกายต้องการ และถ้ากังวลเรื่องน้ำหนักขณะตั้งครรภ์ ควรปรึกษาคุณหมอเกี่ยวกับโภชนาการก่อนคลอด
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย