แกมมา-บิวทีโรแลคโทน (Gamma Butyrolactone) เป็นสารเคมีที่นำมาใช้เพื่อเพิ่มสมรรถภาพทางกีฬา ส่งเสริมการนอนหลับ เสริมสมรรถภาพทางเพศ ลดอาการซึมเศร้า และความเครียด
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ
แกมมา-บิวทีโรแลคโทน (Gamma Butyrolactone) เป็นสารเคมีที่นำมาใช้เพื่อเพิ่มสมรรถภาพทางกีฬา ส่งเสริมการนอนหลับ เสริมสมรรถภาพทางเพศ ลดอาการซึมเศร้า และความเครียด
แกมมา-บิวทีโรแลคโทน (Gamma Butyrolactone) เป็นสารเคมีชนิดหนึ่ง มักถูกนำมาใช้เป็นยา หากไม่นับเรื่องความปลอดภัยและการนำมาใช้อย่างผิดกฎหมายแล้ว แกมมา-บิวทีโรแลคโทนนำมาใช้เพื่อรักษา
แกมมา-บิวทีโรแลคโทนนั้นยังถูกใช้เพื่อลดไขมัน เพิ่มมวลร่างกายหรือกล้ามเนื้อ บางรายใช้เป็นสารเสพติดเพื่อผ่อนคลาย
งานวิจัยเกี่ยวกับกลไกการออกฤทธิ์ของแกมมา-บิวทีโรแลคโทนยังมีไม่มากพอ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม เป็นที่ทราบกันว่าแกมมา-บิวทีโรแลคโทนจะเป็น แกมมา-ไฮดรอกซี่บิวทีเรต (Gamma Hydroxybutyrate) เมื่อเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งจะมีผลต่อทางเดินประสาทหลายชนิดในสมอง
ปรึกษาแพทย์ เภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในกรณีที่
ข้อกำหนดสำหรับผลิตภัณฑ์จากแกมมา-บิวทีโรแลคโทนนั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อกำหนดยาอื่นๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัย การใช้ผลิตภัณฑ์นี้ต้องมีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง ควรปรึกษาแพทย์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
แกมมา-บิวทีโรแลคโทนไม่ปลอดภัยในการนำมาใช้
แกมมา-บิวทีโรแลคโทนไม่ปลอดภัยในการนำมาใช้ และไม่ควรนำมาใช้กับใครก็ตาม ในบางราย โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการต่อไปนี้ จะยิ่งมีความเสี่ยงต่อผลข้างเคียง
สำหรับผู้ตั้งครรภ์และผู้ที่อยู่ในระหว่างการให้นมบุตร : แกมมา-บิวทีโรแลคโทนนั้นไม่ปลอดภัย หากท่านใช้ยาในขณะตั้งครรภ์หรืออยู่ในระหว่างให้นมบุตร ท่านจะทำให้ตนเองและบุตรตกอยู่ในอันตราย
ผู้มีอาการหัวใจเต้นไม่ปกติ: แกมมา-บิวทีโรแลคโทนจะทำให้อาการแย่ลง
ผู้มีโรคลมบ้าหมู: แกมมา-บิวทีโรแลคโทนอาจทำให้ชัก
ผู้มีความดันโลหิตสูง: แกมมา-บิวทีโรแลคโทนจะทำให้อาการแย่ลง
ผู้รับการผ่าตัด : แกมมา-บิวทีโรแลคโทนอาจมีผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลาง การใช้แกมมา-บิวทีโรแลคโทนร่วมกับยาชา ยาสลบ และยาอื่นๆในระหว่าง หรือภายหลังการผ่าตัดอาจทำให้ระบบประสาทส่วนกลางช้าลงเกินไป แกมมา-บิวทีโรแลคโทน จึงไม่ควรถูกนำมาใช้ 2 สัปดาห์ก่อนกำหนดการผ่าตัด
การใช้แกมมา-บิวทีโรแลคโทนหรือตัวยาใกล้เคียงอย่างแกมมา ไฮดรอกซี่บิวทีเรต และบูทาเนดิออล (Butanediol) อาจทำให้เสียชีวิตหรือเกิดผลข้างเคียงร้ายแรงได้ ผลข้างเคียงดังกล่าวรวมถึง การเสียการควบคุมการถ่ายอุจจาระ อาเจียน จิตแปรปรวน การกดประสาท
ภาวะกายใจไม่สงบ การอยากต่อสู้ เสียความทรงจำ ปัญหาการหายใจ และระบบหัวใจรุนแรง หน้ามืด ชัก ไร้การตอบสนอง และเสียชีวิต
ผลของยาอาจแย่ลงไปอีกหากมีแอลกอฮอล์หรือสารเสพติด เช่น มอร์ฟีน เฮโรอีน และอื่นๆ การใช้เป็นเวลานานอาจเกิดอาการขาดยา ได้แก่ การนอนไม่หลับ ใจสั่น และอาการวิตกกังวล แต่ใช่ว่าทุกคนจะได้รับผลข้างเคียงเหล่านี้ และอาจมีผลข้างเคียงบางอย่างที่ไม่ได้ระบุไว้ข้างต้น หากคุณมีข้อกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงใด ๆ กรุณาปรึกษาแพทย์
แกมมา-บิวทีโรแลคโทนอาจมีปฏิกิริยากับยาที่คุณใช้อยู่หรือพยาธิสภาพปัจจุบัน ปรึกษาแพทย์ ก่อนการนำไปใช้เสมอ
ผลิตภัณฑ์ที่อาจมีปฏิกิริยาต่อแกมมา-บิวทีโรแลคโทน ได้แก่
แอลกอฮอล์สามารถทำให้ง่วงนอน และมีอาการครึ่งหลับครึ่งตื่น การใช้แกมมา-บิวทีโรแลคโทนร่วมกับแอลกอฮอล์อาจเพิ่มอาการง่วงนอน และอาการครึ่งหลับครึ่งตื่นอย่างมาก การใช้แกมมา-บิวทีโรแลคโทนร่วมกับแอลกอฮอล์สามารถนำไปสู่ผลข้างเคียงที่ร้ายแรงได้ อย่าใช้แกมมา-บิวทีโรแลคโทนหากคุณดื่มแอลกอฮอล์
แอมเฟตามีนเร่งการทำงานของระบบประสาท แกมมา-บิวทีโรแลคโทนจะเปลี่ยนเป็นแกมมา ไฮดรอกซี่บิวทีเรตภายในร่างกาย แกมมา-บิวทีโรแลคโทนทำให้ระบบประสาททำงานช้าลง การใช้แอมเฟตามีนร่วมกับแกมมา-บิวทีโรแลคโทนนำไปสู่ผลข้างเคียงที่ร้ายแรงได้
แกมมา-บิวทีโรแลคโทนมีผลกระทบต่อสมอง ฮาโลพีริดอลก็มีผลต่อสมองเช่นกัน การใช้ยาฮาโลพีริดอลร่วมกับแกมมา-บิวทีโรแลคโทนนำไปสู่ผลข้างเคียงที่ร้ายแรงได้
แกมมา-บิวทีโรแลคโทนมีผลกระทบต่อสมอง ตัวยาที่ใช้รักษาโรคทางจิตเวชก็มีผลกระทบต่อสมองเช่นกัน การใช้ยารักษาทางจิตเวชร่วมกับแกมมา-บิวทีโรแลคโทนอาจเพิ่มฤทธิ์และผลข้างเคียงที่ร้ายแรงของแกมมา-บิวทีโรแลคโทนได้ งดใช้แกมมา-บิวทีโรแลคโทนหากกำลังใช้ยารักษาทางจิตเวช
ตัวยาบางชนิดที่กล่าวถึง ได้แก่ ฟลูเพนาซีน (Fluphenazine) (เช่น เพอร์มิทิล (Permitil), โพรลิซิน (Prolixin)), ฮาโลพีริดอล (Haloperidol) (เช่น ฮาลดอล (Haldol)), คลอร์โรพมาซีน (Chlorpromazine) (เช่น ธอราซีน (Thorazine)), โพรคลอร์เพราซีน (Prochlorperazine) (เช่น คอมพาซีน (Compazine)), ธีโอริดาซีน (Thioridazine) (เช่น เมลลาริล (Mellaril)), ไทรฟลูโอเพราซีน (Trifluoperazine) (เช่น สเตลาซีน (Stelazine)) และอื่นๆ
ยาระงับอาการปวดบางชนิดทำให้มีอาการง่วงนอน และครึ่งหลับครึ่งตื่น แกมมา-บิวทีโรแลคโทน ทำให้ง่วงนอนและมีอาการครึ่งหลับครึ่งตื่นได้เช่นกัน การใช้แกมมา-บิวทีโรแลคโทนร่วมกับยาระงับอาการปวด อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ร้ายแรงได้ งดใช้แกมมา-บิวทีโรแลคโทนหากกำลังใช้ยาระงับอาการปวด
ยาระงับอาการปวดบางชนิดที่กล่าวถึง ได้แก่ เมเพอริไดน์ (Meperidine) (เช่น เดเมรอล (Demerol)), ไฮโดรโคโดน (Hydrocodone), มอร์ฟีน (Morphine), OxyContin และอีกมากมาย
ตัวยาที่ใช้ป้องกันการชักมีผลต่อสารเคมีในสมอง แกมมา-บิวทีโรแลคโทนจะเปลี่ยนเป็นสารเคมีในสมองที่เรียกว่า กาบา (GABA) การใช้แกมมา-บิวทีโรแลคโทน ร่วมกับยารักษาโรคลมชักอาจลดประสิทธิภาพของแกมมา-บิวทีโรแลคโทน
ยารักษาโรคลมชักบางชนิดที่กล่าวถึง ได้แก่ ฟีโนบาร์บอทอล (Phenobarbital) พริมิโดน (Primidone) (เช่น มิสโซลีน (Mysoline)), กรดวอลโพรอิค (Valproic Acid) (เช่น เดพาเคน (Depakene)), กาบาเพนติน (Gabapentin) (เช่น นิวรอนติน (Neurontin)), คาร์บามาเซพีน (Carbamazepine) (เช่น เทเกรทอล (Tegretol)), เฟนิโทอิน (Phenytoin) (เช่น ดิแลนทิน (Dilantin)) และอื่นๆ
ยาคลายกล้ามเนื้อ:
ยาคลายกล้ามเนื้ออาจทำให้มีอาการครึ่งหลับครึ่งตื่น แกมมา-บิวทีโรแลคโทนก็สามารถทำให้มีอาการครึ่งหลับครึ่งตื่นได้เช่นกัน การใช้แกมมา-บิวทีโรแลคโทน ร่วมกับยาคลายกล้ามเนื้ออาจทำให้มีอาการครึ่งหลับครึ่งตื่นและผลข้างเคียงที่ร้ายแรงขึ้น งดใช้แกมมา-บิวทีโรแลคโทนหากท่านกำลังใช้ยาคลายกล้ามเนื้อ
ยาคลายกล้ามเนื้อบางชนิดที่กล่าวถึง ได้แก่ คาริโซโพรดอล (Carisoprodol) (เช่น โซมา (Soma)), พิเพคิวโรเนียม (Pipecuronium) (เช่น อาร์ดวน (Arduan)), ออร์ฟีนาดริน (Orphenadrine) (เช่น แบนฟริก (Banflex), ดิซิพอล (Disipal)), ไคโคลเบนซาพรีน (Cyclobenzaprine), กาลลามีน (Gallamine) (เช่น เลกเซดิล (Flaxedil)), อะทราคิวเรียม (Atracurium) (เช่น ทราเครียม (Tracrium)), แพนคิวโรเนียม (Pancuronium) (เช่น พาวูลอน (Pavulon)), ซัคซินีลคอลีน (Succinylcholine) (เช่น อะเน็คทีน (Anectine)) และอื่น ๆ
ตัวยานาโลโซน (Naloxone):
เมื่อเข้าสู่ร่างกาย แกมมา-บิวทีโรแลคโทนจะเปลี่ยนเป็นสารเคมีอื่น สารเคมีที่ว่าเรียกว่าแกมมา ไฮดรอกซี่บิวทีเรตซึ่งมีผลต่อสมอง การใช้นาโลโซน (เช่น นาร์คาน (Narcan)) ร่วมกับแกมมา-บิวทีโรแลคโทนอาจลดประสิทธิภาพของแกมมา-บิวทีโรแลคโทนที่มีต่อสมอง
ตัวยาซาควินาเวียร์ (Saquinavir) (เช่น ฟอร์โตวาส (Fortovase) และอินวิราส (Invirase)):
ตัวยาควินาเวียร์ (เช่น ฟอร์โตวาสและอินวิราส) และตัวยาริโทนาเวียร์ (Ritonavir) (เช่น นอร์เวียร์ (Norvir)) นั้นถูกเอามาใช้ร่วมกันในการรักษาโรคเอดส์ การใช้ยาเหล่านี้ร่วมกับแกมมา-บิวทีโรแลคโทนอาจทำให้ร่างกายกำจัดแกมมา-บิวทีโรแลคโทนช้าลง ซึ่งอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ร้ายแรงได้
แกมมา-บิวทีโรแลคโทนทำให้ง่วงนอนและมีอาการครึ่งหลับครึ่งตื่น ตัวยาที่ทำให้ง่วงนอน และมีอาการครึ่งหลับครึ่งตื่นเรียกว่ายากล่อมประสาท การใช้ยาแกมมา-บิวทีโรแลคโทนร่วมกับยากล่อมประสาทอาจนำไปสู่ผลข้างเคียงที่ร้ายแรงได้ งดใช้แกมมา-บิวทีโรแลคโทน หากกำลังใช้ยากล่อมประสาท
ตัวยากล่อมประสาทระงับบางตัวที่กล่าวถึง ได้แก่ โคลนาซีแพม (Clonazepam) (เช่น โคลโนพิน (Klonopin)), ไดอะเซแพม (Diazepam) (เช่น เวเลี่ยม (Valium)) ไอโอราเซแพม (Iorazepam) (เช่น อะติแวน (Ativan)) ไอโอราเซแพม (Iorazepam) ฟีโนบาร์บิทอล (Phenobarbital) (เช่น ดอนนาทอล (Donnatal)) โซลพิเดม (Zolpidem) และอื่นๆ
แกมมา-บิวทีโรแลคโทนสามารถทำให้ง่วงนอน และมีอาการครึ่งหลับครึ่งตื่นได้ ตัวยาที่ทำให้ง่วงนอน และมีอาการครึ่งหลับครึ่งตื่นเรียกว่ายากล่อมประสาท การใช้แกมมา-บิวทีโรแลคโทน ร่วมกับยากล่อมประสาท อาจนำไปสู่ผลข้างเคียงที่ร้ายแรงได้ งดใช้แกมมา-บิวทีโรแลคโทนหากท่านกำลังใช้ยากล่อมประสาท
ข้อมูลนี้ม่สามารถใช้อ้างอิงเป็นคำแนะนำทางการแพทย์ได้โดยตรง โปรดปรึกษาเภสัชกร หรือแพทย์ก่อนใช้เสมอ
ขนาดในการใช้แกมมา-บิวทีโรแลคโทนนั้นอาจแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับอายุ สุขภาพ และพยาธิสภาพอื่น ๆ การใช้แกมมา-บิวทีโรแลคโทนไม่ได้ปลอดภัยเสมอไป ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทราบขนาดใช้ยาที่เหมาะสม
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย
ทีม Hello คุณหมอ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย