ผื่นแพ้เหงื่อหรือผดร้อน เป็นผื่นผิวหนังที่อาจเกิดได้ 2 ลักษณะ คือ ผดผื่นคันที่ขึ้นเมื่ออยู่ในที่อากาศร้อน อบอ้าว สามารถหายได้เองเมื่อไปอยู่ในที่อากาศเย็นและระบายได้ดี หรือหายจากการทายา และอีกแบบคือ คนที่ออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกแล้วมีผื่นลมพิษเกิดขึ้น มักเริ่มจากจุดนูนแดงแล้วขยายเป็นปื้นนูนแดง โดยทั่วไปอาการมักไม่รุนแรงและหายไปได้เองภายใน 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง หรือดีขึ้นหลังจากร่างกายเย็นลง มีเหงื่อลดลง แต่ในบางรายอาจมีอาการแพ้รุนแรงร่วมกับมีอาการตาบวม หายใจลำบาก ปวดท้อง ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต จึงควรรีบไปพบคุณหมอทันที
วิธีรักษา หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่อบอ้าว อากาศร้อนและไม่ถ่ายเท พยายามซับเหงื่อให้ผิวหน้าแห้งสะอาดอยู่เสมอ และรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีที่สะดวก
โรคผื่นแดด (Sun rash)
เป็นโรคที่เกิดจากการสัมผัสกับรังสีอัลตราไวโอเลตหรือแสงยูวี (Ultraviolet light) เกิดขึ้นกับผู้ที่ผิวไวต่อแสงแดดอย่างผู้ที่ใช้ยาปฏิชีวนะบางชนิด ผู้ที่ทาครีมที่มีส่วนผสมของสารเคมี น้ำหอม สีย้อม หรือสารฆ่าเชื้อบางชนิดที่ไวต่อแสงแดด สามารถกระตุ้นให้เกิดผื่นจากปฏิกิริยาของสารเคมีและแสงแดดิ ซึ่งส่งผลให้ผื่นแพ้แสงแดด ผิวระคายเคืองได้ง่าย คันใบหน้ารวมถึงผิวหนังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย แสงแดดยังอาจกระตุ้นให้เกิดอาการลูปัสที่ผิวหนัง (Cutaneous lupus) ในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอได้ด้วย
วิธีรักษา สวมเสื้อผ้าแขนขายาวและสวมหมวกบังแดดเมื่อต้องออกไปข้างนอก เพื่อไม่ให้ผิวหนังโดนแสงแดดโดยตรง และควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 ขึ้นไปและมีค่า PA เพื่อป้องกันทั้งรังสียูวีเอและยูวีบี โดยควรทาครีมกันแดดทิ้งไว้ 15-30 นาทีก่อนออกแดด เพื่อให้เนื้อครีมซึมซับเข้าสู่ผิวอย่างเต็มที่ และอาจใช้ยาแก้คัน เช่น ไฮโดรคอร์ติโซนชนิดทาผิวหนัง (Topical Hydrocortisone) เพื่อลดอาการคันและระคายเคืองผิว นอกจากนี้ การประคบเย็นหรือการอาบน้ำเย็นก็อาจช่วยบรรเทาอาการผื่นขึ้นหน้า คัน ระคายเคือง ของโรคผื่นแดดได้เช่นกัน
เป็นอาการผื่นนูนแดง บวม อาจขึ้นเป็นปื้นและกระจายไปตามผิวหนัง มีขนาดไม่แน่นอน อาจเกิดจากความร้อนหรือเหงื่อ การสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ การรับประทานอาหารบางชนิด เช่น อาหารทะเล ช็อกโกแลต การใช้ยาบางชนิด เช่น แอสไพริน ยาลดความดันโลหิต โดยทั่วไปลมพิษอาจหายได้เองโดยไม่ต้องรักษาแต่มักจะกลับมาเป็นซ้ำอีก กรณีที่อาการแพ้รุนแรง อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ หากมีอาการหายใจไม่สะดวก แน่นหน้าอก หน้าบวม ปากบวม ตาบวม ควรรีบไปพบคุณหมอทันที
วิธีรักษา หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ที่ทำให้เกิดผื่น และใช้ยาแก้แพ้หรือยาต้านฮีสตามีน (Antihistamines) ตามที่คุณหมอสั่ง
เป็นโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรังที่ไม่ใช่โรคติดต่อ เกิดจากร่างกายผลิตเซลล์ผิวหนังมากปกติ มักพบบริเวณหนังศีรษะ ข้อศอก หัวเข่า หลังส่วนล่าง อวัยวะเพศ รวมไปถึงบริเวณใบหน้า ทำให้เกิดผื่นแดงนูนหนา ผิวมีสะเก็ดหรือลอกเป็นขุยสีขาว และอาจทำให้รู้สึกคันหรือเจ็บ มักจะเป็น ๆ หาย ๆ
วิธีรักษา ใช้ครีมหรือขี้ผึ้งสเตียรอยด์ เช่น ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ชนิดเฉพาะที่ (Topical corticosteroids) อาจช่วยลดการอักเสบของผิวหนังได้
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย