ช่วยลดน้ำหนัก
แม้ว่าวอลนัทจะให้แคลอรี่ในระดับที่ค่อนข้างสูง ซึ่งแน่นอนว่าเสี่ยงจะทำให้ร่างกายมีปริมาณแคลอรี่ที่พุ่งสูงเกินได้ แต่…ถึงแม้จะมีแคลอรี่สูง ก็ยังมีข้อดีอยู่ตรงที่ กินแล้วทำให้อิ่มไว และอิ่มนานขึ้น ช่วยลดความอยากอาหารในมื้อต่อไปลงได้ เหมาะเป็นของว่างสำหรับคนที่กำลังอยู่ในช่วงควบคุมน้ำหนักหรือควบคุมอาหาร
ลดความเสี่ยงของการเป็นนิ่วในถุงน้ำดี
จากผลการศึกษาที่ได้รับการเผยแพร่ในวารสารสุขภาพอย่าง American Journal of Clinical Nutrition กล่าวว่า การรับประทานธัญพืชจำพวกถั่วโดยเฉพาะวอลนัทเป็นประจำ มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของโรคนิ่วในถุงน้ำดีได้มากกว่าผู้ที่ไม่ค่อยกินวอลนัท
ลดคอเลสเตอรอล
ผลการศึกษาจากหลายสถาบันเผยว่า การกินวอลนัทเป็นประจำ จะช่วยให้ผนังหลอดเลือดแข็งแรง ช่วยลดอัตราการก่อคราบพลัคในหลอดเลือด และช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล (Cholesterol) โดยเฉพาะ LDL หรือไขมันเลวอีกด้วย ซึ่งหากร่างกายมีระดับของคอเลสเตอรอลในปริมาณที่สูง จะเสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคเรื้อรังอย่าง โรคหัวใจ
เป็นแหล่งของโอเมก้า 3
ปกติแล้วเรามักจะคุ้นเคยกันว่ากินปลาเยอะ ๆ จะได้กรดไขมันโอเมก้า 3 ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่…ไม่ใช่แค่ปลาเท่านั้นที่ให้โอเมก้า 3 เพราะธัญพืชจำพวกถั่วอย่างวอลนัทก็มีโอเมก้า 3 ด้วยเช่นกัน และให้โอเมก้า 3 ในปริมาณที่มากกว่าธัญพืชในตระกูลถั่วชนิดอื่น ๆ ด้วย
อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย