backup og meta

ผงโกโก้ เคล็ดลับเสริมสุขภาพที่ไม่ควรพลาด

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


เขียนโดย Khongrit Somchai · แก้ไขล่าสุด 06/12/2021

    ผงโกโก้ เคล็ดลับเสริมสุขภาพที่ไม่ควรพลาด

    ผงโกโก้ ผลิตจากช็อกโกแลตขมและผงวัสดุที่เหลือ โดยช็อกโกแลตนั้นก็ผลิตมาจากโกโก้ซึ่งเป็นพืชที่มาจากต้นกาเกา หลายคนเชื่อว่า ผงโกโก้นั้นใช้เป็นยารักษาโรคได้ ไม่ว่าจะเป็นอาจช่วยต้านมะเร็ง ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ ลดความดันโลหิต ป้องกันภาวะสมองเสื่อม แต่หากรับประทานผงโกโก้มากเกินไปก็อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้เช่นกัน ดังนั้น จึงควรรับประทานในปริมาณที่พอดี

    สารอาหารในผงโกโก้

    ผงโกโก้ ทำมาจากเมล็ดของต้นกาเกา (Cacao) ซึ่งเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดจากแถบอเมริกาใต้ เป็นวัตถุดิบสำคัญสำหรับทำช็อกโกแลต เมนูของหวานอันเลื่องชื่อที่ได้รับความนิยมไปทั่วทั้งโลก โกโก้ที่เป็นเมล็ด จำเป็นต้องนำไปผ่านกระบวนการแปรรูปออกมาเพื่อให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลายรูปแบบ หนึ่งในนั้นคือ โกโก้ผง โดยผงโกโก้ 1 ช้อนโต๊ะ จะให้

    • โปรตีน 1 กรัม
    • ไขมันทั้งหมด 13.7 กรัม
    • คาร์โบไฮเดรต 3 กรัม
    • ไฟเบอร์ 3 กรัม
    • ปริมาณแป้งสุทธิ 1 กรัม

    และอุดมไปด้วยสารอาหารที่ประโยชน์ต่อร่างกาย ได้แก่

    • แมกนีเซียม
    • โพแทสเซียม
    • แมงกานีส
    • ทองแดง

    ประโยชน์ของ ผงโกโก้

    นอกเหนือจากรสชาติที่อร่อยของผงโกโก้ที่สามารถทำเมนูได้หลากหลาย ผงโกโก้ยังอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านต่าง ๆ ดังนี้

    ช่วยต้านมะเร็ง

    ผงโกโก้ ช่วยในการต้านมะเร็งเพราะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณที่สูงกว่าอาหารทั่ว ๆ ไป ไม่ว่าจะเป็นชาเขียว ชาดำ หรือไวน์แดง สารต้านอนุมูลอิสระสำคัญในโกโก้ก็คือ สารโพลีฟีนอลส์ (Polyphenols) สารฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) สารไนอาซีน (Niacin) ซึ่งสารอาหารสำคัญเหล่านี้ ผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นว่าช่วยในการ

    • ปกป้องเซลล์จากการถูกทำร้ายโดยแบคทีเรีย
    • ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
    • ป้องกันไม่ให้เซลล์มะเร็งที่มีอยู่แล้วมีการแพร่กระจาย
    • ช่วยกระตุ้นให้เซลล์มะเร็งตาย

    ลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจ

    สารฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) ในผงโกโก้ เป็นตัวช่วยสำคัญที่อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ เพราะมีสรรพคุณในการป้องกันการอุดตันในเลือด และลดการปิดกั้นการไหลเวียนของหลอดเลือดซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจ นอกจากนี้ ในโกโก้ยังมีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ไขมันอิ่มตัว และกรดโอเลอิก (Oleic Acid) ที่ช่วยให้สุขภาพหัวใจแข็งแรง

    ลดความดันโลหิต

    สารฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) เป็นสารอาหารที่พบได้ในโกโก้และผงโกโก้ มีผลการศึกษาพบว่า ผู้ที่รับประทานผงโกโก้เป็นประจำอาจมีการขยายตัวของหลอดเลือด ซึ่งช่วยให้ระบบเลือดสามารถไหลเวียนได้ดี และยังช่วยลดความเครียดที่เป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการมีความดันโลหิตสูงอีกด้วย

    ลดภาวะดื้อต่ออินซูลิน

    สารโพลีฟีนอลส์ (Polyphenols) ในโกโก้และผงโกโก้ อาจช่วยชะลอกระบวนการย่อยอาหาร ช่วยให้สามารถดูดซึมคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลได้ดี นอกจากนั้น สารโพลิฟินอลส์ (Polyphenols) ยังอาจมีส่วช่วยในการสลายน้ำตาลกลูโคส เพื่อการรักษาระดับน้ำตาลในเลือดมีความสมดุล และเพิ่มความต้านทานต่ออินซูลินได้

    ป้องกันภาวะสมองเสื่อม

    สารโพลีฟีนอลส์ (Polyphenols)  และ สารฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) ในผงโกโก้ ได้รับการค้นพบว่า มีส่วนช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง ช่วยให้เลือดไหวเวียนไปเลี้ยงสมองได้ดี และยังช่วยป้องกันโรคความเสื่อมของระบบประสาท (Neurodegenerative) เช่น ภาวะสมองเสื่อม (Dementia) โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s Disease) 

    ช่วยให้อารมณ์ดี ลดซึมเศร้า

    เมื่อใดก็ตามที่รู้สึกอ่อนล้า หดหู่ เศร้าโศก การรับประทานผงโกโก้อาจช่วยลดอาการที่เกิดขึ้นได้ เนื่องจาก สารอาหารในโกโก้ ผงโกโก้ รวมถึงช็อกโกแลตที่ทำมาจากโกโก้มีส่วนช่วยลดอาการเซื่องซึม เพิ่มความกระปรี้กระเปร่า 

    ช่วยในการลดน้ำหนัก

    ผงโกโก้อาจเป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนัก เพราะโกโก้อาจให้คาร์โบไฮเดรตต่ำ รับประทานแล้วทำให้รู้สึกอิ่มได้นานขึ้น ป้องกันการสะสมไขมัน และยังเพิ่มการเผาผลาญไขมันได้ดีอีกด้วย โดยมีผลการวิจัยว่า ผู้ที่รับประทานโกโก้ หรือรับประทานอาหารที่มีโกโก้เป็นส่วนประกอบ เช่น ดาร์กช็อกโกแลต สามารถลดน้ำหนักได้เร็วกว่าผู้ที่ไม่รับประทานช็อกโกแลตเลย

    ช่วยสร้างสมดุลของเกลือแร่ในเลือด

    ปัญหาเกลือแร่ในเลือดไม่สมดุลนั้น อาจมีสาเหตุมาจากร่างกายมีสารอาหารประเภท โพแทสเซียม แมกนีเซียม และโซเดียมไม่เพียงพอ ซึ่งการรับประทานผงโกโก้จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารดังกล่าวได้อย่างครบถ้วน

    โกโก้ดีต่อสุขภาพฟัน

    การรับประทานผงโกโก้เป็นประจำ มีส่วนช่วยให้สุขภาพช่องปากแข็งแรงได้ เพราะในผงโกโก้นั้นมีสารที่ชื่อว่า ทีโอโบรมีน (Theobromine) ช่วยในการต่อสู้กับเชื้อแบคทีเรีย และทำให้ฟันแข็งแรง แต่ข้อสำคัญ คือ ไม่ควรเติมน้ำตาลลงไปในผงโกโก้

    ผลข้างเคียงที่ควรระวัง

    แม้ว่าผงโกโก้จะเป็นตัวช่วยในการมีสุขภาพที่ดี แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงมีข้อแนะนำและข้อควรระวังบางประการสำหรับการรับประทานโกโก้ ดังนี้

    • ผู้ที่มีอาการวิตกกังวล ควรระวังการกินโกโก้ เนื่องจากคาเฟอีนในผงโกโก้ อาจส่งผลให้มีอาการหัวใจเต้นผิดปกติ
    • ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ไม่ควรรับประทานผงโกโก้ในปริมาณมาก เนื่องจากอาจส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด
    • ผู้ที่เป็นโรคกรดไหลย้อน การรับประทานผงโกโก้ อาจทำให้อาการที่เป็นอยู่แย่ลงกว่าเดิม
    • ผู้ที่เป็นต้อหิน ควรระมัดระวังโกโก้ เนื่องจากสารคาเฟอีนในผงโกโก้จะมีผลต่อความดันที่ดวงตา
    • ผู้ที่มีความดันโลหิตสูง หากรับประทานผงโกโก้อาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ได้

    การรับประทานผงโกโก้แม้จะไม่ได้ส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยตรง แต่ผู้ที่มีอาการทางสุขภาพอยู่แต่เดิมแล้ว ควรขอคำแนะนำจากคุณหมอและผู้เชี่ยวชาญว่าสามารถรับประทานได้หรือไม่ และปริมาณเท่าใดจึงจะไม่ส่งผลต่อสุขภาพ ที่สำคัญ คือ ควรรู้จักงดหวานในการรับประทานผงโกโก้ เพื่อให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพสูงสุด

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


    เขียนโดย Khongrit Somchai · แก้ไขล่าสุด 06/12/2021

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา