backup og meta

อาการโรคหัวใจ ปัจจัยเสี่ยงและวิธีดูแลสุขภาพหัวใจให้แข็งแรง

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย นายแพทย์พีรธัช โรจนพันธุ์ · โรคหัวใจ · สถาบันโรคทรวงอก


เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน · แก้ไขล่าสุด 01/09/2022

    อาการโรคหัวใจ ปัจจัยเสี่ยงและวิธีดูแลสุขภาพหัวใจให้แข็งแรง

    อาการโรคหัวใจ ส่วนใหญ่แล้วมักมีอาการใจสั่น เจ็บหน้าอก แขนขาชา โดยอาจมีสาเหตุแตกต่างกันตามประเภทของโรคหัวใจ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ โรคลิ้นหัวใจ โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการโรคหัวใจ ควรศึกษาวิธีการดูแลสุขภาพหัวใจ คอยสังเกตอาการผิดปกติ หรือขอคำแนะนำจากคุณหมอ และควรเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปี

    อาการโรคหัวใจ

    อาการโรคหัวใจ อาจแตกต่างกันออกไปตามประเภทของโรคหัวใจที่เป็น ดังต่อไปนี้

    โรคหลอดเลือดหัวใจ

    เป็นโรคหัวใจประเภทหนึ่งที่พบได้บ่อย อาจมีสาเหตุมาจากไขมันสะสมในหลอดเลือด และอาจพัฒนาทำให้เกิดคราบจุลินทรีย์หรือคราบพลัค (Plaque) ที่ทำให้ผนังหลอดเลือดแดงแข็งตัว ขวางทางเดินของเลือดและส่งผลให้หลอดเลือดที่ไปหล่อเลี้ยงหัวใจอุดตัน ที่และอาจก่อให้เกิดอาการโรคหัวใจ ดังนี้

    • เจ็บหน้าอก แน่นหน้าอก
    • หายใจถี่
    • ปวดเมื่อยบริเวณคอ ท้องส่วนบน และหลัง
    • รู้สึกปวดและชาบริเวณแขนและขา

    โรคกล้ามเนื้อหัวใจเสื่อม

    อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น หัวใจติดเชื้อ เยื่อบุหัวใจอักเสบ ความดันโลหิตสูง โรคกล้ามเนื้อหัวใจพิการ การฉายรังสี และเคมีบำบัดรักษามะเร็ง ที่ส่งผลกระทบการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจในการสูบฉีดเลือด ซึ่งอาจมีอาการโรคหัวใจดังต่อไปนี้

    • หัวใจเต้นผิดปกติ
    • ใจสั่น
  • หายใจไม่อิ่มในขณะที่ทำกิจกรรมหรือนอนพักผ่อน
    • ขาและข้อเท้าบวม
    • รู้สึกเหนื่อยล้า
    • วิงเวียนศีรษะ หน้ามืด และเป็นลม

    โรคลิ้นหัวใจ

    โรคลิ้นหัวใจ โดยส่วนมากเกิดจากความเสื่อมของลิ้นหัวใจในผู้สูงอายุเช่นลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบ หรือลิ้นหัวใจไมตรัลรั่ว ในผู้ป่วยบางรายอาจมีความเชื่อมโยงกับโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด หรือเนื้อเยื่อของลิ้นหัวใจมีความหย่อนผิดปกติ (Barlow’s disease) เยื่อบุหัวใจอักเสบ ไข้รูมาติก (Rheumatic Fever) และการติดเชื้อที่หัวใจ ที่อาจส่งผลให้เกิดอาการโรคหัวใจดังต่อไปนี้

    • เจ็บหน้าอก
    • หัวใจเต้นผิดจังหวะ
    • อาการเหนื่อยล้า
    • หายใจถี่
    • ข้อเท้าและเท้าบวม
    • เป็นลม หมดสติ

    โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ

    ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่อาจเกิดจากปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ หัวใจพิการแต่กำเนิด โรคเบาหวาน ความเครียด การสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในปริมาณมากเกินไป การรับประทานยา สมุนไพร และอาหารเสริมบางชนิดที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของหัวใจ โดยอาจสังเกตอาการโรคหัวใจได้ดังนี้

    • หัวใจเต้นเร็วหรือช้า ไม่สม่ำเสมอ
    • เจ็บหน้าอก
    • หายใจถี่
    • วิงเวียนศีรษะ
    • มีอาการใกล้เป็นลมและอาจเป็นลมหมดสติ

    โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด

    อาจเกิดขึ้นตั้งแต่ขณะอยู่ในครรภ์ โดยยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่อาจเกิดจากการติดเชื้อระหว่างตั้งครรภ์ ความผิดปกติของพันธุกรรม การสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือรับประทานยาบางชนิดระหว่างตั้งครรภ์ โดยอาจสังเกตอาการได้ตั้งแต่แรกเกิดดังนี้

    • ทารกหายใจถี่ระหว่างกินนม
    • สีผิวซีด หรือสีผิวเปลี่ยนแปลงเป็นสีขาวหรือน้ำเงิน
    • อาการบวมรอบดวงตา ขา หน้าท้อง เท้า และข้อเท้า
    • หายใจไม่ออกระหว่างออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่มีการใช้แรงมาก
    • เหนื่อยง่าย

    จากแบบสำรวจวันหัวใจโลกของ Hello คุณหมอ พบว่า อาการโรคหัวใจที่คนไทยส่วนใหญ่ทราบเป็น 3 อันดับแรก คือ อาการหัวใจเต้นผิดปกติ อาการเจ็บหน้าอก และอาการแขนขาอ่อนแรง ในขณะเดียวกัน หลายคนไม่ทราบว่าอาการไอเรื้อรัง อาการคลื่นไส้อาเจียน และอาการบวมที่แขนและขา ก็เป็นหนึ่งในอาการโรคหัวใจเช่นกัน และมักจะมองข้ามอาการเหล่านี้ไป ซึ่งอาจส่งผลให้สังเกตพบความผิดปกติและเข้ารับการตรวจวินิจฉัยได้ล่าช้า และอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้

    ปัจจัยเสี่ยงของอาการโรคหัวใจ

    ปัจจัยเสี่ยงของอาการโรคหัวใจ มีดังนี้

    • อายุมากขึ้น เนื่องจากกล้ามเนื้อหัวใจอาจเสื่อมสภาพลง
    • คนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคหัวใจ
    • การรับประทานอาหารที่ส่งผลเสียต่อหลอดเลือดหัวใจ เช่น อาหารที่มีไขมัน เกลือ และน้ำตาลสูงอย่างน้ำอัดลม ขนมหวาน มันฝรั่งทอด ขนมขบเคี้ยว
    • การไม่ออกกำลังกาย
    • ภาวะคอเลสเตอรอลในเลือดสูง ที่อาจทำให้เกิดคราบพลัคอุดตันในหลอดเลือด จนขวางทางเดินของเลือดไปยังหัวใจ
    • ภาวะความดันโลหิตสูงที่ไม่สามารถควบคุมได้ อาจส่งผลให้หลอดเลือดหัวใจตีบตัน
    • ความเครียด อาจส่งผลให้หลอดเลือดหัวใจเสื่อมสภาพ และเพิ่มความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจได้
    • การสูบบุหรี่ เนื่องจากในบุหรี่มีนิโคติน (Nicotine) ที่อาจทำให้หลอดเลือดตีบตัน หัวใจขาดเลือด และหัวใจวาย
    • การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาจเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลและทำให้ระดับความดันโลหิตสูง ที่อาจนำไปสู่การเกิดโรคหัวใจ
    • โรคอ้วนและโรคเบาหวาน อาจเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจได้เนื่องจากการสะสมของไขมันและภาวะน้ำตาลในเลือดสูงอาจทำลายหลอดเลือดหรือทำให้หลอดเลือดอุดตันได้

    วิธีดูแลสุขภาพหัวใจให้แข็งแรง

    วิธีดูแลสุขภาพหัวใจให้แข็งแรง และป้องกันอาการโรคหัวใจ อาจทำได้ดังนี้

    • รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพหัวใจ เน้นการรับประทานผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี และพืชตระกูลถั่ว เช่น อัลมอนด์ น้ำมันมะกอก แซลมอน คะน้า กะเพรา กะหล่ำปลี ฝรั่ง แอปเปิ้ล และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมัน เกลือ และน้ำตาลสูง เช่น เนื้อสัตว์ติดมัน อาหารแปรรูป น้ำอัดลม มันฝรั่งทอด เค้ก โดนัท คุกกี้
    • ออกกำลังกาย ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 5 วัน/สัปดาห์ ครั้งละ 30 นาที เพราะการออกกำลังกายอาจช่วยควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด และช่วยควบคุมระดับความดันโลหิต
    • หยุดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
    • ตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อตรวจเช็กสุขภาพหัวใจ เช่น จังหวะการเต้นของหัวใจ รวมถึงอาการผิดปกติต่าง ๆ เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาทันที ช่วยลดความเสี่ยงก่อให้เกิดโรคหัวใจ หัวใจวาย และหัวใจหยุดเต้นกะทันหัน

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

    นายแพทย์พีรธัช โรจนพันธุ์

    โรคหัวใจ · สถาบันโรคทรวงอก


    เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน · แก้ไขล่าสุด 01/09/2022

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา