เมื่อคุณเป็น เบาหวาน คุณอาจจะเข้าใจว่าตัวเองต้องงดของหวานและ น้ำตาล อย่างสิ้นเชิง แต่จริง ๆ แล้ว คุณยังสามารถรับประทานของหวาน ๆ ได้ หากคุณสามารถจัดการและควบคุมอาการของโรคเบาหวานได้ มาลองดูข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเบาหวานและน้ำตาล พร้อมกับ Hello คุณหมอ กันเลย
ความจริงเกี่ยวกับ น้ำตาล และ เบาหวาน
หลายคนคิดว่าการกินน้ำตาลทำให้เป็นโรคเบาหวาน แต่ในความเป็นจริงแล้ว น้ำตาลไม่เกี่ยวข้องกับการเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 แต่อย่างใด สำหรับโรคเบาหวานชนิดที่ 2 น้ำหนักเกิน เป็นปัจจัยเสี่ยงอย่างหนึ่ง ซึ่งเมื่อคุณกินน้ำตาลมากเกินไป น้ำหนักตัวก็จะเพิ่มขึ้น
จากการศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่าการดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมาก สัมพันธ์กับการเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ดังนั้น คุณควรควบคุมปริมาณการบริโภคน้ำตาล เพื่อช่วยป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน แต่หากคุณเป็นโรคเบาหวานอยู่แล้ว การบริโภคน้ำตาลจะเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งหากไม่มีการควบคุม ปัญหาร้ายแรงอาจะเกิดขึ้นได้ การวางแผนในเรื่องการกินอย่างเหมาะสม คือการควบคุมปริมาณน้ำตาล และรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ให้ได้
คุณควรกินของหวานในโอกาสพิเศษเท่านั้น เช่น วันเกิดหรืองานแต่งงาน แต่พึงระลึกไว้ว่า ของหวานเหล่านั้นมีปริมาณน้ำตาลสูง ดังนั้น ควรรับประทานในปริมาณเล็กน้อย มื้ออาหารในแต่ละวันของคุณควรมีสารอาหารครบถ้วน เช่น ผัก ผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ที่ไม่มีไขมัน ถั่ว และโปรตีนไร้ไขมัน หากของหวานมีปริมาณน้ำตาลมากเกินไป ควรแบ่งกับเพื่อน และไม่ควรซื้อของหวานที่ไม่ดีต่อสุขภาพ หากคุณคิดว่าคุณจะไม่สามารถยั้งใจไม่กินมันได้
การเพิ่มความหวานให้อาหาร
นอกจากควรสงวนของหวานไว้สำหรับวันพิเศษแล้ว อีกวิธีการหนึ่งที่สามารถสนองความต้องการสำหรับผู้รักความหวานก็คือ การใส่สารเพิ่มความหวานที่มีแคลอรี่ต่ำลงในอาหาร แต่ควรควบคุมปริมาณในการใส่ ชนิดของสารเพิ่มความหวานมีดังนี้
- น้ำตาลประเภทต่าง ๆ (น้ำตาลทรายขาว น้ำตาลทรายดิบ น้ำตาลอ้อย น้ำตาลทรายแดง น้ำตาลข้าวโพด น้ำตาลจากต้นปาล์ม)
- น้ำผึ้ง
- น้ำเชื่อม (จากอ้อย เมเปิล และข้าว)
- น้ำหวานจากเกสรดอกไม้
- น้ำตาลธรรมชาติ (ฟรุคโตส ไซลิทอล)
เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด คุณควรควบคุมคาร์โบไฮเดรตที่สามารถพบได้ในอาหารเหล่านี้ด้วย
- ข้าว
- พาสต้า
- ขนมปัง
- คุกกี้
- ผักที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง (เมล็ดพืช ถั่ว มันฝรั่ง ข้าวโพด)
- ผลไม้
- น้ำผลไม้
- ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ (นม ชีส โยเกิร์ต)
ข้อควรรู้ในการเลือกรับประทานอาหารสำหรับคนเป็นเบาหวาน
หากคุณอยากกินของหวาน คุณควรระบุปริมาณความหวานที่อยู่ในอาหาร โดยตรวจสอบจากฉลากบรรจุภัณฑ์ ฉลากที่แสดงปริมาณสารอาหารและส่วนผสม จะบอกว่าผลิตภัณฑ์นั้นมีส่วนผสมของแป้งและน้ำตาลในปริมาณเท่าไร น้ำตาลประกอบด้วยทั้งน้ำตาลธรรมชาติ และน้ำตาลที่เติมลงไป คาร์โบไฮเดรตประกอบด้วยแป้ง เส้นใยอาหาร น้ำตาล และน้ำตาลแอลกอฮอล์ เช่น มัลติตอล (Maltitol) ไซลิทอล (Xylitol) ซอร์บิทอล (Sorbitol) คุณสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อสร้างสูตรของหวานที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพได้
อย่างไรก็ดี ของหวานเป็นสิ่งที่ใคร ๆ ก็ปรารถนา แต่เมื่อเป็นโรคเบาหวาน คุณควรทานของหวานสำหรับโอกาสพิเศษเท่านั้น แต่หากคุณตัดสินใจเพิ่มของหวานในมื้ออาหารของคุณ มันก็ควรอยู่ในปริมาณน้อย ๆ แพทย์จะช่วยให้คำแนะนำฝนเรื่องการวางแผนมื้ออาหารของคุณได้ ที่จะไม่เพียงช่วยควบคุมโรคเบาหวาน แต่ยังทำให้เป็นมื้ออาหารที่น่าพึงพอใจสำหรับคนรักของหวานเช่นคุณ
[embed-health-tool-bmr]