backup og meta

โลหิตจาง ห้ามกินอะไรบ้าง และควรกินอะไร

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย เนตรนภา ปะวะคัง


เขียนโดย ศุภานิช สุริโย · แก้ไขล่าสุด 28/02/2024

    โลหิตจาง ห้ามกินอะไรบ้าง และควรกินอะไร

    โรคโลหิตจางหรือโรคเลือดจาง (Anemia) เป็นภาวะที่ร่างกายมีเซลล์เม็ดเลือดแดงน้อยเกินไป จึงไม่สามารถลำเลียงออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงเนื้อเยื่อและอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายได้อย่างเพียงพอ จนส่งผลให้มีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่ายกว่าปกติ หน้ามืดบ่อยครั้ง ซึ่งอาจบรรเทาได้ด้วยการกินอาหารที่เหมาะสม การเรียนรู้ว่า โลหิตจาง ห้ามกินอะไรบ้าง จึงอาจช่วยให้ผู้ป่วยโรคนี้ดูแลตัวเองได้ดีขึ้น โดยทั่วไป ผู้ป่วยโลหิตจางควรเลี่ยงการกินอาหารที่อาจลดประสิทธิภาพในการดูดซึมธาตุเหล็ก เช่น อาหารที่มีแคลเซียมสูงอย่างนม โยเกิร์ต ชีส เครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเหล้า เบียร์ ไวน์ อาหารที่มีโพลีฟีนอลสูงอย่างชา กาแฟ และกินอาหารที่มีธาตุเหล็กซึ่งช่วยในการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย และอาหารที่มีวิตามินซี เช่น ผลไม้ตระกูลซิตรัสซึ่งช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กไปใช้ได้ดียิ่งขึ้น

    โลหิตจาง เกิดจากอะไร

    โรคโลหิตจาง เกิดจากร่างกายมีจำนวนเซลล์เม็ดเลือดแดงต่ำกว่าปกติและฮีโมโกลบินซึ่งเป็นโปรตีนในเลือดที่ทำหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงเนื้อเยื่อในร่างกายมีความเข้มข้นน้อยกว่าปกติ ทำให้ไม่สามารถนำออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงอวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้เพียงพอ จึงส่งผลให้มีอาการอ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ ปวดศีรษะบ่อย หน้ามืด ผิวซีดเซียว โดยทั่วไปมักเกิดจากการขาดธาตุเหล็ก (Iron deficiency) ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย จึงควรกินอาหารที่มีธาตุเหล็กและสารอาหารอื่น ๆ อย่างครบถ้วน โดยเฉพาะวิตามินซีที่ช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น เพื่อป้องกันการเกิดโรคโลหิตจาง

    อาการของโรคโลหิตจาง

    อาการของโรคโลหิตจาง อาจมีดังนี้

    • ผิวซีดหรือผิวดูเหลืองกว่าปกติ
    • เวียนศีรษะ
    • ปวดศีรษะบ่อย
    • หน้ามืด
    • อ่อนเพลีย
    • เหนื่อยง่าย
    • หายใจลำบาก
    • หงุดหงิดง่าย
    • ไม่อยากอาหาร

    กลุ่มเสี่ยงของโรคโลหิตจาง อาจมีดังนี้

    • ผู้หญิงในช่วงเป็นประจำเดือน
    • คนท้องและผู้ให้นมบุตร
    • ทารกแรกเกิด โดยเฉพาะทารกคลอดก่อนกำหนด
    • เด็กที่กำลังเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น เนื่องจากเป็นวัยที่ต้องใช้เลือดมากขึ้นและมีมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น จึงต้องการธาตุเหล็กมากขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะเด็กผู้หญิงที่เริ่มมีประจำเดือน
    • ผู้ที่กินอาหารแบบมังสวิรัติและวีแกนที่ไม่ค่อยได้กินผักและผลไม้ที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก
    • ผู้ที่เป็นโรคมะเร็ง ผู้ที่ต้องฟอกไต และผู้ที่เป็นแผลในกระเพาะอาหาร
    • ผู้ที่กินอาหารแบบแฟด (Fad diet) หรือควบคุมปริมาณอาหารเพื่อลดน้ำหนัก
    • นักกีฬา เป็นกลุ่มคนที่ต้องฝึกซ้อมอยู่ตลอด ทำให้มีกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น ร่างกายจึงต้องการธาตุเหล็กมากขึ้นในการผลิตเนื้อเยื่อและเซลล์เม็ดเลือดใหม่
    • ผู้ที่บริจาคโลหิตเป็นประจำ โดยเฉพาะหากไม่ค่อยได้บริโภคอาหารที่มีธาตุเหล็กสูงหรือวิตามินเสริมธาตุเหล็ก

    โลหิตจาง ห้ามกินอะไรบ้าง

    อาหารที่คนเป็นโรคโลหิตจางควรหลีกเลี่ยง อาจมีดังนี้

    • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

    การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์ เป็นประจำ นอกจากจะส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมแล้ว ยังทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารหลัก เช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และสารอาหารรองอย่างวิตามินและแร่ธาตุไปใช้ประโยชน์ได้น้อยลง ผู้เป็นโรคโลหิตจางจึงควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจลดประสิทธิภาพการดูดซึมธาตุเหล็กเข้าสู่ร่างกาย ทำให้อาการโลหิตจางไม่ดีขึ้นหรือยิ่งแย่ลง

    • อาหารที่มีแคลเซียมสูง

    อาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น นมวัว ชีส โยเกิร์ต อาจยับยั้งการดูดซึมธาตุเหล็กทั้งในรูปแบบเหล็กฮีม (Heme Iron) ที่พบได้ในเนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์และอาหารทะเล เป็นต้น และธาตุเหล็กในรูปแบบสารประกอบที่ไม่ใช่ฮีม (Non-heme Iron) ที่พบได้ในไข่แดง ถั่วเมล็ดแห้ง พืชผัก เป็นต้น จึงควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมร่วมกับอาหารที่มีธาตุเหล็กหรือรับประทานในเวลาใกล้เคียงกัน เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมธาตุเหล็กไปใช้ประโยชน์ได้มากที่สุด

    • อาหารที่มีโพลีฟีนอลสูง

    โพลีฟีนอล (Polyphenols) เป็นสารพฤกษเคมีที่ออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ แม้จะมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่การรับประทานอาหารที่มีโฟลีฟีนอลสูง เช่น ชา กาแฟ โกโก้ แอปเปิล เครื่องเทศ ในปริมาณมากเกินไปก็อาจลดประสิทธิภาพการดูดซึมธาตุเหล็กในอาหารของผู้ป่วยโรคโลหิตจาง ทำให้ร่างกายได้รับธาตุเหล็กเพื่อไปเสริมสร้างเม็ดเลือดแดงและฮีโมโกลบินไม่เต็มที่ จึงควรหลีกเลี่ยงการรับประทานมากเกินไป เพื่อให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น

    โรคโลหิตจาง ควรกินอะไร

    สาเหตุของโรคโลหิตจางที่พบบ่อย คือ การขาดธาตุเหล็ก ดังนั้น การรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กดังต่อไปนี้ จึงอาจช่วยเพิ่มการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงและฮีโมโกลบิน และรักษาโรคโลหิตจางให้ดีขึ้นได้

    ธาตุเหล็กจากเนื้อสัตว์ เช่น

    • เนื้อแดง เช่น หมู วัว
    • เครื่องในสัตว์ เช่น ตับ ไต
    • สัตว์ปีก เช่น เป็ด ไก่
    • ปลาหรือหอย เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน
    • ไข่

    ธาตุเหล็กจากพืช เช่น

    • พืชตระกูลถั่ว เช่น อัลมอนด์ ถั่วเขียว ถั่วดำ
    • แป้งจากเมล็ดข้าวสาลีเต็มเมล็ด (Wholewheat) เช่น พาสต้า ขนมปัง
    • ผลไม้อบแห้ง เช่น ลูกเกด อินทผลัมอบแห้ง แอปริคอตอบแห้ง
    • ผักใบเขียวเข้ม เช่น ปวยเล้ง บรอกโคลี คะน้า ผักกาดเขียว
    • ซีเรียลอาหารเช้าที่เสริมธาตุเหล็ก
    • เต้าหู้

    นอกจากนี้ ควรรับประทานอาหารที่มีวิตามินซี เช่น ส้ม มะขาวป้อม มะนาว กีวี่ ดอกกะหล่ำ ขึ้นฉ่าย ต้นหอม ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมธาตุเหล็กไปใช้ประโยชน์

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    เนตรนภา ปะวะคัง


    เขียนโดย ศุภานิช สุริโย · แก้ไขล่าสุด 28/02/2024

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา