งานวิจัยชิ้นหนึ่ง ศึกษาเกี่ยวกับการดูดซึมวิตามินซี ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Nutritional Science เมื่อพ.ศ. 2555 นักวิจัยได้ทดลองในผู้ชาย 15 ราย ที่มีระดับวิตามินซีต่ำ โดยให้รับประทานกีวี่ 1-3 ผลตามลำดับ เป็นเวลา 4-6 สัปดาห์ พบว่า การเพิ่มกีวี่ครึ่งผลต่อวันอาจช่วยให้วิตามินซีในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างมาก
นอกจากนี้ งานวิจัยอีกหนึ่งชิ้น ศึกษาเกี่ยวกับอารมณ์ของผู้ชายหลังจากที่ได้รับประทานกีวี่ซึ่งเป็นอาหารที่มีวิตามินซีสูง ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Nutritional Science พ.ศ. 2556 พบว่า ผู้ที่รับประทานกีวี่ 1 ผล/วัน มีความเหนื่อยล้าลดลง 38% สุขภาพแข็งแรงขึ้น 34% นอกจากนี้ ผู้ที่รับประทานกีวี่ 2 ผล/วัน มีแนวโน้มในการเกิดภาวะโรคซึมเศร้าลดลง ดังนั้น ผู้ที่มีอารมณ์แปรปรวนในระดับปานกลางอาจรับประทานกีวี่เพิ่มขึ้น เพื่อช่วยปรับปรุงภาวะอารมณ์โดยรวม
อาจช่วยป้องกันมะเร็ง
กีวี่อุดมไปด้วยไฟเบอร์หรือเส้นใยอาหาร ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ นอกจากนี้ สารต้านอนุมูลอิสระในกีวี่ เช่น ลูทีน เบต้าแคโรทีน สามารถช่วยกำจัดอนุมูลอิสระที่ทำให้ดีเอ็นเอเสียหาย และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งหลายชนิดออกจากร่างกายได้
งานวิจัยชิ้นหนึ่ง ศึกษาเกี่ยวกับคุณสมบัติทางโภชนาการของกีวี่ ตีพิมพ์ในวารสาร European Journal of Nutrition พ.ศ. 2561 พบว่า สารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ลูทีน แคโรทีนอยด์ มีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระหรือชะลอการสร้างอนุมูลอิสระที่อาจสร้างความเสียหายให้แก่เซลล์บางชนิดในร่างกาย
นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยอีกหนึ่งชิ้นที่ตีพิมพ์ในวารสาร The American Journal of Gastroenterology เมื่อพ.ศ. 2558 ศึกษาเกี่ยวกับการบริโภคใยอาหารและความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งรังไข่ พบว่า ใยอาหารมีความสัมพันธ์กับการลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักที่เกิดจากเนื้องอกที่อาจกลายเป็นมะเร็งอย่างมีนัยสำคัญ
อาจช่วยส่งเสริมสุขภาพหัวใจ
กีวี่เป็นผลไม้ที่มีไฟเบอร์ โพแทสเซียม และสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งสารเหล่านี้อาจมีส่วนช่วยในการส่งเสริมสุขภาพหัวใจ นอกจากนี้ โพแทสเซียมยังมีส่วนช่วยในการขับน้ำและโซเดียมออกจากร่างกาย จึงอาจช่วยให้ควบคุมความดันโลหิตได้ดีขึ้น จากงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ศึกษาเกี่ยวกับการบริโภคกีวี่ที่มีผลต่อความดันโลหิตในผู้ที่มีความดันโลหิตสูงปานกลาง ตีพิมพ์ในวารสาร Blood Pressure พ.ศ. 2558 โดยให้ผู้เข้าร่วมการทดลอง 118 ราย ที่มีความดันโลหิตสูงในระดับปานกลางสุ่มรับประทานกีวี่ 3 ผล/วัน หรือแอปเปิ้ล 1 ผล/วัน เป็นเวลา 8 สัปดาห์ พบว่า ผู้ชายและผู้หญิงที่มีความดันโลหิตสูงในระดับปานกลาง เมื่อได้รับประทานกีวี่ 3 ผล/วัน มีความดันโลหิตลดลงภายใน 24 ชั่วโมงเมื่อเทียบกับการรับประทานแอปเปิ้ล 1 ผล/วัน นอกจากนี้ การรับประทานกีวี่ยังอาจช่วยปรับปรุงการทำงานของเยื่อบุผนังหลอดเลือดได้ด้วย
อาจช่วยส่งเสริมระบบทางเดินอาหาร
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย