หลายคนมักจะถือคติ ไม่ตรวจเท่ากับไม่เป็น ซึ่งถือว่าเป็นแนวความคิดที่ไม่ถูกต้องนัก เพราะเราไม่จำเป็นที่จะต้องรอให้เกิดอาการก่อนแล้วจึงทำการรักษา การเข้ารับการตรวจสุขภาพปีละครั้ง หรือทุก ๆ 6 เดือน จะช่วยให้เราทราบถึงแนวโน้มความเสี่ยงทางสุขภาพ โดยเฉพาะการตรวจคัดกรองความเสี่ยงของ มะเร็งลำไส้ใหญ่ หากพบความเสี่ยงตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็สามารถที่จะหาทางป้องกันหรือรักษาได้ทันท่วงที อย่ารอให้ป่วยหนักก่อนแล้วจึงเข้ารับการตรวจวินิจฉัย
2. รับประทานอาหารที่ให้ไฟเบอร์สูง
ไฟเบอร์เป็นหนึ่งในสารอาหารสำคัญที่ร่างกายควรได้รับอย่างเพียงพอ เพราะมีส่วนช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบทางเดินอาหารและระบบขับถ่าย ทั้งยังมีส่วนช่วยให้สุขภาพลำไส้ดีด้วย ดังนั้นควรเน้นรับประทานผักและผลไม้ในทุก ๆ มื้อของการรับประทานอาหาร
3. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การไม่ค่อยออกกำลังกาย นำมาซึ่งความเสี่ยงต่อสุขภาพหลายประการ หนึ่งในนั้นคือ มะเร็งลำไส้ใหญ่ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ มีส่วนช่วยให้ระบบทางเดินอาหาร ระบบย่อยอาหาร ระบบเผาผลาญ และระบบขับถ่ายทำหน้าที่ได้ดีขึ้น ช่วยลดปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับลำไส้ และลดความเสี่ยงของอาการทางสุขภาพอื่น ๆ
4. รักษาน้ำหนักให้เหมาะสม
หากน้ำหนักเกินมาตรฐานค่าเฉลี่ยหรือมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคอ้วน ถือว่ามีโอกาสเสี่ยงต่อ มะเร็งลำไส้ใหญ่ ควรหมั่นออกกำลังกายและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อดูแลให้น้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมและห่างไกลจากโรคอ้วน
5. ดื่มแอลกอฮอล์ให้น้อยลง
หากเป็นไปได้ควรเลิกดื่มแอลกอฮอล์ แต่ถ้าหากอยู่ในสภาวะที่เลี่ยงได้ยาก ควรรู้จักยับยั้งปริมาณในการดื่ม ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์เกินกว่า 1-2 แก้วต่อวัน เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิด มะเร็งลำไส้ใหญ่ และปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ได้
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย