โดยทั่วไป โรคเลือดจางมักไม่รุนแรงนัก และสามารถรักษาได้ด้วยการกินยาตามที่คุณหมอสั่งและกินอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน อุดมด้วยธาตุเหล็ก โฟเลต และวิตามินต่าง ๆ ที่มีประโยชน์และช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง แต่หากปล่อยไว้ไม่รักษา โรคเลือดจางอาจทำให้เกิดภาวะสุขภาพ ดังต่อไปนี้
- ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ โรคเลือดจางจากการขาดธาตุเหล็กอาจทำให้หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ เนื่องจากหัวใจต้องสูบฉีดเลือดมากขึ้นเพื่อลำเลียงออกซิเจนไปทดแทนออกซิเจนในเลือดที่น้อยลง จนอาจนำไปสู่ภาวะหัวใจโต (Enlarged Heart) และภาวะหัวใจล้มเหลวได้
- ปัญหาขณะตั้งครรภ์ ผู้หญิงตั้งครรภ์ที่เป็นโรคเลือดจางขั้นรุนแรง อาจเสี่ยงคลอดก่อนกำหนด หรือทารกแรกเกิดมีน้ำหนักตัวน้อยกว่าเกณฑ์ได้ ทั้งนี้ สามารถลดความเสี่ยงดังกล่าวได้ด้วยการรับธาตุเหล็กจากอาหารหรืออาหารเสริม
- ปัญหาการเจริญเติบโต ทารกและเด็กที่เป็นโรคเลือดจางขั้นรุนแรง อาจเสี่ยงเกิดภาวะการเจริญเติบโตและพัฒนาการล่าช้า และในเด็กเล็กอาจติดเชื้อได้ขึ้นด้วย
เลือดจางควรกินอะไร
อาหารที่เหมาะสำหรับผู้ที่เลือดจาง อาจมีดังนี้
อาหารที่มีธาตุเหล็ก
ธาตุเหล็กเป็นสารอาหารที่จำเป็นต้องใช้ในการผลิตฮีโมโกลบินในเซลล์เม็ดเลือดแดงให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ซึ่งเซลล์เม็ดเลือดแดงจะทำหน้าที่ขนส่งออกซิเจนจากปอดไปยังอวัยวะต่าง ๆ หากขาดธาตุเหล็กจะทำให้ร่างกายสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงได้น้อยลงและส่งผลให้ลำเลียงออกซิเจนได้น้อยลงตามไปด้วย การรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กจึงอาจช่วยเพิ่มการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง และช่วยให้โรคเลือดจางดีขึ้นได้
อาหารที่มีธาตุเหล็ก เช่น
- พืชตระกูลถั่ว เช่น ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ถั่วแดง ถั่วแขก ถั่วฝักยาว ถั่วพู
- ผักใบเขียวเข้ม เช่น ปวยเล้ง บรอกโคลี คะน้า กะหล่ำปลี ผักกาดเขียว
- ผลไม้อบแห้ง เช่น ลูกเกด แอปริคอตอบแห้ง
- เต้าหู้
- ไข่
- เนื้อแดง เช่น วัว แกะ หมู
- สัตว์ปีก เช่น เป็ด ไก่ ห่าน
- ปลาและหอย เช่น ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน ปลาทูน่า หอยแครง หอยนางรม หอยแมลงภู่
- อาหารประเภทแป้ง เช่น ขนมปัง พาสต้า
- ซีเรียลอาหารเช้าและขนมปังเสริมธาตุเหล็ก
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย