การวินิจฉัยและการรักษา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาคุณหมอทุกครั้งเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
การวินิจฉัยเลือดจาง
ในเบื้องต้นคุณหมอจะซักประวัติและอาการของผู้ป่วย รวมถึงตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด โดยวิธีที่นิยมใช้ที่สุดก็คือ การนับปริมาณเม็ดเลือดแดง การวินิจฉัยด้วยวิธีนี้จะช่วยให้คุณหมอทราบว่าเซลล์เม็ดเลือดแดงของผู้ป่วยมีปริมาณ ขนาด และรูปร่างอย่างไร อีกทั้งยังสามารถระบุได้อีกว่า ผู้ป่วยมีปริมาณวิตามินบี 12 และวิตามินบี 9 สะสมอยู่เท่าใด
นอกจากนี้ คุณหมออาจใช้วิธีการวินิจฉัยอื่น ๆ เช่น การตรวจหาเลือดปนในอุจจาระ โดยประเมินภาวะเลือดออกจากระบบทางเดินอาหาร เพื่อบ่งชี้ว่าผู้ป่วยมีภาวะเลือดจางหรือไม่
การรักษาภาวะเลือดจาง
วิธีการรักษาภาวะเลือดจางอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของโรค โดยวิธีที่ใช้อาจมีดังต่อไปนี้
- อาหารเสริมธาตุเหล็ก คุณหมออาจแนะนำให้รับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก เช่น ถั่ว ผักใบเขียว เนื้อวัว รวมถึงอาหารเสริมหรือวิตามินเสริมที่ช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็ก เช่น วิตามินซี
- การให้ธาตุเหล็กทางหลอดเลือดดำ เพื่อกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะเลือดจางจากโรคไตวายเรื้อรัง
- การถ่ายเลือด ผู้ป่วยที่มีภาวะเลือดจางรุนแรง คุณหมออาจรักษาด้วยวิธีการเปลี่ยนถ่ายเลือด เพื่อเพิ่มระดับฮีโมโกลบินในร่างกาย
- ผ่าตัด หากภาวะโลหิตจางเกิดจากเลือดออกภายในร่างกาย คุณหมออาจต้องผ่าตัดเพื่อป้องกันการสูญเสียเลือดมาก
- ปลูกถ่ายไขกระดูก ภาวะเลือดจางที่เกิดจากสาเหตุทางพันธุกรรม เช่น โรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย โรคเม็ดเลือดแดงรูปเคียว อาจต้องปลูกถ่ายไขกระดูกเพื่อกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง แต่สำหรับผู้ป่วยบางราย คุณหมออาจฉีดยากระตุ้นฮอร์โมนอีริโทรโพอิติน (Erythropoietin) ร่วมด้วย เนื่องจากเป็นฮอร์โมนที่อาจช่วยให้ไขกระดูกสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย