หลายคนยังไม่เข้าใจเรื่องการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ ในแง่ของผลต่อกระบวนการเผาผลาญในร่างกายหรือเมตาบอลิซึม และระดับฮอร์โมน หากคุณเลือกการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอผิดประเภท ก็อาจทำให้ระดับคอร์ติซอลเพิ่มขึ้นได้ ทำให้ร่างกายกักเก็บไขมันไว้เพิ่มขึ้น แทนที่จะเผาผลาญไขมันอย่างที่คุณต้องการให้เป็น
ระดับคอร์ติซอลที่เพิ่มขึ้นจะไปเพิ่มระดับไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat) ซึ่งเป็นไขมันที่เกาะอยู่ตามบริเวณระหว่างกล้ามเนื้อท้องกับอวัยวะภายในช่องท้อง หรือที่เรียกว่าพุง และทำให้ร่างกายเกิดการอาการปวดและอักเสบ ยิ่งไปกว่านั้น ไขมันในช่องท้องจะหลั่งสารเคมีที่ชื่อว่า อะดิโพไคน์ (adipokines) ที่ทำให้กล้ามเนื้อแยกตัวออกและสร้างไขมันที่พุงขึ้นมามากขึ้น นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมไขมันที่พุงจึงเป็นไขมันที่กำจัดได้ยากมาก ๆ
“การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอต่อเนื่องนาน ๆ” ไม่ได้เป็นตัวทำลายเพราะคอร์ติซอลเท่านั้น เพราะคอร์ติซอลจะถูกผลิตขึ้นมาเมื่อร่างกายของเราเครียด แต่เป็นเพราะการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโออย่างต่อเนื่องไม่ได้กระตุ้นปฏิกิริยาฮอร์โมนแอนาบอลิกเพื่อทำปฏิกิริยากับกระบวนการคาตาบอลิกของคอร์ติซอล ตัวอย่างเช่น ขณะที่คุณกำลังยกเวทหรือสปรินท์ ความเครียดจะเพิ่มขึ้น และร่างกายก็จะผลิตคอร์ติซอลออกมา แต่กิจกรรมเหล่านี้ก็จะผลิตฮอร์โมนแอนาบอลิคออกมาเพื่อกระตุ้นการเติบโต การซ่อมแซมร่างกาย และการเผาผลาญไขมัน กระนั้น การออกกำลังกายที่ดีที่สุดเพื่อให้ไขมันหน้าท้องเบิร์นคือกิจกรรมใดก็ตามที่ช่วยให้ร่างกายผลิตโกรธฮอร์โมนส์ (HGH) ฮอร์โมนเพศชายหรือเทสโทสเตอโรนและอะดรินาลีน ฮอร์โมนอะนาบอลิกช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบต่อต้านความเครียดธรรมชาติในร่างกายของเรา และทำให้ร่างกายเติบโตและสมดุล
งานวิจัยชี้ให้เห็นว่า การออกกำลังกายคาร์ดิโออย่างต่อเนื่อง เป็นเวลาติดต่อกันอย่างน้อย 6-8 สัปดาห์ จะทำให้ร่างกายไม่มีปัญหาหลั่งคอร์ติซอล หรือฮอร์โมนเครียดเพิ่มขึ้น คุณไม่ควรออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอประเภทเดิมตลอด ควรเปลี่ยนรูปแบบการออกกำลังกายบ้าง เช่น ออกกำลังกายด้วยการวิ่ง สลับกับการปั่นจักรยาน หรือว่ายน้ำ ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายเพื่อฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ เช่น วิดพื้น ยกน้ำหนัก
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย