backup og meta

เด็ก กับพัฒนาการในแต่ละช่วงวัย

เด็ก กับพัฒนาการในแต่ละช่วงวัย

เด็ก คือวัยที่เริ่มตั้งแต่ช่วงแรกเกิดไปจนถึงก่อนเข้าวัยแรกรุ่น หรืออายุต่ำกว่า 19 ปี โดยเด็กจะมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องทั้งทางร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม วัยเด็กจึงเป็นวัยสำคัญที่ควรได้รับการดูแลเอาใจใส่ และได้ฝึกฝนทักษะเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการในด้านต่าง ๆ เป็นพิเศษ โดยการเสริมสร้างพัฒนาการของเด็กนั้นควรเริ่มตั้งแต่ในครอบครัว ด้วยการพูดคุย การเล่น การอ่านหนังสือ ดูแลโภชนาการ การออกกำลังกาย และการนอนหลับ สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เด็กมีพัฒนาการตามช่วงวัยที่สมบูรณ์แข็งแรงมากขึ้น

[embed-health-tool-bmi]

เด็ก และพัฒนาการแต่ละช่วงวัย

เด็กทารก

เด็กทารก (อายุแรกเกิดถึง 1 ปี) เป็นวัยที่เริ่มมีพัฒนาการทั้งทางร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคมตั้งแต่อยู่ในครรภ์จนออกสู่โลกภายนอก

พัฒนาการทางร่างกาย

ทารกเริ่มพัฒนาร่างกายตั้งแต่ตอนปฏิสนธิและกลายเป็นตัวอ่อน โดยสมองจะพัฒนาเป็นอันดับแรก ตามด้วยอวัยวะภายในส่วนอื่น ๆ เช่น หัวใจ ตับ ไต ลำไส้ รวมถึงอวัยวะภายนอก เช่น แขน ขา ลำตัว ดวงตา ซึ่งอวัยวะเหล่านี้จะพัฒนาอย่างต่อเนื่องในแต่ละสัปดาห์ของการตั้งครรภ์จนถึงครบกำหนดคลอด เมื่อทารกออกมาสู่โลกภายนอก ร่างกายก็ยังคงเจริญเติบโตและพัฒนาต่อไป ทั้งระบบภูมิคุ้มกัน ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ผม การเคลื่อนไหวและการทรงตัว ซึ่งพัฒนาการทางร่างกายเหล่านี้อาจจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือดูแลจากครอบครัวด้วย

พัฒนาการทางสติปัญญา อารมณ์ และสังคม

ในขณะที่เด็กอยู่ในครรภ์ อารมณ์ของแม่อาจส่งผลต่อพัฒนาการทางสติปัญญา อารมณ์ และสังคมของเด็ก เด็กจะรับรู้ถึงอารมณ์ของแม่ได้ ความไม่สบายของท่านั่งหรือท่านอนของแม่ และรับรู้ถึงการพูดคุย โดยเด็กอาจตอบสนองการสื่อสารและอารมณ์ด้วยพฤติกรรมการถีบ เตะ พลิกตัว หรือม้วนตัว

เมื่อลืมตาดูโลก เด็กจะได้เรียนรู้ทักษะต่าง ๆ เช่น การคลาน การยิ้ม การโบกมือลา การพูดคุย การเดิน ซึ่งในช่วงวัยนี้ยังจำเป็นที่ต้องได้รับแรงสนับสนุนและความรักความอบอุ่นจากคนในครอบครัวอย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยส่งเสริมทักษะและการเรียนรู้ในด้านต่าง ๆ

เด็กในช่วงขวบปีแรกชอบที่จะเรียนรู้ มีสมาธิในการมองไปรอบ ๆ มักหยิบสิ่งของเข้าปาก หรือออกสำรวจสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ เด็กจะมีกระบวนการเรียนรู้ด้านความจำ ภาษา การคิด และการใช้เหตุผลง่าย ๆ เริ่มพูดคุยด้วยคำสั้น ๆ เช่น แม่ พ่อ มีพัฒนาการทางด้านสังคม เช่น การแสดงความรัก การกอด การไว้วางใจพ่อแม่ การเล่นหรือพูดคุยกับเด็กจึงช่วยเสริมสร้างพัฒนาการด้านสังคมมากขึ้นได้

เด็กวัยหัดเดินหรือเด็กก่อนวัยเรียน

เด็กวัยหัดเดิน (อายุ 1-5 ปี) อัตรการพัฒนาทางร่างกายของเด็กวัยนี้อาจช้าลงเมื่อเทียบกับวัยทารก แต่พัฒนาการทางสติปัญญา อารมณ์และสังคมจะก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว

พัฒนาการทางร่างกาย

เด็กวัยหัดเดินอายุระหว่าง 1-2 ปี จะเติบโตอย่างรวดเร็ว อาจมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นประมาณ 2-4 กิโลกรัม และส่วนสูงอาจเพิ่มขึ้นประมาณ 8-12 เซนติเมตร จากนั้นอัตราการเติบโตจะช้าลงเมื่ออายุระหว่าง 2-5 ปี แต่ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ การทรงตัว และการประสานงานของกล้ามเนื้อมัดเล็กและมัดใหญ่จะพัฒนามากขึ้น เช่น การใช้มือและนิ้วหยิบสิ่งของ การเดิน การวิ่ง

พัฒนาการทางสติปัญญา อารมณ์ และสังคม

เด็กวัยหัดเดินในช่วงอายุ 1-2 ปี จะจดจำผู้คนและสิ่งของรอบตัว รวมถึงจดจำเหตุการณ์ล่าสุดได้ดี เด็กจะเริ่มเลียนแบบพฤติกรรมหรือการพูดของคนรอบข้าง มีจินตนาการมากขึ้น และเมื่ออายุ 2-5 ปี เด็กจะเริ่มมีทักษะทางความคิด ความเข้าใจ สามารถเรียนรู้ตัวอักษร ตัวเลข สีและสัญลักษณ์ได้มากขึ้น

พัฒนาการทางอารมณ์และสังคมของเด็กวัยนี้ยังคงต้องได้รับการสนับสนุนจากครอบครัว เด็กจะพัฒนาความสัมพันธ์และความรักกับคนในครอบครัว แต่ก็ต้องการความเป็นอิสระมากขึ้น เมื่อเข้าสู่อายุ 2-5 ปี เด็กมักเริ่มตัดสินใจด้วยตัวเอง ชอบทำอะไรด้วยตัวเอง รู้จักทำความเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของผู้อื่น เริ่มสร้างมิตรภาพกับเด็กคนอื่น และเริ่มรู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด เด็กจะเชื่อฟังกฎเกณฑ์จากพ่อแม่หรืออาจลองต่อต้านกฎเกณฑ์ และหากทำผิด เด็กจะเริ่มรู้สึกผิดกับการกระทำเหล่านั้นเริ่มเรียนรู้เหตุผลง่าย ๆ ได้

เด็กวัยเรียน

เด็กวัยเรียน (อายุ 6-12 ปี) ในช่วงวัยนี้พัฒนาการทางร่างกายจะเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดทั้งความสูง น้ำหนัก และรูปร่าง รวมถึงพัฒนาการทางสติปัญญา อารมณ์และสังคมด้วย เด็กจะเริ่มอยากเป็นจุดสนใจและต้องการเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มเพื่อนมากขึ้น

พัฒนาการทางร่างกาย

การเคลื่อนไหวร่างกายของเด็กวัยเรียนจะมั่นคงขึ้น และกล้ามเนื้อแข็งแรงมากขึ้น การประสานงานของกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะมือและตา ความสมดุลของร่างกาย และความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออาจแตกต่างกันแล้วแต่บุคคล ส่วนพัฒนาการด้านส่วนสูง น้ำหนัก และรูปร่างก็อาจขึ้นอยู่กับพันธุกรรม โภชนาการ การนอนหลับอย่างพอเพียง และการออกกำลังกายที่อาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเด็ก

เด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงบางคนอาจเริ่มมีพัฒนาการทางเพศเมื่ออายุประมาณ 10 ขวบ เช่น เต้านมขยาย มีขนรักแร้ ขนหัวหน่าว ขนหน้าอก อัณฑะและองคชาตใหญ่ขึ้น (หากเด็กหญิงมีหน้าอกก่อน 8 ขวบ, เด็กชายมีอัณฑะใหญ่ขึ้นก่อน 10 ขวบ แนะนำให้ปรึกษากุมารแพทย์เพิ่มเติม)

พัฒนาการทางสติปัญญา อารมณ์ และสังคม

เด็กวัยเรียนจะเรียนรู้ทางภาษาและจดจำคำได้มากขึ้น จึงควรสอนเด็กวันนี้ด้วยประโยคที่เรียบง่ายแต่รูปประโยคครบถ้วน ในแต่ละประโยคอาจมีคำประมาณ 5-7 คำ จะทำให้เด็กสามารถเรียนรู้และจดจำได้ดีขึ้น โดยใช้ภาษาตรงไปตรงมาอย่างสุภาพ เด็กวัยเรียนสามารถเรียนรู้หลักไวยากรณ์และการออกเสียงในประโยคที่ซับซ้อนได้มากขึ้นตามวัย การเปลี่ยนแปลงทางสติปัญญา อารมณ์และสังคมของเด็กนี้แต่ละคนอาจแตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่มีพัฒนาการ ดังนี้

เด็กอายุ 6-8 ปี อาจต้องการความเป็นอิสระจากพ่อแม่ เริ่มคิดถึงอนาคต อยากเป็นจุดสนใจ ให้ความสำคัญกับมิตรภาพ ต้องการการยอมรับจากผู้อื่น

เด็กอายุ 9-12 ปี เริ่มมีมิตรภาพและความสัมพันธ์กับเพื่อนฝูงที่ซับซ้อนมากขึ้น เริ่มรู้สึกกดดันจากคนรอบข้าง รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพร่างกายตัวเองเมื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ เช่น เต้านมขยาย มีขนขึ้น ให้ความสำคัญกับรูปร่างหน้าตามากขึ้น อยากเป็นอิสระจากครอบครัวมากขึ้น และให้ความสนใจกับสิ่งที่ตัวเองรู้สึกว่าสำคัญมากขึ้น

แนวทางการเลี้ยงเด็ก

การเลี้ยงเด็กแต่ละช่วงวัยอาจแตกต่างกัน ตามพัฒนาการด้านร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา แต่แนวทางการเลี้ยงเด็กดังต่อไปนี้อาจช่วยให้เด็กมีความสุข สุขภาพดี และมีการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่สมบูรณ์ตามวัย

  • แสดงความรัก ความอบอุ่น และความอ่อนโยนภายในครอบครัวอย่างสม่ำเสมอ เช่น การอุ้ม การกอด การบอกรักกันภายในครอบครัว ยินดีเมื่อเด็กทำดี เมื่อเด็กทำผิดก็ตักเตือนโดยไม่ใช้ความรุนแรง
  • ปลูกฝังให้แบ่งปันสิ่งของ หนังสือ ทำกิจกรรมร่วมกัน และพูดคุยกับเด็ก เพื่อให้เด็กมีส่วนร่วมและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีภายในครอบครัว
    • เด็กทารก เช่น พูดคุยกับทารกอยู่เสมอ อ่านหนังสือการ์ตูนง่าย ๆ เปิดเพลงให้ทารกฟัง
    • เด็กก่อนวัยเรียน เช่น ร่วมอ่านหนังสือนิทานที่มีจำนวนคำไม่มาก มีภาพประกอบ พูดคุยและเล่นของเล่นด้วยกัน
    • เด็กวัยเรียน เช่น แนะนำหนังสือที่เกี่ยวกับการเรียนมากขึ้น แต่ควรเลือกให้เหมาะกับระดับชั้นเรียนของเด็ก หรืออาจแนะนำหนังสือผ่อนคลายสมองบ้าง พร้อมทั้งแบ่งเวลาพูดคุยกันในครอบครัว อาจถามถึงปัญหาที่โรงเรียนหรือแลกเปลี่ยนความสนใจกับเด็ก เพื่อให้เด็กไม่รู้สึกโดดเดี่ยวและรู้สึกมีส่วนร่วมกับทุกคนในครอบครัว
  • ส่งเสริมสุขภาพและความปลอดภัยของเด็ก ทั้งโภชนาการ การออกกำลังกาย การนอนหลับอย่างพอเพียงมีประสิทธิภาพ ให้ความรู้เรื่องการใช้ชีวิตและความปลอดภัยในสังคม
    • เด็กทารก เช่น ไม่ควรวางสิ่งของที่ทารกสามารถหยิบเข้าปากได้ จนอาจเกิดทางเดินหายใจอุดกั้นในช่วง 6 เดือนแรก ควรให้ทารกกินนมแม่เป็นหลัก
    • เด็กก่อนวัยเรียน เช่น ส่งเสริมให้เด็กเล่นกับคนอื่น รู้จักแบ่งปัน และสร้างมิตรภาพ
    • เด็กวัยเรียน เช่น สอนให้เด็กรู้จักอันตรายบนท้องถนน การจราจร การดูแลร่างกายตนเอง ความสะอาด เช่น ล้างมือก่อนกินอาหาร
  • มีกิจวัตรประจำวันและกฎของบ้าน เพื่อฝึกให้เด็กมีระเบียบมากขึ้น
    • เด็กก่อนวัยเรียน ฝึกให้เด็กรู้จักกฎระเบียบ เช่น การดูโทรทัศน์เป็นเวลา เข้านอนให้เป็นเวลา เก็บของเล่นเข้าที่เมื่อเล่นเสร็จ
    • เด็กวัยเรียน อาจเพิ่มกฎระเบียบของบ้านที่ชัดเจนมากขึ้นตามวัย เช่น สามารถไปเล่นข้างนอกได้แต่ต้องกลับบ้านก่อน 6 โมงเย็น
  • สร้างวินัยให้เด็กอย่างเหมาะสม และไม่ใช้ความรุนแรง
    • เด็กก่อนวัยเรียน ฝึกให้เด็กมีส่วนร่วมในการทำงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น เก็บจานของตัวเอง เก็บถุงขนมไปทิ้งในถังขยะ เก็บของเล่นที่เล่นเสร็จแล้ว
    • เด็กวัยเรียน แบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบในบ้านอย่างชัดเจน ทั้งงานส่วนตัวและงานส่วนรวมของบ้าน เช่น ทำความสะอาดห้องนอน ช่วยดูแลผู้สูงอายุหรือดูแลน้องบ้างตามโอกาส ทำการบ้านเสร็จเรียบร้อยจึงจะได้เล่นตามที่ต้องการ เป็นต้น

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

Child Development Basics. https://www.cdc.gov/ncbddd/childdevelopment/facts.html. Accessed January 31, 2023.

Infants (0-1 year). https://www.cdc.gov/ncbddd/childdevelopment/positiveparenting/infants.html. Accessed January 31, 2023.

Your baby’s growth and development – first 12 months. https://www.pregnancybirthbaby.org.au/baby-development. Accessed January 31, 2023.

Toddlers (1-2 years). https://www.cdc.gov/ncbddd/childdevelopment/positiveparenting/toddlers.html. Accessed January 31, 2023.

Toddler ( 2 – 4 years). https://www.northshore.org/pediatrics/ages-and-milestones/toddler–2—4-years/. Accessed January 31, 2023.

School-age children development. https://www.mountsinai.org/health-library/special-topic/school-age-children-development. Accessed January 31, 2023.

Growth & Development: 6 to 12 Years (School Age). https://www.choc.org/primary-care/ages-stages/6-to-12-years/. Accessed January 31, 2023.

วัยเด็ก. https://www.saranukromthai.or.th/sub/book/book.php?book=8&chap=4&page=t8-4-detail.html. Accessed January 31, 2023.

เวอร์ชันปัจจุบัน

31/01/2023

เขียนโดย ทัตพร อิสสรโชติ

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย แพทย์หญิงอนงค์พร ผาภูมิ

อัปเดตโดย: Duangkamon Junnet


บทความที่เกี่ยวข้อง

เด็กพิเศษ สังเกตอย่างไร และการดูแลที่เหมาะสม

เด็กทารก กับโภชนาการที่เหมาะสมและปัญหาสุขภาพที่พบบ่อย


ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

แพทย์หญิงอนงค์พร ผาภูมิ

พ่อแม่เลี้ยงลูก · โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช (ศรีนครินทร์)


เขียนโดย ทัตพร อิสสรโชติ · แก้ไขล่าสุด 31/01/2023

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา