ซิงค์ซัลเฟต (Zinc sulfate) ใช้เพื่อรักษาและป้องกันภาวะขาดสังกะสี (zinc deficiency) แต่ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยานี้ พร้อมกับการรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมหรือฟอสฟอรัสสูง เนื่องจากอาจทำให้ร่างงกายดูดซึมยาซิงค์ซัลเฟตได้ยากขึ้น
ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group
ซิงค์ซัลเฟต (Zinc sulfate) ใช้เพื่อรักษาและป้องกันภาวะขาดสังกะสี (zinc deficiency) แต่ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยานี้ พร้อมกับการรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมหรือฟอสฟอรัสสูง เนื่องจากอาจทำให้ร่างงกายดูดซึมยาซิงค์ซัลเฟตได้ยากขึ้น
สังกะสี (Zinc) เป็นแร่ธาตุที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโต การพัฒนาและสุขภาพของเนื้อเยื่อของร่างกาย
ซิงค์ซัลเฟต (Zinc sulfate) ใช้เพื่อรักษาและป้องกันภาวะขาดสังกะสี (zinc deficiency)
ซิงค์ซัลเฟตยังอาจใช้เพื่อจุดประสงค์อื่นนอกเหนือจากคู่มือการใช้ยาได้อีกด้วย
ใช้ยาตามที่กำหนดบนฉลากยา หรือตามที่แพทย์กำหนดอย่างเคร่งครัด อย่าใช้ยาในขนาดที่มากกว่า น้อยกว่า หรือนานกว่าที่แนะนำ
รับประทานยาซิงค์ซัลเฟตพร้อมกับดื่มน้ำเต็มแก้ว
รับประทานยาซิงค์ซัลเฟตพร้อมกับอาหาร หากคุณมีอาการท้องไส้ปั่นป่วน
ยาซิงค์ซัลเฟตควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง ให้พ้นแสงและความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเสื่อมสภาพ ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาซิงค์ซัลเฟตบางยี่ห้ออาจมีวิธีเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรอ่านคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์หรือสอบถามเภสัชกรเสมอ และโปรดเก็บยาให้พ้นจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยงเพื่อความปลอดภัย
ไม่ควรทิ้งยาซิงค์ซัลเฟตลงในชักโครก หรือเทยาลงในท่อระบายน้ำ เว้นเสียแต่จะได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น หากยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้ยา ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้อง โดยสามารถสอบถามข้อมูลวิธีกำจัดยาที่ถูกต้องได้จากเภสัชกร
ก่อนใช้ยานี้ แจ้งให้แพทย์ทราบหาก
หลีกเลี่ยงการใช้ยานี้ พร้อมกับการรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมหรือฟอสฟอรัสสูง เนื่องจากอาจทำให้ร่างงกายดูดซึมยาซิงค์ซัลเฟตได้ยากขึ้น อาหารที่มีแคลเซียมหรือฟอสฟอรัสสูงได้แก่ นม ชีส โยเกิร์ต ถั่วฝักหรือถั่วฝักเมล็ดกลมแบบแห้ง (dried beans or peas) ถั่วเมล็ดแบน (lentils) ถั่วเปลือกแข็ง (nuts) เนยถั่ว เบียร์ น้ำอัดลมโคล่า และโกโก้ร้อน
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้
ยาคาร์ทีโอลอลจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ ประเภท C โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
รับการรักษาพยาบาลฉุกเฉินทันที หากคุณมีสัญญาณของอาการแพ้ ได้แก่ ลมพิษ หายใจติดขัด บวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือลำคอ
ผลข้างเคียงที่รุนแรงน้อยกว่า ได้แก่ คลื่นไส้ ท้องไส้ปั่นป่วน
ผลข้างเคียงที่กล่าวมาข้างต้น อาจไม่ได้เกิดกับทุกคน หรือบางคนอาจมีอาการอื่นนอกเหนือจากนี้ หากคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร
ยาซิงค์ซัลเฟตอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ และอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น
คุณควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรด้วยว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง สมุนไพร เป็นต้น และเพื่อความปลอดภัย คุณไม่ควรเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาเองโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ยาซิงค์ซัลเฟตอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ยาซิงค์ซัลเฟตอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งสภาวะโรคของคุณให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบก่อนใช้ยาเสมอ
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อเป็นอาหารเสริม
ปริมาณสารอาหารที่ควรได้รับในแต่ละวัน (Recommended Dietary Allowance) (RDA) ของธาตุสังกะสีมีดังนี้
อายุ 19 ปีขึ้นไป
ยาซิงค์ซัลเฟตแบบฉีดเข้าหลอดเลือดดำ
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อเป็นอาหารเสริม
ปริมาณสารอาหารที่ควรได้รับในแต่ละวันของธาตุสังกะสีมีดังนี้
อายุ 0 ถึง 6 เดือน
อายุ 7 ถึง 12 เดือน
อายุ 1 ถึง 3 ปี
อายุ 4 ถึง 8 ปี
อายุ 9 ถึง 13 ปี
อายุ 14 ถึง 18 ปี
ยาซิงค์ซัลเฟตแบบฉีดเข้าหลอดเลือดดำ
ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านทันที
หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย