ธาตุเหล็ก (Iron) เป็นแร่ธาตุชนิดหนึ่ง ที่พบได้ในฮีโมโกลบินของเซลล์เม็ดเลือดแดง และในไมโอโกลบินของเซลล์กล้ามเนื้อ ธาตุเหล็กมีความสำคัญในการป้องกันและรักษาภาวะขาดธาตุเหล็ก (Iron deficiency) ที่ส่งผลให้เกิดโรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ
ธาตุเหล็ก (Iron) เป็นแร่ธาตุชนิดหนึ่ง ที่พบได้ในฮีโมโกลบินของเซลล์เม็ดเลือดแดง และในไมโอโกลบินของเซลล์กล้ามเนื้อ ธาตุเหล็กมีความสำคัญในการป้องกันและรักษาภาวะขาดธาตุเหล็ก (Iron deficiency) ที่ส่งผลให้เกิดโรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก
ธาตุเหล็ก (Iron) เป็นแร่ธาตุชนิดหนึ่ง พบในฮีโมโกลบินของเซลล์เม็ดเลือดแดง และในไมโอโกลบินของเซลล์กล้ามเนื้อ ธาตุเหล็กเป็นสิ่งจำเป็นในการลำเลียงออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ ธาตุเหล็กยังมีหน้าที่สำคัญอื่น ๆ ในร่างกายเช่นกัน คนเรารับประทานอาหารเสริมธาตุเหล็ก เพื่อป้องกันและรักษาภาวะขาดธาตุเหล็ก (Iron deficiency) ที่ส่งผลให้เกิดโรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก โดยมีประโยชน์ ดังนี้
ไม่มีข้อมูลทางการศึกษาเพียงพอเกี่ยวกับการใช้อาหารเสริมสมุนไพรนี้ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามมีรายงานการศึกษาค้นคว้าว่า ธาตุเหล็กใช้รักษาภาวะขาดธาตุเหล็ก
ปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษาหรือเภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร ในกรณีที่
ข้อปฏิบัติในการใช้สมุนไพรนั้นมีความเข้มงวดที่น้อยกว่าการใช้ยารักษาโรค จำเป็นต้องมีการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม เพื่อรับรองความปลอดภัย ซึ่งการจะใช้ประโยชน์ของสมุนไพรนั้นต้องศึกษาความเสี่ยงก่อนใช้และควรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับแพทย์ผู้ดูแลหรือนักสมุนไพรศาสตร์ก่อนใช้สมุนไพรนั้น
ไม่มีข้อมูลที่เชื่อถือได้เพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยในการรับประทานธาตุเหล็กในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เพื่อความปลอดภัย ควรหลีกเลี่ยงการใช้
ธาตุเหล็กสามารถก่อให้เกิดผลข้างเคียง ได้แก่ ท้องไส้ปั่นป่วน อาการปวด ท้องร่วงหรือท้องเสีย คลื่นไส้และอาเจียน
ไม่ใช่ทุกคนจะพบผลข้างเคียงเหล่านี้ อาจมีผลข้างเคียงบางอาการที่ไม่มีอยู่ด้านบน หากคุณมีความกังวลใด ๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรของคุณ
ธาตุเหล็กอาจเกิดปฏิกิริยากับยาและอาการทางการแพทย์ที่คุณมีอยู่ ปรึกษากับแพทย์ของคุณก่อนใช้
ยาที่อาจเกิดปฏิกิริยากับธาตุเหล็ก ได้แก่
ธาตุเหล็กอาจลดขนาดของยาปฏิชีวนะที่ร่างกายดูดซึม การรับประทานธาตุเหล็กร่วมกับยาปฏิชีวนะบางชนิด อาจลดประสิทธิภาพของยาปฏิชีวนะบางชนิดได้ เพื่อหลีกเลี่ยงปฏิกิริยานี้ รับประทานธาตุเหล็ก 2 ชั่วโมง ก่อนหรือหลังรับประทานยาปฏิชีวนะ
ยาปฏิชีวนะบางชนิดที่อาจทำปฏิกิริยากับยาเควียเซติน ได้แก่ ยาซิโพรฟลอคซาซิน (Ciprofloxacin) ยาอีนอคซาซิน (Enoxacin) ยานอร์ฟลอคซาซิน (Norfloxacin) ยาสพาร์ฟลอคซาซิน (Sparfloxacin) ยาโทรวาฟลอคซาซิน (Trovafloxacin) และยาเกรพาฟลอคซาซิน (Grepafloxacin)
ธาตุเหล็กอาจลดขนาดของยากลุ่มบีสฟอสโฟรเนตที่ร่างกายดูดซึม การรับประทานธาตุเหล็กร่วมกับยากลุ่มบีสฟอสโฟรเนต อาจลดประสิทธิภาพของยากลุ่มบีสฟอสโฟรเนต เพื่อป้องกันปฏิกิริยานี้ รับประทานธาตุเหล็กอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ก่อนหรือหลังรับประทานยาไบสฟอสโฟรเนตระหว่างวัน
ยาไบสฟอสโฟรเนตบางชนิด ได้แก่ ยาอะเลนโดรเนต (Alendronate) ยาอีทิโดรเนต (Etidronate) ยาริเซโดรเนต (Risedronate) ยาทิลูโดรเนต (Tiludronate) และอื่นๆ
ธาตุเหล็ก อาจลดขนาดของยาเลโวโดพาที่ร่างกายดูดซึม การรับประทานธาตุเหล็กร่วมกับยาเลโวโดพา อาจลดประสิทธิภาพของยาเลโวโดพา อย่ารับประทานธาตุเหล็กพร้อมกันกับยาเลโวโดพา
ยาเลโวไทโรซีน ถูกใช้เพื่อลดประสิทธิภาพการทำงานของต่อมไทรอยด์ ธาตุเหล็ก อาจลดขนาดของยาเลโวไทโรซีนที่ร่างกายดูดซึม การรับประทานธาตุเหล็กร่วมกับยาเลโวไทโรซีน อาจลดประสิทธิภาพของยาเลโวไทโรซีน
ยาบางชนิดที่มีส่วนผสมของยาเลโวไทโรซีน ได้แก่ ยาอาร์มอร์ ไทรอยด์ (Armour Thyroid) ยาอัลโทรซิน (Eltroxin) ยาเอสเทร (Estre) ยายูไทรอซ (Euthyrox) ยาเลโว ที (Levo-T) ยาเลโวทรอยด์ (Levothroid) ยาเลโวซิล (Levoxyl) ยาซินทรอยด์ (Synthroid) ยายูนิทรอยด์ (Unithroid) และอื่นๆ
ธาตุเหล็กอาจลดขนาดของยาเมทิลโดพาที่ร่างกายดูดซึม การรับประทานธาตุเหล็กร่วมกับยาเมทิลโดพา อาจลดประสิทธิภาพของยาเมทิลโดพา เพื่อป้องกันปฏิกิริยานี้ รับประทานธาตุเหล็กอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ก่อนหรือหลังรับประทานยาเมทิลโดพา
ธาตุเหล็กอาจลดขนาดของยาไมโคฟีโนเลต โมเฟทิลที่ร่างกายดูดซึม การรับประทานธาตุเหล็กร่วมกับยาไมโคฟีโนเลต โมเฟทิล อาจลดประสิทธิภาพของยาไมโคฟีโนเลต โมเฟทิล เพื่อหลีกเลี่ยงปฏิกิริยานี้ รับประทานธาตุเหล็กอย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนหรือหลังรับประทานยาไมโคฟีโนเลต โมเฟทิล
ยาเพนนิซิลลามีนใช้รักษาโรควิลสันและข้ออักเสบรูมาตอยด์ ธาตุเหล็กอาจลดขนาดของยาเพนนิซิลลามีนที่ร่างกายดูดซึม และลดประสิทธิภาพของยาเพนนิซิลลามีน เพื่อหลีกเลี่ยงปฏิกิริยานี้ รับประทานธาตุเหล็ก 2 ชั่วโมงก่อนหรือหลังรับประทานยาเพนนิซิลลามีน
ธาตุเหล็กมีความสำคัญในการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงใหม่ขึ้นมา ยาคลอแรมฟีนิคอล อาจไปลดการผลิตเซลล์ขึ้นมาใหม่ การรับประทานยาคลอแรมฟีนิคอลเป็นเวลานาน อาจไปลดผลกระทบของธาตุเหล็กต่อการผลิตเซลล์เม็ดเลือดมาใหม่ แต่หลายคนรับประทานยาคลอแรมฟีนิคอลในช่วงเวลาสั้น ๆ ดังนั้น ปฏิกิริยาต่อยาตัวนี้จึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งก่อนใช้ยานี้
ทางปาก
เพื่อป้องกันภาวะขาดแคลนธาตุเหล็กในเด็ก สถาบันกุมารเวชศาสตร์แห่งอเมริกา (the American Academy of Pediatrics) แนะนำอาหารเสริมธาตุเหล็กสำหรับบางกลุ่มดังนี้
เพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรู้และการคิดในวัยรุ่นที่มีภาวะขาดธาตุเหล็ก
สำหรับอาการไอที่เกิดจากยาลดความดันโลหิตกลุ่ม ACE inhibitors
ปริมาณสารอาหารที่เพียงพอในแต่ละวัน (AI) ของธาตุเหล็ก
สำหรับเด็กทารกที่อายุมากกว่านั้นและเด็กเล็ก ปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้รับในแต่ละวัน (RDAs) สำหรับธาตุเหล็ก คือ
สำหรับผู้ใหญ่ ปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้รับในแต่ละวัน (RDAs) สำหรับธาตุเหล็ก คือ
สำหรับผู้หญิงให้นมบุตร
ปริมาณสูงสุดของสารอาหารที่สามารถรับได้ในแต่ละวัน (UL) ที่คาดว่าจะไม่เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ใดๆ คือ
มีอาหารเสริมธาตุเหล็กหลายรูปแบบ ที่มีส่วนผสมของธาตุเหล็กในระดับที่แตกต่างกันไป
ปริมาณการใช้ธาตุเหล็ก อาจแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละบุคคล โดยขึ้นอยู่กับอายุ สุขภาพและปัจจัยอื่น ๆ การใช้ยาสมุนไพรนั้นอาจไม่ได้มีความปลอดภัยเสมอ จึงควรปรึกษานักสมุนไพรศาสตร์หรือแพทย์ในเรื่องปริมาณที่เหมาะสม
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย
ทีม Hello คุณหมอ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย