การเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นเป็นสัญชาตญาณพื้นฐานของมนุษย์ โดยเกี่ยวข้องกับความรู้สึกปลอดภัยและความกลัว มนุษย์ในยุคหินนั้นคนที่อ่อนแอ ไร้ความสามารถ จะถูกขับไล่ออกจากกลุ่ม กลไกการทำงานของสมองจึงต้องเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นเพื่อให้ตนเองพัฒนาขึ้น จะได้อยู่รอดในกลุ่มและมีชีวิตที่ปลอดภัย ซึ่งสมองของมนุษย์ในยุคปัจจุบันไม่ได้แตกต่างจากสมองของมนุษย์ยุคหิน ดังนั้นการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นจึงเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่เนื่องจากในปัจจุบันผู้คนรับรู้ข่าวสาร รับรู้เรื่องราวผ่านทางโซเชียลมีเดียจำนวนมาก จึงอาจเกิดการเปรียบเทียบกับคนอื่นหลายคน จนเกิดอาการจิตตกเมื่อพบว่าตัวเองไม่มีดีเท่าคนอื่น
ทำอย่างไรไม่ให้ จิตตก
1. เปรียบเทียบตัวเองกับ ‘ตัวเองเมื่อวาน’
หนังสือ 12 Rules for Life ของจอร์เดน ปีเตอร์สัน ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับกฎการใช้ชีวิต 12 ข้อ โดยหนึ่งในนั้นคือ เปรียบเทียบตัวเองกับเมื่อวาน อย่าเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น เพราะการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นนั้นไม่สิ้นสุด ตัวอย่างเช่น อยากรวยแบบคนอื่น แต่เมื่อไปถึงจุดที่เราคิดว่ารวยแล้วก็จะมีคนที่รวยกว่า หรือเราอยากเก่งขึ้น เมื่อถึงวันที่เราพัฒนาไปถึงจุดที่เราคิดว่าเก่งแล้ว ก็จะพบว่ามีคนที่เก่งกว่าอีก ดังนั้นการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นจึงไม่มีที่สิ้นสุด สิ่งที่ควรทำคือการเปรียบเทียบตัวเองกับตัวเองในเมื่อวาน หากวันนี้เราทำดีขึ้นกว่าเมื่อวาน หรือเราเก่งขึ้นกว่าเมื่อวาน นั่นถือว่าเราทำสำเร็จแล้ว การเปรียบเทียบตัวเองกับตัวเองในอดีตนอกจากจะทำให้เราพัฒนาขึ้นยังทำให้สุขภาพจิตของเราดีขึ้นด้วย เพราะไม่ว่าคนในโซเชียลมีเดียจะมีชีวิตที่ดีจนน่าอิจฉาขนาดไหนก็แทบจะไม่มีผลกระทบอะไรกับเราเลย
2. ระวังคำพูดที่พูดกับตัวเอง
คำพูดสะท้อนความคิด การพูดนั้นมีทั้งการพูดแบบเปล่งเสียงออกมาและการพูดในใจ สิ่งที่ต้องระวังคือคำพูดที่เราใช้กับตัวเอง หลายครั้งที่การเล่นโซเชียลมีเดียทำให้เราไม่พอใจในตัวเอง บางคนอาจรู้สึกว่าเราอ้วนเกินไป เราดูแย่ เราไม่เก่งเหมือนคนอื่น จนทำให้เผลอก่นด่าตัวเองในใจว่า อ้วน ขาใหญ่ ทำไมห่วยขนาดนี้ แย่ และอีกมากมาย หากใครที่กำลังจิตตกจนด่าตัวเองอยู่ควรต้องหยุด ตั้งสติ ให้คิดเสียใหม่ว่า ‘ถ้าเราไม่คิดจะใช้คำพูดแย่ๆ แบบนี้กับเพื่อนคนไหน เราก็ต้องไม่พูดกับตัวเองแบบนี้เหมือนกัน’ คำพูดแย่ๆ คำด่าที่แม้แต่ตัวเราเองยังไม่กล้าว่าคนอื่น ก็ต้องไม่กล่าวคำเหล่านั้นกับตัวเอง เพียงมีสติและระวังคำพูดที่ใช้กับตัวเอง แค่นี้ก็ทำให้เราไม่จิตตกไปกับความไม่พอใจในตัวเองแล้ว
3. ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ
“ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ” ประโยคนี้เป็นเรื่องจริงเสมอ ทุกคนต่างก็มีเรื่องดีๆ และเรื่องแย่ๆ ในชีวิตด้วยกันทั้งนั้น ถึงแม้ว่าสังคมในโซเชียลมีเดียผู้คนต่างมีชีวิตที่ดี เช่น สุขภาพดี มีเงิน มีเวลา แต่ว่าในโลกแห่งความจริงนั้นไม่ว่าใครก็มีเรื่องไม่สบายเป็นของตัวเอง ความทุกข์และความสุขเป็นของคู่กัน ดังนั้นเวลาที่รู้สึกจิตตกเนื่องจากรู้สึกไม่พอใจในตัวเอง รู้สึกอิจฉาคนอื่นที่เขามีชีวิตที่ดีมากๆ ก็ให้คิดไว้เสมอว่า ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ทุกคนมีปัญหาด้วยกันทั้งนั้น แต่เขาเลือกที่จะนำเสนอแต่เรื่องดีๆ ผ่านโซเชียลมีเดียเท่านั้นเอง
วิธีแก้อาการจิตตกที่ได้แนะนำไปนั้น นอกจากจะช่วยให้เล่นโซเชียลมีเดียได้โดยไม่ทำให้เสียสุขภาพจิตแล้ว ยังสามารถนำไปใช้กับด้านอื่นๆ ในชีวิตเพื่อจะได้ไม่จิตตก ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพจิตที่ดีและทำให้มีความสุขกับชีวิตในทุกวัน
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย