backup og meta
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ

1

ถามคุณหมอ
บันทึก
สารบัญ

คันอวัยวะเพศหญิงภายนอก อาการ สาเหตุ และการรักษา

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย Duangkamon Junnet


เขียนโดย ทีม Hello คุณหมอ · แก้ไขล่าสุด 18/01/2024

คันอวัยวะเพศหญิงภายนอก อาการ สาเหตุ และการรักษา

คันอวัยวะเพศหญิงภายนอก เป็นอาการระคายเคืองที่เกิดขึ้นบนผิวหนังอวัยวะเพศหรือบริเวณโดยรอบ บางครั้งอาการคันอาจมาพร้อมกับผื่นแดง อาจมีสาเหตุจากการติดเชื้อ ผิวหนังอักเสบ เนื้องอก โรคปลายประสาทอักเสบ หรือการตั้งครรภ์ การดูแลและการรักษาอย่างเหมาะสมอาจช่วยบรรเทาอาการคันที่อาจเกิดขึ้นได้

คำจำกัดความ

คันอวัยวะเพศหญิงภายนอกคืออะไร

อาการคันอวัยวะเพศหญิงภายนอก คือ อาการระคายเคืองบริเวณผิวภายนอกอวัยวะเพศ ทำให้รู้สึกไม่สบายที่อวัยวะเพศหรือบริเวณอื่น ๆ โดยรอบ ได้แก่ หัวหน่าว แคมใหญ่  แคมเล็ก ฝีเย็บ หรือเนื้อเยื่อระหว่างช่องคลอดและทวารหนัก และคลิตอริสหรือปุ่มกระสัน

อาการคันสามารถเกิดขึ้นได้ทั่วไป และอาจไม่มีอันตรายอะไร แต่ถ้าอาการคันนั้นรบกวนการใช้ชีวิต หรือเกิดขึ้นอย่างเรื้อรังอาจเกิดจากปัญหาผิวหนัง เช่น กลาก โรคสะเก็ดเงิน การระคายเคืองจากเสื้อผ้า การติดเชื้อแบคทีเรีย

อาการ

อาการคันอวัยวะเพศหญิงภายนอก

อาการคันอวัยวะเพศหญิงอาจมาพร้อมกับอาการผื่นแดง ซึ่งไม่ได้หมายถึงปัญหาสุขภาพเสมอไป แต่หากมีอาการคันอย่างต่อเนื่องตามตำแหน่งต่าง ๆ ของอวัยวะเพศ ก็อาจเป็นสัญญาณของโรคได้ ดังนี้

  • อาการคันบริเวณต้นขา อาจหมายถึงการระคายเคืองจากผิวหนังอักเสบจากพฤติกรรมกลั้นปัสสาวะนาน ๆ
  • อาการคันบริเวณขาหนีบ อาจหมายถึงโรคผิวหนังอักเสบ  อาการผื่นจากเชื้อรา
  • อาการคันบริเวณหัวหน่าว อาจหมายถึงโรคผิวหนังอักเสบ รูขุมขนอักเสบ
  • อาการคันบริเวณแคมใหญ่ อาจหมายถึงโรคสะเก็ดเงินที่อวัยวะเพศ โรคผิวหนังภูมิแพ้ โรคผิวหนังอักเสบเรื้อรัง (Lichen simplex)
  • อาการคันบริเวณแคมเล็ก อาจหมายถึงโรคไลเคนพลานัส (Lichen Planus) หรือโรคไลเคนสเคลโรซัส (Lichen Sclerosus)
  • อาการคันบริเวณช่องคลอด อาจหมายถึงโรคไลเคนพลานัส การตกขาว หรือการติดเชื้อ
  • อาการคันบริเวณฝีเย็บ อาจหมายถึงโรคผิวหนังอักเสบ หรือโรคไลเคนสเคลโรซัส

สาเหตุ

สาเหตุของอาการคันอวัยวะเพศหญิงภายนอก

อาการคันอวัยวะเพศหญิงภายนอกอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้

ผิวหนังอักเสบ

ผิวหนังอักเสบจากความระคายเคืองเป็นสาเหตุที่พบบ่อยของอาการคันอวัยวะเพศหญิงภายนอก ซึ่งอาจเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันหรือเรื้อรัง จากหลายสาเหตุ ดังนี้

ความระคายเคืองจากโรคผิวหนังอักเสบหรือความผิดปกติของร่างกาย เช่น โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง โรคสะเก็ดเงิน ลมพิษ ภูมิแพ้ รูขุมขนอักเสบ โรคไลเคนพลานัส

อาการคันจากความระคายเคืองอื่น ๆ เช่น

  • การให้นมบุตรหรือวัยหมดประจำเดือนที่ทำให้ร่างกายขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน ส่งผลให้ผิวหนังขาดความชุ่มชื้น แห้ง ลอกเป็นขุย และมีอาการคัน
  • การเกาผิวหนังบ่อยครั้ง
  • ความอับชื้น และการเสียดสีระหว่างผิวหนังกับผิวหนัง เสื้อผ้า หรือการมีเพศสัมพันธ์
  • ความระคายเคืองจากสิ่งสกปรกในอุจจาระหรือปัสสาวะ
  • ความระคายเคืองจากการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีฤทธิ์แรงเกินไป
  • ความระคายเคืองเมื่อมีสารคัดหลั่งในช่องคลอดที่มากเกินไป
  • สารก่อภูมิแพ้ทำให้ผิวหนังปากช่องคลอดอักเสบ และมีอาการคัน เช่น สีย้อมผ้า น้ำหอม สเปรย์ระงับเหงื่อ สารในถุงยางอนามัยหรือถ้วยอนามัย ผ้าอนามัยแบบสอด

การติดเชื้อ

อาการคันอวัยวะเพศหญิงภายนอก อาจเกิดจากการติดเชื้อแคนดิดา (Candida albicans) ซึ่งเป็นเชื้อราที่อาจทำให้เกิดอาการคัน มักพบในผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ที่รับฮอร์โมนเอสโตรเจนทดแทน หรือผู้ที่กำลังใช้ยาปฏิชีวนะ แต่พบน้อยในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน หรืออาจเป็นผลสืบเนื่องจากโรคผิวหนังบริเวณอื่น นอกจากนี้ อาการคันอวัยวะเพศภายนอกอาจเกิดจากการติดเชื้ออื่น ๆ ดังนี้

  • ภาวะช่องคลอดอักเสบจากแบคทีเรีย ทำให้ตกขาวเป็นฟอง มีกลิ่นเหม็น อาการคัน
  • หูดหงอนไก่ เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ลักษณะเป็นตุ่มอ่อนนุ่มอยู่บริเวณอวัยวะเพศ รู้สึกเจ็บ ไม่สบายตัว และมีอาการคัน
  • พยาธิเข็มหมุด เป็นพยาธิที่อาศัยอยู่ในช่องคลอดหรือทวารหนัก และทำให้เกิดอาการคันในเวลากลางคืน

เนื้องอก

เนื้องอกที่เกิดขึ้นบริเวณช่องคลอดในระยะแรกมักไม่แสดงอาการ และอาจทำให้มีอาการคันได้ ดังนี้

  • โรคมะเร็งปากช่องคลอด
  • โรค Extramammary Paget เป็นมะเร็งปากช่องคลอดชนิดหนึ่ง ที่อาจเริ่มต้นจากเนื้องอกบริเวณผิวช่องคลอด

โรคระบบประสาทส่วนปลายอักเสบ

อาการคันอวัยวะเพศหญิงภายนอกอาจเกิดจากปัญหาของระบบประสาทส่วนปลาย เช่น การบาดเจ็บ การผ่าตัด การกดทับเส้นประสาทอวัยวะเพศภายในกระดูกเชิงกรานหรือในกระดูกสันหลัง ซึ่งอาจส่งผลต่อเส้นประสาท ทำให้เกิดอาการคันได้

การตั้งครรภ์

ในขณะตั้งครรภ์อาจเกิดอาการคันอวัยวะเพศได้ เนื่องจากเส้นเลือดในช่องคลอดบวมขึ้น นอกจากนี้ อาการตกขาวในคนท้องและการติดเชื้อราระหว่างตั้งครรภ์ก็อาจเป็นสาเหตุของอาการคันได้เช่นกัน

ปัจจัยเสี่ยง

ปัจจัยเสี่ยงคันอวัยวะเพศหญิงภายนอก

ปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดอาการคันอวัยวะเพศหญิงภายนอก มีดังนี้

  • การติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา หรือไวรัส
  • ความระคายเคืองการเสียดสีของเสื้อผ้า หรือผิวหนัง
  • ปัญหาผิวหนัง เช่น โรคสะเก็ดเงิน กลาก
  • โรคบางชนิด เช่น โรคมะเร็งปากมดลูก โรคระบบประสาทส่วนปลาย
  • การตั้งครรภ์

การวินิจฉัยและการรักษา

ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาคุณหมอทุกครั้งเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

การวินิจฉัยคันอวัยวะเพศหญิงภายนอก

การวินิจฉัยอาการคันอวัยวะเพศหญิงภายนอก คุณหมออาจสอบถามประวัติสุขภาพและประวัติอาการคันที่เกิดขึ้น และคุณหมออาจตรวจช่องคลอดและบริเวณอวัยวะเพศเพื่อหาสาเหตุเพิ่มเติม ดังนี้

  • ตรวจหาเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และเชื้อไวรัสในบริเวณที่มีอาการคัน
  • เก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อผิวหนังไปทำการทดสอบเพื่อหาสาเหตุของอาการคัน

การรักษาคันอวัยวะเพศหญิงภายนอก

การรักษาอาการคันอวัยวะเพศหญิงภายนอกจะมุ่งเน้นไปที่การรักษาสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการคัน ดังนี้

  • การติดเชื้อ การใช้ยาต้านเชื้อราหรือยาปฏิชีวนะ
  • โรคผิวหนังอักเสบ  ใช้สเตียรอยด์เฉพาะที่หรือสารยับยั้งแคลซินูริน (Calcineurin inhibitors) รักษาอาการคัน และการระคายเคือง
  • อาการลมพิษ ใช้ยาแก้แพ้ชนิดรับประทาน
  • การผ่าตัดเนื้องอก
  • อาการทางระบบประสาท ใช้ยากล่อมประสาท ยากันชัก ยาแก้ซึมเศร้า (Serotonin reuptake agents)

การรักษาเพื่อบรรเทาอาการคันแบบไม่เฉพาะเจาะจงสาเหตุ มีดังนี้

  • หลีกเลี่ยงการเกาหรือขัดถูบริเวณที่มีอาการคัน
  • สวมกางเกงในและกางเกงที่ไม่คับแน่นเกินไป ระบายอากาศได้ดี
  • ปล่อยให้อวัยวะเพศระบายอากาศบ้าง โดยเฉพาะตอนนอน อาจไม่จำเป็นต้องสวมกางเกงในเพื่อลดความอับชื้น
  • ใช้สารให้ความชุ่มชื้นและกักเก็บความชุ่มชื้นที่ผิวหนัง เช่น ซอร์โบลีน (Sorbolene) ปิโตรเลียมเจลลี่ (Petroleum jelly)

การปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการดูแลตัวเอง

การปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการดูแลตัวเองเพื่อจัดการกับอาการคันอวัยวะเพศหญิงภายนอก

ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดูแลอวัยวะเพศเพื่อลดอาการคันอวัยวะเพศหญิงภายนอก มีดังนี้

  • ล้างทำความสะอาดอวัยวะเพศวันละ 1-2 ครั้งขณะอาบน้ำ ด้วยน้ำสะอาด หรืออาจใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเฉพาะบริเวณอวัยวะเพศสูตรอ่อนโยน
  • เช็ดอวัยวะเพศให้แห้งทุกครั้งโดยเฉพาะหลังอาบน้ำ และหลังเข้าห้องน้ำ
  • หลีกเลี่ยงการสวนล้างช่องคลอด การใช้ทิชชู่เปียก สารระงับเหงื่อ หรือเครื่องสำอางอื่น ๆ ทาบริเวณอวัยวะเพศเพราะอาจระคายเคืองได้
  • หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าอนามัยแบบสอดเพราะอาจทำให้เกิดอาการระคายเคือง หรือติดเชื้อที่อวัยวะเพศได้
  • เปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยครั้งเพื่อลดการสะสมของแบคทีเรีย และเปลี่ยนกางเกงในเป็นประจำทุกวัน เพื่อลดการอับชื้นที่อาจทำให้เกิดอาการคัน
  • มีเพศสัมพันธ์โดยป้องกันทุกครั้ง

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

Duangkamon Junnet


เขียนโดย ทีม Hello คุณหมอ · แก้ไขล่าสุด 18/01/2024

advertisement iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา