โปรดปรึกษากับคุณหมอสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
การวินิจฉัยและการรักษาโรค
ข้อมูลที่นำเสนอไม่สามารถใช้แทนข้อแนะนำทางการแพทย์ได้ โปรดปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
การวินิจฉัย breast lump
คุณหมอจะให้นั่งหรือนอนราบลง และตรวจเต้านมเพื่อหาลักษณะที่ผิดปกติ เช่น หัวนมที่บุ๋มเข้าไปด้านใน หัวนมบอด มีก้อนเนื้อบริเวณเต้านม นอกจากนี้ คุณหมอยังอาจตรวจหารอยบุ๋ม ผิวที่หนาขึ้น รอยปื้นแดง หรือผิวรอบหน้าอกที่ตึงขึ้น รวมถึงบีบหัวนมเพื่อดูว่ามีสารคัดหลั่งหรือไม่ และตรวจที่รักแร้เพื่อดูว่าต่อมน้ำเหลืองโตหรือไม่
คุณหมออาจตรวจเต้านมและรักแร้ โดยให้เปลี่ยนท่าไปมา เช่น นั่ง กดมือทั้ง 2 ข้างที่บริเวณหน้าผาก ซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้อทรวงอกหดเกร็ง และอาจมองเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เต้านมได้ชัดขึ้น
คุณหมออาจให้คุณทบทวนเทคนิคการตรวจเต้านมด้วยตัวเอง ขณะที่กำลังตรวจ โดยเทคนิคการตรวจเต้านมด้วยตนเองและที่แพทย์ตรวจให้นั้นคล้าย ๆ กัน ดังนี้
การตรวจด้วยการถ่ายภาพ
- ตรวจหาความผิดปกติของเต้านม ก่อนที่จะเป็นที่สังเกต เรียกว่า การสแกนหามะเร็งเต้านม
- ประเมินค่าความผิดปกติที่บ่งชี้ได้แล้ว เช่น ก้อนในเต้านม ที่พบขณะที่คุณหมอกำลังตรวจร่างกาย
การตรวจเต้านมด้วยเครื่องแมมโมแกรม (Mammography)
เป็นการการเอ็กซเรย์ที่เต้านมทั้ง 2 ข้างเพื่อหาความผิดปกติ โดยใช้การฉายรังสีในปริมาณน้อย ความผิดปกติที่ตรวจได้ด้วยเครื่องแมมโมแกรม ราว 10%-15% เป็นผลมาจากโรคมะเร็ง
นอกจากนี้ การตรวจด้วยเครื่องแมมโมแกรมในผู้หญิงสูงอายุมักจะถูกต้องกว่า เนื่องจากเมื่อผู้หญิงมีอายุมากขึ้นปริมาณของเนื้อเยื่อไขมันจะเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจทำให้แยกเนื้อเยื่อที่ผิดปกติ ออกจากเนื้อเยื่อไขมันได้ง่ายกว่าเนื้อเยื่อในเต้านมแบบอื่น
การทำอัลตร้าซาวด์
การทำอัลตร้าซาวด์อาจช่วยให้ข้อมูลความผิดปกติได้มากกว่าการตรวจด้วยเครื่องแมมโมแกรม เช่น อัลตราซานด์สามารถบอกได้ว่าก้อนเนื้อเป็นก้อนแข็งหรือว่ามีของเหลว โดยก้อนเนื้อเป็นก้อนแข็ง หรือซีสต์มักไม่ค่อยกลายเป็นมะเร็ง การทำอัลตราซาวด์ยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณหมอนำเข็มเข้าไปเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อที่ผิดปกติได้ด้วย
การสร้างภาพด้วยเรโซแนนซ์แม่เหล็ก (MRI)
สามารถทำพร้อม ๆ กับการตรวจด้วยเครื่องแมมโมแกรม เพื่อสแกนหาความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง เช่น หากมีการกลายพันธ์ุของยีนส์สำหรับมะเร็งเต้านม (BRCA Gene) หลังจากการวินิจฉัยโรคมะเร้งเต้านม มักใช้การสแกนเอ็มอาร์ไอเพื่อระบุต่อมน้ำเหลืองที่ผิดปกติและบ่งชี้ขนาดและปริมาณของเนื้องอก ซึ่งข้อมูลเหล่านี้อาจช่วยให้คุณหมอวางแผนในการผ่าตัดหรือรักษาได้
การรักษา breast lump
- ก้อนเนื้อในเต้านมประเภทไฟโบรซีสติคไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา แต่คุณหมออาจแนะนำวิธีการบรรเทาอาการเมื่อกดเจ็บในแต่ละเดือน
- ซีสต์ธรรมดาอาจรักษาได้ด้วยการเจาะดูดเซลล์ (Fine Needle Aspiration) โดยคุณหมอจะใช้เข็มเล็ก ๆ ดูดเอาเซลล์บางส่วนออกมาจากก้อนเนื้อในเต้านม โดยไม่ต้องผ่าตัด ถ้าก้อนเนื้อนั้นเป็นซีสต์ ก็จะสามารถดูดเอาน้ำในก้อนเนื้อออกมา เพื่อทำให้ซีสต์ยุบตัวลง ซีสต์ยังอาจหายไปได้เองด้วย ดังนั้น คุณหมออาจจะใช้วิธีรอก่อนที่จะพยายามกำจัดมัน
- ก้อนเนื้อในเต้านมประเภทไฟโบรอะดีโนมา และเนื้องอกชนิดไม่ใช่เนื้อร้ายในท่อน้ำนม อาจกำจัดได้ด้วยการผ่าตัด
การจะระบุว่าก้อนเนื้อที่พบเป็นก้อนเนื้อที่เกิดจากการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อไขมันหรือไม่นั้นถือเป็นเรื่องทำได้ยาก คุณหมออาจต้องตรวจชิ้นเนื้อที่ผิดปกติ โดยวิธีใช้เข็มเจาะเข้าที่เนื้อเยื่อ โดยส่วนใหญ่อาการนี้ไม่จำเป็นต้องรักษา แต่หากก้อนเนื้อนี้สร้างความลำบากในการใช้ชีวิตประจำวัน อาจรักษาได้ด้วยการผ่าตัดเอาก้อนเนื้อออก
การปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการดูแลตัวเอง
การปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการดูแลตัวเองที่ช่วยจัดการกับก้อนที่เต้านมชนิดไม่ร้ายแรง
การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการดูแลงต่อไปนี้ อาจช่วยให้รับมือกับก้อนที่เต้านมชนิดไม่ร้ายแรงได้
- ใส่เสื้อชั้นในที่นุ่มและรองรับหน้าอกได้ดี เช่น สปอร์ตบรา
- รับประทานยาแก้ปวด เช่น อะเซตามีโนเฟน (Acetaminophen)
- ตรวจร่างกายอย่างสม่ำเสมอ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย