backup og meta

สนับสนุนบทความโดย Hirudoid Anti Hair loss essence

ถุงใต้ตาบวม สาเหตุ วิธีรักษา และการป้อ

ถุงใต้ตาบวม อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น โรคภูมิแพ้ การนอนดึก การสูบบุหรี่ พบได้มากในผู้สูงอายุ ซึ่งอาจไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่หากสังเกตว่ามีอาการปวดตา  ระคายเคืองดวงตา และมีปัญหาด้านการมองเห็น ควรเข้าพบคุณหมอทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณการติดเชื้อ โรคเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน และโรคไทรอยด์ได้

ถุงใต้ตาบวม สาเหตุ วิธีรักษา และการป้อ

[embed-health-tool-bmi]

ถุงใต้ตาบวม เกิดจากอะไร

ถุงใต้ตาบวม มีสาเหตุมาจากเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อที่รองรับเปลือกตาอ่อนแอลง ทำให้ผิวหนังเริ่มหย่อนคล้อย จนไขมันที่อยู่รอบดวงตาเคลื่อนตัวลงไปในบริเวณเปลือกตาล่าง ส่งผลให้เปลือกตาบวม บางคนอาจมีใต้ตาคล้ำ อาการถุงใต้ตาบวมมักไม่ส่งผลอันตราย แต่หากมีอาการผิดปกติ เช่น มีปัญหาด้านการมองเห็น ระคายเคืองดวงตา ปวดตา ปวดศีรษะ ผื่นขึ้นผิวหนัง ควรเข้าพบคุณหมอเพื่อรับการตรวจทันทีเพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคไทรอยด์ โรคเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน การติดเชื้อ หรืออาการแพ้รุนแรง

นอกจากนี้ ถุงใต้ตาบวมยังอาจเกิดจากปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ดังนี้

  • พันธุกรรม หากคนในครอบครัวมีถุงใต้ตา อาจส่งผลให้คนอื่น ๆ ในครอบครัวมีอาการนี้ด้วยเช่นกัน
  • การพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือการนอนดึก อาจส่งผลให้ถุงใต้ตาบวมได้ เนื่องจากระบบการไหลเวียนโลหิตไม่ดี ที่อาจทำให้เลือดคั่งบริเวณใต้ตา สังเกตได้จากอาการผิวหนังใต้ตาคล้ำ และมีถุงใต้ตา
  • โรคภูมิแพ้ อาจเกิดจากสารก่อภูมิแพ้ เช่น ขนสัตว์ ไรฝุ่น เชื้อรา น้ำหอม น้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ ที่อาจส่งผลให้เยื่อบุตาอักเสบ เปลือกตาล่างบวม และตาแดง บางคนอาจมีน้ำตาและน้ำมูกไหลร่วมด้วย
  • การรับประทานอาหารรสเค็มจัด เนื่องจากเกลืออาจดึงน้ำจากอาหารและกระจายเข้าสู่เนื้อเยื่อทั่วร่างกาย รวมถึงเปลือกตา จึงทำให้เปลือกตาหรือถุงใต้ตาบวมได้ ดังนั้น จึงไม่ควรรับประทานเกลือเกิน 2,300 มิลลิกรัม/วัน และควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบของเกลือสูง เช่น มันฝรั่งทอด ซุป อาหารแช่แข็ง อาหารแปรรูป
  • การสูบบุหรี่ สารพิษในควันบุหรี่อาจทำลายเนื้อเยื่อดวงตา ทำให้ม่านตาอักเสบ นำไปสู่อาการถุงใต้ตาบวม ตาแดง เจ็บตา และตาพร่ามัวได้

วิธีรักษาเมื่อถุงใต้ตาบวม

วิธีรักษาเมื่อถุงใต้ตาบวม มีดังนี้

  • ประคบเย็น ด้วยการนำเจลเย็นหรือผ้าห่อน้ำแข็งประคบบริเวณถุงใต้ตา 2-3 นาที เพื่อลดการอักเสบและอาการบวม
  • ครีมบำรุงรอบดวงตา ที่มีส่วนประกอบของฟีนิลเอฟรีน (Phenylephrine) ที่อาจช่วยลดอาการบวมจากหลอดเลือดตีบตันบริเวณถุงใต้ตา ควรใช้อย่างระมัดระวังเพราะอาจส่งผลข้างเคียงทำให้เกิดการระคายเคือง เนื่องจากผิวหนังใต้ตามีความบอบบาง
  • คาเฟอีน มีส่วนช่วยทำให้หลอดเลือดหดตัว ซึ่งอาจช่วยลดอาการบวมใต้ตาได้ โดยใช้ถุงชาอุ่น ๆ มาประคบบริเวณใต้ตา 5-10 นาที วันละ 2-3 ครั้ง
  • ยารักษาโรคภูมิแพ้ สำหรับอาการถุงใต้ตาบวมเนื่องจากสารก่อภูมิแพ้อาจรักษาได้ด้วยการใช้ยาแก้แพ้ ควรปรึกษาคุณหมอหรือเภสัชกรก่อนใช้ยาทุกครั้ง
  • การรักษาริ้วรอย เช่น การเลเซอร์ การลอกผิว การฉีดฟิลเลอร์ อาจช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ซึ่งเป็นเส้นใยหรือโปรตีนชนิดหนึ่งที่อยู่ในร่างกาย ช่วยให้ผิวแข็งแรง และเพิ่มความยืดหยุ่น ทำให้ถุงใต้ตากระชับขึ้น ลดริ้วรอย และอาการบวมของถุงใต้ตา แต่สำหรับการเลเซอร์ อาจเพิ่มความเสี่ยงทำให้สีผิวใต้ตาคล้ำอย่างถาวร ดังนั้น ควรปรึกษากับคุณหมอก่อนเข้ารับการรักษา
  • ผ่าตัด เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาถุงใต้ตาบวม และผิวหนังใต้ตาหย่อนคล้อยในผู้สูงอายุ เพื่อช่วยกำจัดถุงใต้ตา ทำให้ผิวดูกระชับขึ้น แต่อาจส่งผลข้างเคียง เช่น ตาแห้ง อาการปวด อาการบวม รอยช้ำ ตาพร่ามัวหลังจากการผ่าตัด หรืออาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น การมองเห็นผิดปกติ เลือดออก ปวดกล้ามเนื้อตา หากสังเกตว่ามีอาการเหล่านี้ควรพบคุณหมอทันที

วิธีป้องกันถุงใต้ตาบวม

วิธีป้องกันถุงใต้ตาบวม อาจมีดังนี้

  • พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 7-9 ชั่วโมง และควรเลือกหมอนสูงประมาณ 2-3 นิ้ว เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำสะสมบริเวณรอบดวงตา ที่อาจทำให้มีถุงใต้ตา
  • ลดการบริโภคเกลือหรืออาหารที่มีโซเดียมสูง เช่น อาหารแปรรูป มันฝรั่งทอด
  • หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ หากสังเกตว่ามีอาการแพ้ เช่น น้ำมูกไหล จาม คันตา น้ำตาไหล ควรรับประทานยารักษาภูมิแพ้ หรือเข้าพบคุณหมอทันที
  • ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 60 ขึ้นไป เพื่อป้องกันรังสียูวีที่อาจส่งผลให้ผิวหย่อนคล้อยและอาจทำให้ดูแก่ก่อนวัย
  • เลิกสูบบุหรี่และจำกัดปริมาณการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น ไวน์ เบียร์ เพราะอาจทำให้ผิวสูญเสียคอลลาเจน ทำให้ผิวหนังใต้ตาหย่อนคล้อย และเกิดริ้วรอยรอบดวงตา

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

Bags under eyes. https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/bags-under-eyes/symptoms-causes/syc-20369927.Accessed August 4, 2022.

Bags under eyes. https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/bags-under-eyes/diagnosis-treatment/drc-20369931.Accessed August 4, 2022.

How to Get Rid of Bags Under Your Eyes. https://www.hopkinsmedicine.org/health/treatment-tests-and-therapies/how-to-get-rid-of-bags-under-your-eyes.Accessed August 4, 2022.

Bags Under the Eyes. https://www.aao.org/eye-health/tips-prevention/bags-under-eyes.Accessed August 4, 2022.

Slideshow: Banish the Bags Under Your Eyes. https://www.webmd.com/beauty/ss/slideshow-banish-the-bags-under-your-eyes.Accessed August 4, 2022.

เวอร์ชันปัจจุบัน

03/04/2023

เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย แพทย์หญิงอัญชิสา กาญจโนมัย

อัปเดตโดย: สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


บทความที่เกี่ยวข้อง

ใต้ตาดำ สาเหตุ วิธีลดรอยคล้ำใต้ตาที่ควรรู้

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กับสิ่งที่คุณควรรู้ก่อนเข้ารับการรักษา


ตรวจสอบข้อมูลโดย แพทย์หญิงอัญชิสา กาญจโนมัย · โรคผิวหนัง · พรเกษมคลินิก · เขียน โดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน · แก้ไข 03/04/2023

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา