คุณต้องการออกจากระบบใช่หรือไม่
ปากมดลูกปลิ้น (Cervical ectropion) คือการที่เซลล์อ่อน (เซลล์ในคลองปากมดลูก) ซึ่งเรียงเป็นเเนวอยู่ภายในช่องคอมดลูกกระจายตัวออกไปยังพื้นผิวนอกปากมดลูก ปกติเเล้วเซลล์นอกปากมดลูกจะเป็นเซลล์แข็ง (เซลล์เยื่อบุ)
บริเวณที่ซึ่งเซลล์ทั้งสองประเภทมาบรรจบกันนี้เรียกว่าพื้นที่เปลี่ยนผ่าน โดยปากมดลูกถือเป็น “คอ” ของมดลูก เพราะเป็นพื้นที่เชื่อมต่อระหว่างมดลูกกับช่องคลอดของคุณ
อาการดังกล่าวบางครั้งเรียกว่าการกร่อนของปากมดลูก นอกจากชื่อดังกล่าวจะไม่มีความหมายเเน่นอนเเล้ว ยังชวนให้เข้าใจผิดอีกด้วย คุณสบายใจได้เลยว่ามดลูกของคุณไม่ได้กร่อนจริงๆ
อาการปากมดลูกปลิ้นไม่ใช่มะเร็ง เเละไม่ได้กระทบกับภาวะเจริญพันธุ์ของผู้หญิง เเท้จริงเเล้ว อาการดังกล่าวไม่ใช่โรค เแต่กระนั้น อาการนี้ก็สามารถก่อให้เกิดปัญหาสำหรับผู้หญิงบางคนได้
อาการปากมดลูกปลิ้นเป็นอาการพบได้บ่อยสำหรับผู้หญิงในวัยเจริญพันธุ์ โปรดปรึกษาเเพทย์สำหรับข้อมูลอื่นๆ
ถ้าคุณเป็นเหมือนผู้หญิงส่วนใหญ่ที่มีอาการดังกล่าว คุณจะไม่มีอาการใดปรากฏเลย อาจฟังดูเเปลก แต่คุณอาจจะไม่ได้รับรู้ถึงโรคดังกล่าวเลย จนกระทั่งคุณไปหานรีเเพทย์เเละได้รับการตรวจภายใน
ถ้าคุณมีอาการปรากฏ อาการดังกล่าวอาจรวมถึง
อาการเจ็บเเละเลือดไหลอาจเกิดขึ้นระหว่างหรือภายหลังการตรวจภายในได้เช่นกัน อาการดังกล่าวจะรุนเเรงสำหรับผู้หญิงบางคน ตกขาวจะก่อให้เกิดความรำคาญ เเละอาการเจ็บปวดจะขัดความสุขที่เกิดขึ้นระหว่างมีเพศสัมพันธ์
อาการปากมดลูกปลิ้นยังเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด ในการทำให้มีเลือดไหลในช่วงเดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์
สาเหตุของอาการเหล่านี้เกิดจากเซลล์ปากมดลูกที่บอบบางว่าเซลล์เยื่อบุผิว เซลล์ปากมดลูดจึงผลิตมูกออกมามากกว่าเเละมีเเนวโน้มที่จะมีเลือดออกได้ง่าย
ถ้าคุณมีอาการเหล่านี้เเต่ไม่รุนเเรง คุณไม่ควรทึกทักเอาว่าคุณเป็นมีปัญหาเรื่องปากมดลูกปลิ้น แต่ควรเข้ารับการวินิจฉัยอย่างถูกต้องจากเเพทย์จะดีที่สุด
อาจมีอาการอื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวถึงข้างต้น โปรดปรึกษาเเพทย์ หากคุณมีความกังวลเกี่ยวกับอาการดังกล่าว
คุณควรติดต่อเเพทย์เมื่อคุณมีอาการดังต่อไปนี้
อาการปากมดลูกปลิ้นไม่ได้ร้ายแรง เเต่สัญญาณเเละอาการเหล่านี้อาจเป็นผลมาจากโรคอื่น ที่ควรจะได้รับการรักษาหรือชี้ชัดว่าคุณเป็นโรคนั้นหรือไม่
อาการดังกล่าวบางอย่างได้แก่
โปรดปรึกษาเเพทย์ หากคุณหรือคนที่คุณรักมีสัญญาณหรืออาการข้างต้น รวมถึงหากคุณมีข้อสงสัย ร่างกายของทุกคนต่างมีการตอบสนองที่เเตกต่างกัน วิธีที่ดีที่สุดคือการปรึกษาเเพทย์ว่า อะไรเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับสถานการณ์ของคุณ
ผู้หญิงบางคนเกิดมาพร้อมกับอาการปากมดลูกปลิ้น โดยอาการดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้จาก
การเปลี่ยนเเปลงของฮอร์โมน ปากมดลูกปลิ้นอาจเกิดจากความผันผวนของระดับฮอร์โมน เเละพบได้บ่อยมากในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ ผู้หญิงที่เข้าสู่ช่วงหมดประจำเดือน (menopause) มักไม่มีอาการดังกล่าว
กินยาคุมกำเนิด การกินยาคุมกำเนิดจะส่งผลต่อระดับฮอร์โมนเ เละทำให้เกิดอาการปากมดลูกปลิ้นได้
การตั้งครรภ์ การตั้งครรภ์อาจก่อให้เกิดอาการปากมดลูกปลิ้นได้ เนื่องจากการเปลี่ยนเเปลงของระดับฮอร์โมน
วัยรุ่น หญิงตั้งครรภ์ เเละผู้หญิงทั่วไปที่ทานยาคุมกำเนิด หรือใช้แผ่นเเปะเอสโตรเจนเพื่อคุมกำเนิด มีโอกาสที่จะมีอาการดังกล่าวสูงกว่า เมื่อเทียบกับผู้หญิงในวัยหมดประจำเดือน
โปรดปรึกษาเเพทย์เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ข้อมูลเหล่านี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ใดๆ โปรดปรึกษาแพทย์ของคุณ ทุกครั้ง เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
คนส่วนมากที่มีอาการปากมดลูกปลิ้นมักไม่รู้ว่าตัวเองมีอาการดังกล่าว ส่วนใหญ่เเล้วจะได้ตรวจพบเมื่อรับการตรวจภายในตามปกติจากเเพทย์
อาการปากมดลูกปลิ้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับมะเร็งปากมดลูก อย่างไรก็ตาม ปากมดลูกของผู้หญิงที่เป็นมีอาการดังกล่าว อาจดูคล้ายกับปากมดลูกของผู้หญิงที่เริ่มเป็นมะเร็งปากมดลูก
ด้วยเหตุนี้ เเพทย์จึงจำเป็นที่จะต้องชี้ชัดว่าอาการดังกล่าวคือมะเร็งปากมดลูกหรือไม่ หากปากมดลูกมีสีเเดงหรืออักเสบผิดปกติ เเพทย์จะวินิจฉัยด้วยวิธีต่อไปนี้
การตรวจแป๊ปสเมียร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูเเลสุขภาพจะขูดตัวอย่างเซลล์ปากมดลูก เพื่อตรวจหาเชื้อเอชพีวี (HPV) เเละการเปลี่ยนเเปลงของเซลล์มะเร็ง เหรือเซลล์ก่อนเป็นมะเร็ง
การส่องตรวจช่องคลอด ได้แก่การที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพตรวจปากมดลูกอย่างละเอียด ด้วยเครื่องมือที่ใช้ขยายปากมดลูกพร้อมไฟส่อง
การตรวจชิ้นเนื้อ การนำตัวอย่างของเนื้อเยื่อมาตรวจเพื่อหาเซลล์มะเร็ง ผู้หญิงอาจรู้สึกปวดเกร็งที่ท้องระหว่างการตรวจดังกล่าว
อาการปากมดลูกปลิ้นไม่ใช่อาการอันตราย เเละไม่จำเป็นรักษาเสมอไป
ในการีวิวเมื่อปี 2008 นักวิจัยได้บันทึกว่า ไม่มีข้อมูลใดสนับสนุนให้มีการตรวจอาการปากมดลูกปลิ้นเป็นประจำ อย่างไรก็ตาม เเพทย์จะเเนะนำเมื่ออาการของโรคก่อให้เกิดความรำคาญ
ถ้าผู้หญิงเคยมีอาการ อย่างเช่นเจ็บปวดหรือเลือดไหล เเพทย์อาจเเนะนำให้ใช้การจี้เนื้อเยื่อ (cauterization) ซึ่งเป็นวิธีกำจัดเซลล์ปากมดลูกที่กระจายออกมาด้านนอกโดยไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวด
เเม้ว่าการจี้เนื้อเยื่อจะเเก้อาการปากมดลูกปลิ้นได้ เเต่เเพทย์อาจต้องจี้ใหม่อีกครั้งหากผู้ป่วยมีอาการอีก
การรักษาโดยการจี้เนื้อเยื่อมีวิธีการแตกต่างกันสามแบบคือ
การอบด้วยความร้อน (Diathermy) การใช้ความร้อนเพื่อจี้เนื้อเยื่อบริเวณที่มีอาการ
การรักษาด้วยความเย็น (Cryotherapy) การใช้คาร์บอนไดออกไซด์ที่เย็นมาก เพื่อทำให้บริเวณที่มีอาการเเข็งตัว รายงานการศึกษาในปี 2016 พบว่านี่เป็นวิธีการรักษาที่ได้ผลสำหรับผู้หญิงที่มีอาการดังกล่าว เเละมีมูกไหลเป็นจำนวนมาก
การใช้ซิลเวอร์ไนเตรท (silver nitrate) เป็นอีกวิธีหนึ่งของการจี้เนื่อเยื่อเซลล์ปากมดลูกให้ไหม้
หลังการรักษา เเพทย์อาจเเนะนำให้ผู้หญิงหลีกเลี่ยงกิจกรรมทางเพศบางอย่าง เเละไม่ใช้ผ้าอนามัยเเบบสอดเป็นเวลาสี่สัปดาห์ หลังจากช่วงเวลาดังกล่าว ปากมดลูกของเธอควรจะหายเป็นปกติ
ถ้าผู้หญิงที่ได้รับการรักษามีอาการดังต่อไปนี้ เธอควรจะกลับไปหาหมอ
อาการเหล่านี้อาจบ่งชี้ถึงการติดเชื้อหรืออาการอื่นที่แอบแฝงอยู่ ผู้หญิงจึงไม่ควรละเลยอาการดังกล่าว
หากคุณมีคำถามเพิ่มเติม โปรดปรึกษาเเพทย์เพื่อให้เข้าใจทางออกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำเเนะนำทางการเเพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรค แต่อย่างใด
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
Cervical ectropion: What you need to know https://www.medicalnewstoday.com/articles/320298.php Accessed April 11, 2018
What Is Cervical Ectropion (Cervical Erosion)? https://www.healthline.com/health/womens-health/cervical-ectropion Accessed April 11, 2018
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย