น้ำมูกใส เป็นเรื่องปกติ เนื่องจากร่างกายของเรามีกระบวนการในการผลิตน้ำมูกทุกวัน วันละประมาณ 1ใน 4 แกลลอน โดยน้ำมูกดังกล่าวจะช่วยในการหล่อลื่นภายในโพรงจมูก ช่วยป้องกันเชื้อโรค และแบคทีเรียต่าง ๆ แต่ถ้าหากมีน้ำมูกใสไหลออกมามากจนเกินไป นั่นอาจเป็นสัญญาณว่า คุณกำลังจะเป็นหวัด หรือมีอาการแพ้
น้ำมูกมีสีเหลือง
หากน้ำมูกของคุณมีสีเหลือง นั่นเป็นสัญญาณว่าร่างกายกำลังต่อสู้กับเชื้อโรคหรือแบคทีเรียบางอย่างอยู่ เมื่อเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียเข้าสู่ร่างกาย เซลล์เม็ดเลือดขาวจะเข้าไปต่อสู้และทำลายเชื้อโรคเหล่านั้น หลังจากนั้นร่างกายจึงขับเอาสิ่งเหล่านั้นออกจากร่างกายผ่านทางน้ำมูก ทำให้น้ำมูกในช่วงนี้มีสีเหลือง
น้ำมูกมีสีเขียว
น้ำมูกสีเขียว เกิดจากการที่เซลล์เม็ดเลือดขาวเข้าไปต่อสู้กับเชื้อโรคและแบคทีเรียต่าง ๆ แล้วพ่ายแพ้ต่อเชื้อเหล่านั้นจนกระทั่งตาย ซึ่งนั่นก็หมายความว่า ร่างกายของเราอาจเริ่มติดเชื้อบางอย่างเข้าให้แล้ว ให้ลองสังเกตดูว่าระยะเวลาที่มีน้ำมูกสีเขียวนั้นเป็นอยู่นานแค่ไหน หากนาน 2-3 สัปดาห์ หรือนานยิ่งกว่านั้น อาจถึงเวลาที่ควรไปพบกับคุณหมอ
น้ำมูกมีสีน้ำตาล
น้ำมูกที่มีสีน้ำตาล อาจมาจากการที่เลือดในเยื่อบุโพรงจมูกเกิดการแห้ง และผสมกับน้ำมูก จึงเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล แต่น้ำมูกสีน้ำตาลอาจไม่ได้มาจากเลือดเพียงอย่างเดียว แต่อาจมาจากสิ่งสกปรก เช่น ฝุ่น ควันบุหรี่ หรือจากเครื่องเทศต่าง ๆ ยิ่งไปกว่านั้น การมีน้ำมูกสีน้ำตาล ยังอาจเป็นสัญญาณของโรคหลอดลมอักเสบได้อีกด้วย
น้ำมูกมีสีดำ
สิ่งสกปรก ฝุ่นละออง ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ หรือควันบุหรี่ เหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำมูกของคุณมีสีดำ และยังเป็นสัญญาณที่แสดงออกว่าร่างกายมีการติดเชื้อราอย่างรุนแรง หรือระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอาจถูกทำลาย หากมีน้ำมูกสีนี้ ควรไปพบคุณหมอเพื่อรับคำแนะนำ
เมื่อไหร่ควรไปพบคุณหมอ
โดยปกติแล้ว น้ำมูกจะมีอยู่แค่เพียงไม่กี่วัน หรือราว ๆ 10 วัน แต่ถ้าหากเกินกว่านั้นอาจจำเป็นที่ต้องไปพบคุณหมอ อย่างไรก็ตาม มีอยู่ด้วยกันหลากหลายวิธีที่จะช่วยให้น้ำมูกของคุณหยุดไหลได้เร็วขึ้น ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นวิธีง่าย ๆ ทำได้เองที่บ้าน เช่น
- ดื่มน้ำมาก ๆ เพราะการดื่มน้ำจะช่วยเจือจางน้ำมูก และช่วยให้น้ำมูกถูกขับออกจากจมูกเร็วขึ้น
- ดื่มชาร้อน หรือนมร้อน เครื่องดื่มอุ่นหรือร้อน ช่วยให้ร่างกายอบอุ่นได้
- พักผ่อนให้เต็มที่ หากไม่สบายสิ่งสำคัญที่สุดคือการพักผ่อน
- ทานยาลดน้ำมูก ควรเป็นยาที่ได้รับการสั่งจ่ายจากแพทย์หรือเภสัชกร
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย