ปฏิกิริยาภูมิแพ้เฉียบพลันรุนแรง (Anaphylaxis) เป็นปฏิกิริยาภูมิแพ้ที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ โดยสามารถเกิดขึ้นภายในเวลาไม่กี่วินาทีหรือไม่กี่นาทีเมื่อมีการสัมผัสสิ่งที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ ดังนั้นผู้ที่รู้สึกว่าตนเอง มีอาการภูมิแพ้ที่ชอบเกิดขึ้นแบบเฉียบพลัน ควรสังเกตตนเองเพื่อการดูแลอย่างถูกต้อง เมื่อมีอาการกำเริบเกิดขึ้นก
คำจำกัดความ
ปฏิกิริยาภูมิแพ้เฉียบพลันรุนแรง คืออะไร
ปฏิกิริยาภูมิแพ้เฉียบพลันรุนแรง (Anaphylaxis) เป็นปฏิกิริยาภูมิแพ้รุนแรงที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ โดยสามารถเกิดขึ้นภายในเวลาไม่กี่วินาทีหรือไม่กี่นาทีเมื่อมีการสัมผัสสิ่งที่แพ้ เช่น ถั่วหรือพิษจากเหล็กในของผึ้ง
ผู้ที่มีปฏิกิริยาภูมิแพ้เฉียบพลันรุนแรงมีความเสี่ยงต่อการมีอาการกำเริบในอนาคตได้ ถึงแม้ว่าอาการเริ่มแรกจะไม่รุนแรง แต่ต่อไปอาจรุนแรงมากกว่า ผู้ที่มีปฏิกิริยาภูมิแพ้เฉียบพลันรุนแรงจำเป็นต้องได้รับการรักษาฉุกเฉินโดยทันที หากไม่ได้รับการรักษาทันที อาจทำให้หยุดหายใจหรือหัวใจหยุดเต้นได้
การทำความเข้าใจปฏิกิริยาภูมิแพ้เฉียบพลันรุนแรง และสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาการแพ้ที่รุนแรงนี้จะช่วยให้ป้องกันการเกิดอาการรุนแรงได้
พบได้บ่อยเพียงใด
ปฏิกิริยาภูมิแพ้เฉียบพลันรุนแรงเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย พบได้บ่อยในผู้ที่เป็นภูมิแพ้ โดยในวัยเด็กมากเกิดจากการแพ้อาหาร ส่วนในวัยผู้ใหญ่มักเกิดจากการแพ้ยาและสาเหตุอื่นๆ
อาการ
อาการของ ปฏิกิริยาภูมิแพ้เฉียบพลันรุนแรง
อาการทั่วไปของปฏิกิริยาภูมิแพ้เฉียบพลันรุนแรง ได้แก่
- อาการแพ้ที่ผิวหนัง ซึ่งได้แก่ ลมพิษ อาการคัน และผิวซีด
- อาการบวมที่ใบหน้า ดวงตา ริมฝีปาก หรือลำคอ
- ทางเดินหายใจอุดกั้น ซึ่งทำให้เกิดอาการหายใจมีเสียงและหายใจลำบาก
- ชีพจรอ่อนและเต้นเร็ว
- คลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องร่วง
- เวียนศีรษะ เป็นลม หรือไม่รู้สึกตัว
ควรไปพบหมอเมื่อใด
หากคุณมีสิ่งบ่งชี้หรืออาการใด ๆ ตามที่ระบุข้างต้น หรือมีคำถาม โปรดปรึกษาแพทย์ ร่างกายของแต่ละบุคคลมีการตอบสนองแตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับวิธีรักษาที่ดีที่สุดตามสถานการณ์ของคุณ
สาเหตุ
สาเหตุของ ปฏิกิริยาภูมิแพ้เฉียบพลันรุนแรง
โดยปกติแล้ว อาการภูมิแพ้ไม่เป็นอันตรายต่อชีวิต แต่บางคนที่มีอาการแพ้รุนแรงสามารถเกิดปฏิกิริยาอย่างรุนแรง โดยระบบภูมิคุ้มกันอาจปล่อยสารเคมีในร่างกายออกมา ในระหว่างที่มีอาการแพ้รุนแรง จนอาจทำให้เกิดอาการช็อคได้ ซึ่งความดันโลหิตจะลดลงอย่างกะทันหัน ทางเดินหายใจตีบลง จนเกิดการอุดกั้นการหายใจ สิ่งกระตุ้นปฏิกิริยาภูมิแพ้เฉียบพลันรุนแรงที่พบได้ทั่วไป ได้แก่
- ยาบางชนิด โดยเฉพาะเพนิซิลลิน (Penicillin) ยาแอสไพริน (Aspirin) ยาไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) อย่างแอดวิล (Advil) มอทริน (Motrin) และอื่นๆ ยานาพร็อกเฟน (Naproxen) (Aleve) ไมดอล (Midol Extended Relief)
- อาหารต่างๆ เช่น ถั่วที่เติบโตใต้ดิน ถั่วที่เติบโตบนดิน (วอลนัท ถั่วพีแคน อัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์) แป้งสาลี (พบบ่อยในเด็ก) ปลา สัตว์น้ำมีเปลือก นม และไข่
- เหล็กในจากผึ้ง ตัวต่อเสื้อคลุมเหลืองหรือต่อเยอรมัน ตัวต่อ แตน และมดคันไฟ
ปัจจัยเสี่ยงของปฏิกิริยาภูมิแพ้เฉียบพลันรุนแรง
- เคยมีปฏิกิริยาภูมิแพ้เฉียบพลันรุนแรงในอดีต
- การใช้ยาบางชนิดเช่น ยาเพนิซิลลิน
- คนในครอบครัว มีประวัติภูมิแพ้เฉียบพลัน
- ภูมิแพ้ หรือหอบหืด ผู้ที่มีอาการใดอาการหนึ่งดังกล่าว มีความเสี่ยงสูงขึ้นในการเกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้เฉียบพลันรุนแรง
ปฏิกิริยาภูมิแพ้เฉียบพลันรุนแรงที่เกิดจากการออกกำลังกายพบได้ไม่บ่อย และแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ในผู้ป่วยบางราย การออกกำลังกายแบบแอโรบิค ซึ่งรวมถึงการวิ่งเหยาะๆ สามารถกระตุ้นปฏิกิริยาภูมิแพ้เฉียบพลันรุนแรง
รวมถึงการรับประทานอาหารบางชนิดก่อนออกกำลังกายหรือการออกกำลังกายเมื่ออากาศร้อน เย็น หรือชื้น ยังสัมพันธ์กับปฏิกิริยาภูมิแพ้เฉียบพลันรุนแรงในบางคนได้ ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับข้อควรระวังและข้อควรปฏิบัติเมื่อออกกำลังกาย
การวินิจฉัยและการรักษา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
การวินิจฉัยปฏิกิริยาภูมิแพ้เฉียบพลันรุนแรง
ในเบื้องต้นแพทย์จะซักถามเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้หรืออาการแพ้ใดๆ ที่เคยเป็น ผู้ป่วยอาจต้องเข้ารับการทดสอบบางประการเพื่อยืนยันการวินิจฉัย เช่น การทดสอบผิวหนังหรือการทดสอบเลือดที่อาจเป็นสาเหตุของอาการต่างๆ ซึ่งได้แก่
- อาการผิดปกติต่างๆ เกี่ยวกับการชัก
- ภาวะที่ไม่ใช่ภูมิแพ้ ซึ่งทำให้เกิดผิวแดงหรืออาการทางผิวหนังอื่นๆ
- อาการทางจิต เช่น อาการวิตกกังวล
- ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจหรือปอด
การรักษาปฏิกิริยาภูมิแพ้เฉียบพลันรุนแรง
วิธีการรักษาปฏิกิกิริยาแพ้เฉียบพลันจะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับอาการและวิธีการรักษาของแต่ละบุคคล แพทย์อาจตรวจอัตราการเต้นของหัวใจ หรือมีการปฐมพยาบาลเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่หยุดหายใจให้กลับมาหายใจ (Cardiopulmonary Resuscitation : CPR) รวมถึงการรักษาด้วยยาอื่นๆ ร่วมด้วย ดังนี้
- ยาเอพิเนฟรีน (Epinephrine) เพื่อลดการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันของร่างกายของคุณ
- การใช้ออกซิเจน เพื่อชดเชยการหายใจที่ถูกขัดขวาง
- การให้ยาแก้แพ้ (Antihistamines) และยาคอร์ติโซน (Cortisone) ทางหลอดเลือดเพื่อลดการอักเสบของทางเดินหายใจและทำให้การหายใจดีขึ้น
- ยากลุ่มบีตา-อะโกนิสต์ (ฺBeta-agonist) เช่น ยาอัลบูเทอโรล (Albuterol) เพื่อบรรเทาอาการต่างๆ เกี่ยวกับการหายใจ
การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตัวเอง
การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตัวเองเพื่อรักษาปฏิกิริยาภูมิแพ้เฉียบพลันรุนแรง
การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตัวเองเพื่อรักษาปฏิกิริยาภูมิแพ้เฉียบพลันรุนแรงสามารถป้องกันตนเองได้ดังนี้
- หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นภูมิแพ้ ที่ทราบให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
- การใช้เครื่องมือฉีดยาอัตโนมัติ โดยจำเป็นต้องพกฮอร์โมนเอพิเนฟรีน (Epinephrine) เพื่อใช้เมื่อเกิดอาการ
- แจ้งครอบครัวและเพื่อนให้ทราบเกี่ยวกับอาการแพ้ สิ่งกระตุ้นภูมิแพ้ และอาการภูมิแพ้เฉียบพลันรุนแรง หากจำเป็นต้องพกฮอรืโมนเอพิเนฟรีน ควรแจ้งที่เก็บและวิธีใช้ ให้ชัดเจน
- เก็บชุดยาที่แพทย์สั่งไว้อย่างเหมาะสมให้หยิบใช้ได้ง่ายตลอดเวลา
[embed-health-tool-bmr]