ตับอ่อนอักเสบ ส่งผลอย่างไรต่อโรคเบาหวาน
ตับอ่อนมีหน้าที่ผลิตและหลั่งฮอร์โมนอินซูลิน ซึ่งจำเป็นในการเผาผลาญน้ำตาลในเลือดให้กลายเป็นพลังงาน ดังนั้นเมือเกิดภาวะตับอ่อนอักเสบ เซลล์ตับอ่อนจะหลั่งอินซูลินลดลง ไม่เพียงพอสำหรับการเผาผลาญน้ำตาล จึงทำให้มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น เเละพัฒนาไปสู่โรคเบาหวานตามมาได้
ในปัจจุบันมียารักษาโรคเบาหวาน บางกลุ่มมีรายงานว่า อาจกระตุ้นให้เกิดภาวะตับอ่อนอักเสบได้ ดังนั้นในผู้ที่เคยมีประวัติเป็นตับอ่อนอักเสบมาก่อน เเนะนำให้เลี่ยงการใช้ยากล่ม DPP4 inhibitor เเละยาฉีดกลุ่ม GLP1 receptor agonist เช่น ซิตากลิปติน (Sitagliptin) เอซีนาไทด์ (Exenatide) วิลดากลิปติน (Vildagliptin) ลิรากลูไทด์ (Liraglutide)
วิธีดูแลสุขภาพเพื่อป้องกันภาวะตับอ่อนอักเสบ
วิธีดูแลสุขภาพเพื่อป้องกันมิให้เกิดภาวะตับอ่อนอักเสบ อาจทำได้ดังนี้
- บริโภคแอลอฮอล์ในปริมาณที่เหมาะสม เนื่องจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปหรือมากกว่า 2 แก้ว/วัน หรือดื่มติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคตับอ่อนอักเสบเพราะตัวแอลกอฮอล์สามารถกระตุ้นให้เกิดการระคายเคืองเเละอักเสบของตับอ่อนได้โดยตรง
- งดการสูบบุหรี่ นอกจากบุหรี่จะก่อให้เกิดโรคมะเร็งปอดแล้วยังพบว่า ผู้ที่สูบบุหรี่มีความเสี่ยงในการเกิดภาวะตับอ่อนอักเสบมากกว่าผู้ที่ไม่สูบอีกด้วย เนื่องจากสารพิษในบุหรี่ไปทำลายเซลล์และเนื้อเยื่อตับอ่อน จึงก่อให้เกิดการอักเสบตามมาได้
- หลีกเลี่ยงอาหารทำให้ไขมันไตรกลีเซอไรด์สูง ( Triglyceride) เนื่องจากหากมีระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสุงมากกว่า 500 มิลลิกรัม/เดซิลิตร อาจทำให้เกิดการอักเสบของตับอ่อนได้ โดยทีอาหารที่มีไขมันไตรกลีเซอไรด์สูงได้เเก่ มาการีน อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวหรือมีน้ำตาลสูงเช่น ขนมหวาน มันฝรั่งทอด แป้งขัดขาว เส้นพาสต้า รวมถึงเครื่องดื่มจำพวกน้ำอัดลม จึงเเนะนำให้เลี่ยงหรือเลือกรับประทานอาหารดังกล่าวแต่น้อย
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย