อาการโรคเบาหวานระยะสุดท้าย เป็นสัญญาณที่บอกถึงระยะร้ายแรงที่ไม่สามารถควบคุมได้ของโรคเบาหวาน ซึ่งอาจเป็นอาการของภาวะแทรกซ้อนที่สร้างความเสียหายให้กับระบบการทำงานภายในร่างกาย ดังนั้น การสังเกตอาการโรคเบาหวานระยะสุดท้ายอาจช่วยรับมือกับการพัฒนาของโรคได้
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย พลอย วงษ์วิไล
อาการโรคเบาหวานระยะสุดท้าย เป็นสัญญาณที่บอกถึงระยะร้ายแรงที่ไม่สามารถควบคุมได้ของโรคเบาหวาน ซึ่งอาจเป็นอาการของภาวะแทรกซ้อนที่สร้างความเสียหายให้กับระบบการทำงานภายในร่างกาย ดังนั้น การสังเกตอาการโรคเบาหวานระยะสุดท้ายอาจช่วยรับมือกับการพัฒนาของโรคได้
โรคเบาหวาน เป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับระดับน้ำตาลในเลือดที่ผิดปกติ อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุขึ้นอยู่กับชนิดของโรคเบาหวาน ซึ่งโรคเบาหวานระยะสุดท้ายเป็นระยะที่รุนแรงและควบคุมไม่ได้ อาจส่งผลทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ โรคไต ปัญหาสายตาปัญหาผิว การติดเชื้อที่รุนแรง ปัญหาช่องปาก เส้นประสาทเสียหาย และปัญหาระบบย่อยอาหาร เนื่องจากระดับน้ำตาลที่เพิ่มสูงขึ้นส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานในร่างกายหลายส่วน
อาการของโรคเบาหวานระยะสุดท้ายส่วนใหญ่เป็นอาการจากภาวะระดับน้ำตาลในเลือดต่ำหรือสูง และการพัฒนาของภาวะแทรกซ้อน ส่งผลเสียต่ออวัยวะภายในร่างกาย ที่อาจทำให้มีอาการดังนี้
ผู้ป่วยโรคเบาหวานระยะสุดท้ายควรควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุล เพราะการใช้ยารักษาโรคเบาหวานหรือการควบคุมแป้งและน้ำตาลมากเกินไปอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ มีอาการดังนี้
ระดับน้ำตาลในเลือดสูงอาจไม่แสดงอาการในช่วงแรก แต่หากมีระดับน้ำตาลสูงขึ้นมากอาจมีอาการ ดังนี้
ระดับน้ำตาลในเลือดสูงอาจส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือด ส่งผลให้ระบบการทำงานองร่างกายแย่ลง ซึ่งการติดเชื้อเป็นอาการโรคเบาหวานระยะสุดท้ายที่พบบ่อยและอาจรุนแรงขึ้น ทำให้แผลหายช้าลงโดยเฉพาะที่เท้า และสำหรับผู้หญิงที่เป็นโรคเบาหวานอาจเกิดการติดเชื้อราในกระเพาะปัสสาวะและช่องคลอดบ่อยครั้ง
ระดับน้ำตาลในเลือดสูงอาจส่งผลต่อการทำงานของเส้นประสาท ซึ่งอาจทำให้มีอาการเสียวซ่า ชาที่มือและเท้า หรือรู้สึกปวดแสบปวดร้อนที่แขน ขา มือ และเท้า
อาการโรคเบาหวานระยะสุดท้ายที่พบบ่อยคืออาการกระหายน้ำมากขึ้นและปัสสาวะบ่อยครั้ง เกิดจากน้ำตาลกลูโคสส่วนเกินสะสมอยู่ในเลือด ทำให้ไตทำงานมากขึ้นเพื่อดูดซับกลูโคสส่วนเกินนี้ กลูโคสส่วนเกินที่ไตไม่สามารถดูดซับได้หมดจะดึงของเหลวออกจากเนื้อเยื่อ และถูกขับออกผ่านทางปัสสาวะทำให้ร่างกายขาดน้ำ จึงทำให้ผู้ป่วยรู้สึกกระหายน้ำ และการดื่มน้ำเพิ่มขึ้นจึงทำให้ปัสสาวะบ่อยครั้งตามมาด้วยเช่นกัน
เมื่อร่างกายขับกลูโคสออกจากเลือดผ่านทางปัสสาวะมากขึ้น อาจส่งผลให้ร่างกายสูญเสียแคลอรี่ และทำให้น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ เมื่อร่างกายไม่มีกลูโคสเพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานอย่างเพียงพอ จึงทำให้ผู้ป่วยอาจมีความอยากอาหารเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
ระดับน้ำตาลในเลือดสูงจะดึงของเหลวออกจากเนื้อเยื่อ รวมถึงน้ำในเนื้อเยื่อของดวงตาด้วย ส่งผลให้การโฟกัสของดวงตาแย่ลงและมองเห็นภาพซ้อน หากปล่อยไว้อาจทำให้สูญเสียการมองเห็นและตาบอดได้
โรคเบาหวานระยะสุดท้ายอาจพัฒนาไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่เรียกว่า เบาหวานลงไต สามารถแบ่งได้เป็น 5 ระยะตามความรุนแรง ดังนี้
ปัญหาไตเป็นอาการโรคเบาหวานระยะสุดท้ายที่พบบ่อยเ ซึ่งเกิดจากไตทำงานหนักเพื่อดูดซับกลูโคสในเลือดที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจทำให้มีอาการ ดังนี้
ระดับน้ำตาลในเลือดสูงส่งผลต่อการไหลเวียนเลือดและอาจทำให้เกิดความดันโลหิตสูง คอเลสเตอรอลสูง และโรคอ้วน ที่เป็นปัจจัยเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนโรคหลอดเลือดและหัวใจตามมา และอาจทำให้มีอาการแผลหายช้าลง เจ็บหน้าอก และจังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ
การรับมือกับโรคเบาหวานระยะสุดท้าย เป็นการควบคุมอาการให้คงที่ และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุล ไม่ให้พัฒนาจนเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ทำให้อาการรุนแรงขึ้น ดังนี้
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย
พลอย วงษ์วิไล
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย