เมล่อนหรือผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
เมล่อนหรือเบอร์รี่ 1 ถ้วย (240 กรัม) มีคาร์โบไฮเดรตเพียง 15 กรัม แต่เต็มไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ เช่น วิตามินเอ วิตามินซี สารต้านอนุมูลอิสระ ที่อาจช่วยลดการอักเสบในร่างกายของผู้ป่วยเบาหวาน จึงอาจส่งผลให้ความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวานที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ เช่น โรคปลายประสาทอักเสบ ลดลงด้วย นอกจากนี้ เมล่อนและผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ยังเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์หรือใยอาหารที่ดีต่อลำไส้ ช่วยลดการดูดซึมน้ำตาลและไขมันเข้าสู่กระแสเลือด
โปรตีน
โปรตีนเป็นแหล่งอาหารที่ช่วยเพิ่มพลังงานและช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย การรับประทานโปรตีนจึงสำคัญต่อสุขภาพผู้ป่วยเบาหวานเช่นกัน แต่ควรเลือกแหล่งโปรตีนที่มีประโยชน์ เช่น ถั่ว เมล็ดพืช ธัญพืช ปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมันและไม่ติดหนัง หลีกเลี่ยงการรับประทานเนื้อแดง เช่น หมู ไก่ วัว โดยเฉพาะเนื้อสัตว์แปรรูป เพราะอาจมีโซเดียมและไขมันทรานส์ในปริมาณมาก ส่งผลให้ผู้ป่วยเบาหวานเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน และเสี่ยงโรคแทรกซ้อน เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตเรื้อรัง
งานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Clinical Diabetes เมื่อปี พ.ศ. 2557 ทำการวิจัยเกี่ยวกับการบริโภคโซเดียมในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 พบว่า ผู้ป่วยเบาหวานที่บริโภคโซเดียมมากเกินกำหนดมีความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ภาวะความดันโลหิตสูง โรคไตเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด เพิ่มขึ้น ยิ่งหากมีความดันโลหิตสูงอยู่แล้ว ความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดก็จะยิ่งสูงขึ้นไปอีก
ไขมันดี
ผู้ป่วยเบาหวานสามารถรับประทานอาหารที่มีไขมันได้ แต่ไม่ควรเกินร้อยละ 25-30 ของพลังงานที่ต้องการต่อวัน หรือควรน้อยกว่า 70 กรัม/วัน และควรเลือกแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยไขมันดี เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า อะโวคาโด น้ำมันมะกอก หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันทรานส์ เช่น เค้ก คุกกี้ เบคอน ไส้กรอก เนื้อสัตว์ติดมันหรือติดหนัง เนื่องจากไขมันทรานส์อาจทำให้เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลินในผู้ป่วยเบาหวานได้
งานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nutrition Reviews เมื่อปี พ.ศ. 2549 ทำการวิจัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างกรดไขมันทรานส์กับภาวะดื้ออินซูลินและโรคเบาหวานชนิดที่ 2 พบว่า การบริโภคไขมันทรานส์ในปริมาณมาก อาจทำให้ไขมันในเลือดสูงขึ้น ทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน และโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ด้วย
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย