โรค คาวาซากิ เป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบของหลอดเลือดในร่างกายซึ่งยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด มักเกิดในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ส่งผลให้ร่างกายมีไข้สูงประมาณ 5 วันหรือมากกว่านั้น ร่วมกับอาการอื่น ๆ เช่น เป็นผื่น ตาแดง มีการอักเสบที่ต่อมน้ำเหลือง ผิวหนัง ไปจนถึงเยื่อบุปาก จมูก ตา และคอ มีอาการปากแห้งหรือแตก ลิ้นสีแดงคล้ายผลสตอว์เบอร์รี่ ภายในช่องปากและคอแดง
หากสังเกตพบว่าเด็กมีอาการดังกล่าว ควรรีบพาไปสถานพยาบาลโดยเร็ว เพราะหากได้รับรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ ทั้งนี้ โดยส่วนใหญ่อาการจะบรรเทาลงและหายภายใน 10 วันหลังเข้ารับการรักษาอย่างถูกวิธี
[embed-health-tool-child-growth-chart]
คาวาซากิ คืออะไร
โรคคาวาซากิ (Kawasaki Disease หรือ Mucocutaneous Lymph Node Syndrome) เป็นโรคที่ตั้งชื่อตามนายแพทย์โทมิซากุ คาวาซากิ (Tomisaku Kawasaki) ซึ่งเป็นผู้ที่ตรวจพบโรคนี้ในเด็กเล็กเป็นครั้งแรกในพ.ศ. 2504 โดยสาเหตุของโรคยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ ส่งผลให้ผนังหลอดเลือดทั่วร่างกายอักเสบ นอกจากนี้ คาวาซากิอาจนำไปสู่ภาวะหลอดเลือดหัวใจอักเสบ ซึ่งหลอดเลือดหัวใจทำหน้าที่ลำเลียงเลือดที่มีออกซิเจนไปยังหัวใจ ดังนั้น เด็กที่เป็นโรคนี้ควรได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อนที่ก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิต ทั้งนี้ หากรีบรักษาให้หาย เด็ก ๆ มักฟื้นตัวกลับมาสู่ภาวะปกติโดยไม่มีปัญหาสุขภาพเรื้อรังตามมา
อาการของ คาวาซากิ
คาวาซากิจะทำให้เด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี มีไข้ประมาณ 5 วัน ร่วมกับอาการต่อไปนี้
- มีผื่นตามผิวหนัง หรืออาจมีผิวหนังลอกบริเวณระหว่างหน้าอกและขา และอวัยวะเพศหรือขาหนีบ
- ตาแดง แต่ไม่พบขี้ตา
- ภายในช่องปากมีอาการบวมแดง มีลิ้นแดงคล้ายผลสตรอว์เบอร์รี่
- มือและเท้าบวมแดง
- ต่อมน้ำเหลืองที่คอบวม
บางครั้งอาการของโรคอาจไม่ได้เกิดขึ้นพร้อมกันทั้งหมด ทั้งนี้ หากเด็กมีอาการไม่ถึง 4 ข้อ อาจเรียกว่า ภาวะที่เป็นโรคคาวาซากิแต่ไม่ครบถ้วนตามเกณฑ์ของคาวาซากิ หรือ Incomplete Kawasaki Disease ซึ่งจะมีวิธีการรักษาแบบเดียวกัน นอกจากนี้ยังอาจทำให้มีอาการต่อไปนี้
- ปวดท้อง
- ท้องเสีย
- ร้องไห้งอแง
- ปวดตามข้อ
- อาเจียน
- อาการช็อก
วิธีรักษา คาวาซากิ
คาวาซากิเป็นโรคที่ต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาลและรับการดูแลจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเร็วที่สุด เพื่อลดไข้ และการอักเสบ รวมทั้งเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่หัวใจ วิธีรักษาที่ใช้ มักมีดังนี้
- อิมมูโนโกลบูลิน (Intravenous Immunoglobulin หรือ IVIg) คุณหมออาจฉีดอิมมูโนโกลบูลินซึ่งเป็นแอนติบอดีทางหลอดเลือดดำเพื่อช่วยลดการอักเสบในหลอดเลือดและป้องกันการเกิดปัญหาหลอดเลือดหัวใจ
- แอสไพริน (Aspirin) คุณหมออาจให้แอสไพรินเพื่อบรรเทาอาการปวด บวม ลดไข้ ลดการอักเสบ ป้องกันการเกิดลิ่มเลือด และลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ นอกจากนี้ อาจต้องรับแอสไพรินจนกว่าอาการอักเสบจะดีขึ้นแล้ว
- สเตียรอยด์ (Steroid) ในกรณีที่การรักษาด้วยอิมมูโนโกลบูลินไม่ได้ผล คุณหมออาจเปลี่ยนไปใช้สเตียรอยด์แทน เพื่อป้องกันหลอดเลือดหัวใจโป่งพอง
ภาวะแทรกซ้อนของคาวาซากิ
หากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม ทันท่วงที หรือภายใน 10 วัน คาวาซากิอาจทำให้หลอดเลือดหัวใจอักเสบและเกิดการโป่งพองได้ ซึ่งอาจนำไปสู่การเป็นโรคหัวใจที่เกิดขึ้นหลังคลอด (Acquired heart disease) โดยภาวะสุขภาพเกี่ยวกับหัวใจที่เป็นภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น มีดังนี้
- หลอดเลือดหัวใจโป่งพอง (Coronary artery aneurysm)
- กล้ามเนื้อหัวใจ เยื่อบุ ลิ้น และเยื่อหุ้มชั้นนอกรอบหัวใจอักเสบ
- โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ (Heart arrhythmia) โดยจังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ อาจเต้นเร็วหรือช้าเกินไป
- ปัญหาเกี่ยวกับลิ้นหัวใจ