การใช้ประโยชน์ โคลีน
โคลีนใช้ทำอะไร
โคลีน (Choline) ใช้สำหรับมีความคล้ายกับวิตามินบีโดยตับสามารถผลิตโคลีนออกมาได้ ใช้รักษาอาการต่างๆ ดังนี้
- โรคตับ โดยเฉพาะโรคตับอักเสบอย่างรุนแรง และ โรคตับแข็ง
- การซึมเศร้า
- การสูญเสียความทรงจำ
- โรคอัลไซเมอร์ และโรคสมองเสื่อม
- โรคฮันติงตัน
- โรคทูเร็ตต์
- อาการเซที่เกิดจากความผิดปกติของสมองส่วนน้อย
- การชัก
- โรคจิตเภท
โคลีนอาจมีคุณประโยชน์ในด้านอื่นๆ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากแพทย์หรือเภสัชกรของท่าน
การทำงานของ โคลีน เป็นอย่างไร
เนื่องจากยังมีการศึกษาเกี่ยวกับโคลีนไม่มากพอ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพรหรือแพทย์ อย่างไรก็ตามเป็นที่ทราบกันว่าโคลีนนั้นคล้ายกับวิตามินบี โคลีนสามารถทำปฏิกิริยาทางเคมีกับร่างกาย โคลีนสำคัญต่อระบบประสาท ในคนที่เป็นโรคหอบหืด ก็จะช่วยลดอาการบวมหรืออักเสบได้
ข้อควรระวังและคำเตือน
เราควรรู้อะไรบ้างก่อนใช้โคลีน
ปรึกษาแพทย์ เภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในกรณีที่:
- ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร เนื่องจากในขณะให้นมบุตรนั้น ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
- กำลังใช้ยาอื่น ๆ รวมถึงยาที่สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งจากแพทย์
- มีอาการแพ้สารในโคลีน ยาอื่น ๆ หรืออาหารเสริมอื่น ๆ
- มีโรคอื่น ๆ มีความผิดปกติหรือพยาธิสภาพอื่น ๆ
- มีอาการแพ้อื่น ๆ เช่น แพ้อาหาร สีผสมอาหาร สารกันบูดหรือเนื้อสัตว์ต่าง ๆ
ข้อกำหนดสำหรับโคลีนนั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อกำหนดยาอื่นๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัย การใช้ผลิตภัณฑ์นี้ต้องมีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง ควรปรึกษาแพทย์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
โคลีนมีความปลอดภัยแค่ไหน
ข้อควรระวังและคำเตือนพิเศษ
การตั้งครรภ์และให้นมบุตร:
โคลีนค่อนข้างปลอดภัยเมื่อรับประทานและใช้อย่างเหมาะสม ปริมาณการใช้ 3 กรัมต่อวันสำหรับคนที่ตั้งครรภ์และให้นมบุตรที่อายุ 18 ปีลงมา และ 3.5 กรัมต่อวันสำหรับผู้หญิงอายุ 19 ปีขึ้นไป จะไม่มีผลข้างเคียง ไม่มีข้อมูลเพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้ปริมาณโคลีนที่มากกว่านี้ในหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ดีที่สุดคือให้ยึดปริมาณการใช้ตามที่แนะนำไว้ข้างต้น
ผลข้างเคียง:
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้โคลีนมีอะไรบ้าง
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากการโคลีน ได้แก่:
- มีเหงื่อง่าย
- มีกลิ่นตัว
- ระบบทางเดินอาหารทำงานน้อยลง
- ท้องเสีย
- อาเจียน
- มะเร็งในลำไส้
ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีผลข้างเคียง อาจจะมีผลข้างเคียงอื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวถึง หากมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียงของยา ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพรหรือแพทย์
ปฏิกิริยาต่อยา
**โคลีนอาจมีปฏิกิริยากับยาหรือภาวะทางการแพทย์ในปัจจุบันของท่าน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์ก่อนใช้
ขนาดการใช้
ข้อมูลนี้ไม่สามารถเป็นคำสั่งในการใช้ยาได้ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพรหรือแพทย์ก่อนการใช้ยาเสมอ
ปริมาณการใช้ต่อไปนี้ได้มีการศึกษาจากการวิจัยทางวิทยาศาสตร์:
การรับประทาน:
สำหรับคนเป็นโรคหอบหืด : 500-1000 มก. 3 ครั้งต่อวัน โดยเฉลี่ยจะรับประทานโคลีน 200-600 มก.ต่อวัน โดยรับประทานที่เพียงพอตามเกณฑ์ของสถาบันการแพทย์แห่งชาติ สหรัฐอเมริกา IOM
- สำหรับผู้ใหญ่คือ 550 มก. ต่อวัน
- สำหรับผู้ชายและหญิงที่ให้นมบุตร, ส่วนผู้หญิง 425 มก. ต่อวัน
- หญิงตั้งครรภ์ 450 มก.ต่อวัน สำหรับเด็กอายุ 1-3 ปี โดยการรับประทานคือ 200 มก.ต่อวัน
- เด็กอายุ 4-8 ปี 250 มก.ต่อวัน, เด็กอายุ 9-13 ปี 375 มก.ต่อวัน
- สำหรับทารกอายุน้อยกว่า 6 เดือน 125 มก.ต่อวัน ทารกอายุ 7-12 เดือน 150 มก.ต่อวัน
ขนาดการใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรเสริมอาหารอาจแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละราย ทั้งนี้ ขนาดการใช้ขึ้นอยู่กับช่วงอายุ สุขภาพและปัจจัยอื่นๆ ผลิตภัณฑ์สมุนไพรเสริมอาหารไม่ปลอดภัยเสมอไป โปรดปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์เพื่อทราบขนาดที่เหมาะสม
สมุนไพรดังกล่าวอาจอยู่ในรูปแบบใด
โคลีนอาจมีจำหน่ายในรูปแบบต่อไปนี้:
- แคปซูล
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรค และการรักษาโรคแต่อย่างใด
[embed-health-tool-bmi]