backup og meta

ชอบให้แฟนนอนหนุนแขนบ่อยๆ ระวังเสี่ยงเป็น ภาวะพาเรสทีเซีย

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย จินดารัตน์ สิริวิจักษณ์ · แก้ไขล่าสุด 23/09/2020

    ชอบให้แฟนนอนหนุนแขนบ่อยๆ ระวังเสี่ยงเป็น ภาวะพาเรสทีเซีย

    การนอนหนุนแขนแฟน ช่างดูเป็นท่านอนที่ให้ความรู้สึกโรแมนติกและอบอุ่นซะเหลือเกิน สัมผัสที่โอบกอดซึ่งกันและกันสามารถช่วยกระชับความสัมพันธ์ของคู่รักให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น แต่ในทางทฤษฎี หากคุณให้แฟนนอนหนุนแขนบ่อย ๆ อาจทำให้เกิดการกดทับเส้นประสาทแบบไม่ได้ตั้งใจ และเสี่ยงต่อการเกิด ภาวะพาเรสทีเซีย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันได้ วันนี้ Hello คุณหมอ จึงพาทุกคนมาทำความรู้จักกับภาวะดังกล่าวนี้ให้มากขึ้นกันค่ะ

    ภาวะพาเรสทีเซีย (Paresthesia) คืออะไร

    ภาวะพาเรสทีเซีย (Paresthesia) เกิดจากการกดทับที่เส้นประสาท โดยสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการนั่งทับขา การนอนทับแขน เป็นเวลานาน ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการชา คัน ปวดแสบปวดร้อน เหมือนโดนเข็มทิ่มโดยเฉพาะบริเวณแขนและขา

    อย่างไรก็ตาม ภาวะพาเรสทีเซียไม่ใช่โรคเรื้อรังร้ายแรง เป็นอาการเพียงชั่วคราวสามารถหายได้เองโดยไม่ต้องรับการรักษา แต่หากคุณมีโรคประจำตัว และยังมีอาการชาอย่างต่อเนื่อง ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาอย่างถูกต้องและเหมาะสมต่อไป

    สาเหตุของภาวะพาเรสทีเซีย

    ภาวะพาเรสทีเซียเกิดจากการกดทับของเส้นประสาท หรือช่วงเวลาสั้น ๆ ในการขัดขวางระบบการหมุนเวียนของเลือด โดยส่วนใหญ่มักเกิดจาก การนอนหลับทับมือหรือแขน การนั่งไขว้ขานานเกินไป แต่ในผู้ป่วยที่มีอาการชาเรื้อรัง อาจเกิดจากความผิดปกติของเส้นประสาท ซึ่งมีสาเหตุดังต่อไปนี้

    • โรคหลอดเลือดสมอง
    • เส้นเลือดตีบ
    • เนื้องอกในไขสันหลังหรือสมอง
    • โรคเบาหวาน
    • โรคไฟโบรมัยอัลเจีย
    • ความดันโลหิตสูง
    • การติดเชื้อต่าง ๆ
    • ความผิดปกติของเส้นประสาท

    แขนขา รู้สึกชาโดยไม่ทราบสาเหตุ สัญญาณเตือนของภาวะพาเรสทีเซีย

     ผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะพาเรสทีเซีย จะมีอาการดังต่อไปนี้

    • รู้สึกเสียวซ่า เหมือนโดนเข็มทิ่มร่างกาย
    • ปวดเมื่อย ปวดแสบ ปวดร้อน
    • อาการชา คัน
    • ผิวหนังร้อน ๆ หนาว ๆ

    ใครบ้างที่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะพาเรสทีเซีย

    • มีอาการทางระบบประสาท เช่น โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (Multiple Sclerosis; MS)
    • มีภาวะแพ้ภูมิตัวเอง
    • เคลื่อนไหวซ้ำ ๆ ซึ่งทำให้เกิดการกดทับเส้นประสาทซ้ำ ๆ เช่น การเล่นกีฬาเทนนิส การเล่นเครื่องดนตรี
    • รับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ซึ่งอาจนำไปสู่การขาดวิตามิน โดยเฉพาะวิตามินบี 12 และ โฟเลต
    • โรคเบาหวานชนิดที่ 1 และ 2

    การรักษาอาการของภาวะพาเรสทีเซีย

    วิธีการรักษาอาการภาวะพาเรสทีเซียขึ้นอยู่กับสาเหตุและอาการของผู้ป่วย เช่น หากผู้ที่อาการชา แพทย์จะมุ่งเน้นไปที่การรักษาอาการชา และอาจมีการทำกายภาพบำบัดเพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ

    ในผู้ป่วยบางรายแพทย์อาจจ่ายยารับประทานเพื่อบรรเทาอาการปวด เช่น ยาไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) นาพรอกเซน โซเดียม (Naproxen sodium) เป็นต้น ร่วมกับปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยมีคำแนะนำและการปฏิบัติเพื่อป้องกันการเกิดภาวะพาเรสทีเซีย ดังนี้

    • หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวซ้ำ ๆ
    • พักผ่อนให้เพียงพอ หากคุณต้องใช้การเคลื่อนไหวซ้ำ ๆ
    • หากนั่งเป็นระยะเวลานาน ให้ลุกขึ้นมาเคลื่อนไหวบ่อย ๆ

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    ทีม Hello คุณหมอ


    เขียนโดย จินดารัตน์ สิริวิจักษณ์ · แก้ไขล่าสุด 23/09/2020

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา